ผู้แทนอิตาเลียนไทย ปฏิเสธ ไม่ทราบเรื่องการควบคุมงาน การออกแบบ และลายเซนต์ชื่อควบคุมงานของวิศวกร ระบุเป็นเพียงแค่ผู้รับเหมา เปรียบเป็นเหมือนห่วงโซ่อาหารสุดท้ายที่อยู่ต่ำสุด วอนโซเชียลทำความเข้าใจการทำงาน อย่าจินตนาการเกินเลยก่อน ‘ทวี’ เบรก ขอให้ถามนอกรอบ ยันแต่ไม่ได้ตัดสิทธิสื่อ ขณะที่ 2ผู้แทนชิ่งหนีออกประตูบันไดหนีไฟ
วันที่ 29 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวข้อเสนอแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยมีพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผบช.น.และ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ร่วมหารือกับ นายชวนหลิง จาง ผู้แทนจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นับเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และนายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามตัวแทนบริษัทกิจการร่วมค้าฯ ถึงการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณีที่มีประเด็นต่างๆออกมาทั้งเรื่องของการปลอมแปลงลายเซ็นต์ การแก้ไขแบบแปลน ของอาคาร สตง. เนื่องจากประชาชนอยากฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนในการตอบคำถามระบุว่า “เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกิจการร่วมค้า เข้าใจไหมครับ มันเป็นเรื่องของผู้ออกแบบ กับ ผู้ควบคุมงาน ซึ่งพวกผมเป็นกิจการร่วมค้า ที่เป็นผู้รับเหมา ไม่ทราบเรื่องนี้เลย”
เมื่อถามต่อ กรณีปรากฎลายเซ็น 51รายชื่อที่เซ็นควบคุมงานก่อสร้าง เป็นลายเซ็นตัวจริงหรือไม่นั้น นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า เรื่องนี้ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะก็เป็นเรื่องของกิจการร่วมค้า PKW ที่เขาเป็นผู้ควบคุมงาน
เมื่อถามต่อว่าในฐานะที่ เป็นผู้เซ็นสัญญาหลัก มีการตรวจสอบรายละเอียดของสัญญาก่อนที่จะมีการจ้างบริษัทต่างๆหรือไม่นั้น นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของผู้รับเหมาไปตรวจสอบสัญญาอื่น ต้องเข้าใจกันก่อน คือผมเห็นในโซเชียลมีเดียเขียนบางทีเป็น จินตนาการ เกินเลยไปมาก อันนี้ต้องเข้าใจการทำงานก่อน คือ ผู้รับเหมา เป็นห่วงโซ่อาหารสุดท้าย เราอยู่ชั้นต่ำสุด ข้างบนเป็นเจ้าของงาน เป็นผู้ควบคุมงาน เป็นผู้คนออกแบบ พวกนี้เป็นคนสั่งงาน ผมไม่มีสิทธิไปตรวจสอบเขาอยู่แล้ว”
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้พูดตัดบทขึ้นมาว่า ด้วยความเคารพ ส่วนที่เป็นเรื่องคดีขอให้แยกถามต่างหาก เพราะวันนี้เป็นการมาพูดถึงประเด็นเรื่องของการเยียวยา โดยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิสื่อในการถามทางกิจการร่วมค้า แต่ขอให้เป็นการแยกสัมภาษณ์ได้ ซึ่งจะไม่มีผลอะไรกับพนักงานสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนดำเนอนการไปตามพยานหลักฐาน
ซึ่งภายหลังการแถลงข่าวประเด็นการเยียวยาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญสื่อมวลชนมารอสัมภาษณ์หน้าห้องประชุม เพื่อรอสัมภาษณ์เพิ่มเติม โดยหลังการหารือเสร็จสิ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทยอยกันเดินออกจากห้องประชุม เพื่อมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม แต่ทางตัวแทนของกิจการร่วมค้า อิตาเลียนไทย ได้แจ้งผ่านเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และระหว่างอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพิ่มเติมอยู่ พบว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีการปิดประตูไม่ให้เข้าไปภายในห้องประชุม ใช้เวลาการการให้สัมภาษณ์ ประมาณ 10นาที เมื่อเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวที่รอจะสัมภาษณ์ ตัวแทนของบริษัทร่วมค้าอิตาเลียนไทย และไชน่าเรลเวย์ฯ เพิ่มเติม แต่ไม่ปรากฎว่าผู้แทนทั้งสองบริษัทออกมาจากห้องประชุม ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปภายในห้องประชุม แต่ไม่พบผู้บริหารอิตาเลียนไทย และผู้บริหารบริษัทไชน่าเรลเวย์ แล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณหลังห้องประชุม มีประตูที่สามารถทะลุกับบันไดหนีไฟ ลงไปยังบานจอดรถชั้นG ได้ ทั้งนี้จึงคาดว่า ผู้แทนทั้ง2บริษัท หลบสื่อออกทางประตูหลังดังกล่าวไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี