คสช.สั่งคดีมั่นคง-ม.112
ขึ้นศาลทหาร
จัดการเสื้อแดงอันธพาล
ลุยค้นห้องพักนปช.สุรินทร์
ยึดเอกสารผิดกฎหมายเพียบ
เชียงรายยังซ่าแหกเคอร์ฟิวส์
โดนล็อคเข้าคอร์สพลเมืองดี
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศเมื่อเย็นวันที่ 25 พฤษภาคม ว่า ตามที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11 /2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช2557 ให้ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณา และพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น เพื่อให้การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงประกาศให้บรรดาคดีความผิดตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักร และในระหว่างที่ประกาศนี้ใช้บังคับอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร
1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (1) ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา 107 - 112 (2) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา 113 -118 ยกเว้นความผิด ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช 2551 หรือ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548
2.ความผิดตามประกาศ หรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
เอาผิด“โรเบิร์ต”ทนายแม้ว
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผลัดถิ่น ว่า นายโรเบิร์ต มีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่โพสต์ลงสื่อออนไลน์มีส่วนก่อให้เกิดความไม่สงบ แต่เป็นการเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ ทำให้ยากต่อการดำเนินการทางกฎหมาย แต่จะมีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการกับนายโรเบิร์ตต่อไป แต่ที่ดำเนินการไปแล้วในขณะนี้คือการใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ปิดกั้นการเข้าถึงให้มากที่สุด
ลุยค้นแกนนำเสื้อแดงสุรินทร์
บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.นิรุทธ เกตุสิริ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และ พันเอกณัฏฐ์ ศรีอินทร์ เสธ.กองกำลังสุรนารี นำกำลังทหาร ตำรวจ เข้าตรวจค้น ห้อง 507 แกรนด์อพาทเมนต์ ซอยสระโบราณ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นห้องพัก นางพรทิพย์ ปราชญ์นาม แกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สุรินทร์และเป็น 1ใน 21 คนร้ายที่เตรียมก่อเหตุและถูกจับกุมได้ในโรงแรมดัง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบเอกสารหลักฐานหมิ่นสถาบันและโครงสร้าง นปช.จำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อตรวจสอบและรายงานให้กองทัพทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
เชียงรายฝ่าฝืนเคอร์ฟิว120คน
ที่ค่ายเม็งรายมหาราช พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บังคับการจังหวัดทหารกเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) กล่าวว่า กรณีกฎอัยการศึกตั้งแต่ประกาศใช้วันแรกพบว่าประชาชนกว่า 90% ทราบและให้ความร่วมมือดี และวันที่ 22 พ.ค.มีการเตือนให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบเรื่องเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือเคอร์ฟิว 22.00-05.00 น.และวันที่ 23 พ.ค.มีคนทำผิดประมาณ 120 คน
ล่าสุดคืนวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมายังพบการกระทำผิดอีก 120 คนอ้างว่ามีความจำเป็นแต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นจริง จึงมีการนำเข้าอบรมหน้าที่พลเมืองดี การมีวินัยและรักชาติ และความละอายต่อบาปจากนั้นปล่อยตัวไป แต่หากพบยังมีการกระทำผิดซ้ำก็จำเป็นต้องดำเนินคดีฟ้องศาลซึ่งเป็นอำนาจของ ผบ.ทบ.จะพิจารณาให้ไปสู่ศาลปกติหรือศาลทหาร
ดังนั้นหากต้องขึ้นศาลทหารก็มีการพิจารณาศาลเดียวอีกหรือหากถึงที่สุดมีโทษจำคุกหรือปรับก็จะเสียประวัติ จึงขอให้ประชาชนทำตามเคอร์ฟิวและไม่สามารถบอกได้ว่า จะยกเลิกเมื่อไหร่ กระนั้นเชื่อว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ว่าจะมีการออกต่อต้านหรือไม่ด้วย
เผยสั่งปิด3วิทยุเสื้อแดงเถื่อน
พล.ต.พัฒนากล่าวถึงกรณีวิทยุชุมชนด้วยว่ายังมีการประกาศให้งดการออกอากาสไปก่อนในระยะนี้แต่ยังพบว่ามีหลายแห่งยังกระทำการฝ่าฝืน โดยล่าสุดได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงของ ที่ได้ออกอากาศปลุกระดมมวลชนให้ออกมาต่อต้าน คสช. จึงทำการยึดเครื่องส่งกระจายเสียงและปิดสถานีแล้ว ส่วนสถานีอื่นๆ ได้มีการปิดแล้ว 3 แห่งเพราะออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนสถานีอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เปิดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการประกาศของ คสช.ต่อไป โดยอาจจะแต่ละพื้นที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หากว่าพื้นที่เชียงรายถูกพุ่งเป้ามาก จะต้องเข้ากวาดล้างหนักต่อไป
ให้ญาติฝากของใช้ผู้ถูกคุมตัว
ด้านบรรยากาศการควบคุมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของกองอำนวยการรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 2โดยภายในค่ายสุรนารี สโมสรร่วมเริงไชย จ.นครราชสีมา ไม่มีการราชการงานของทุกภาคส่วน รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ส่วนที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบก็ไม่มีความเคลื่อนไหวของคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 มีเพียงเข้าหน้าที่ทหารประจำการปรกติ
ขณะที่พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่2 กล่าวว่า ขณะนี้แกนนำที่เราได้เชิญตัวมารายงานตัวจำนวนมากพอสมควร โดยเฉพาะคนหลักๆ เช่น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธาน อพปช.และคนอื่นๆ พักอยู่ที่บ้านพักรับรองที่เราจัดให้ดูแลเป็นอย่างดี เสมือนพี่น้องกัน ยืนยันว่า ทุกคนสุขบายดี โดยอยากจะขอบอกฝากไปยังญาติพี่น้องของคนเหล่านี้ว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เราให้ความสำคัญเท่ากันหมด ดูแลเหมือนกันหมด ส่วนที่หากพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ที่เราเชิญตัวมาอยากมีความประสงค์จะสอบถามความเป็นอยู่สอบถามได้หรือฝากสิ่งของให้ติดต่อได้ที่มณฑลทหารบกในแต่ละพื้นที่ทั้ง 20 จังหวัดได้ ไม่ว่าจะฝากข้าวปลาอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวก็สามารถติดต่อนำไปฝากได้ เรื่องสารทุกข์สุขดิบยืนยันขอให้สบายใจได้ ขณะนี้ทุกคนก็ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ พล.ต.ประวิทย์ฯกล่าว
สั่ง13นปช.ปักษ์ใต้รายงานตัว
ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แกนนำเครือข่ายคนเสื้อแดงใน 3 จังหวัดภาคใต้ คือ สงขลา สตูล และพัทลุง ได้ทยอยเข้ารายงานตัวต่อ พล.ต.เลอชัย มาลีเลิศ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ตามคำสั่งของมณฑลทหารบกที่ 42 ที่ให้บุคคลมารายงานตัว จำนวน 13คนโดยเร็วที่สุดและเป็นแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมด หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ซึ่งขณะนี้มีแกนนำเสื้อแดงเข้ารายงานตัวแล้ว 2 คน คือ นายสุบรรณ สุวรรณรัตน์ และนายจำแลง มงคลนิสภกุล ส่วนที่เหลือได้ติดต่อขอเข้ารายงานตัวต่อทหารแล้วเช่นกัน
สำหรับแกนนำเสื้อแดงใน จ.สงขลา สตูล และพัทลุง ที่มีคำสั่งให้เข้ารายงานตัวประกอบด้วย นายสมพงษ์ สระกวี นายบุญญา หลีเหล็ด นายไสว ณ พัทลุง นายชูศักดิ์ เดชดี นายสุวรรณ สุวรรณรัตน์ นางนิษิฎภัทร วิไลรัตน์ พ.ต.ท.ศักดิ์ กลิ่นเขียว นายจิรายุส เนาวเกตุ นายชินกฤช อุตะปะละ นายกู้ชาติ ชายเกตุ นายจำแลง มงคลนิสภกุล นายทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ และนายพงพนธ์ จิตภักดี
กลุ่มต่อต้านยังป่วนทหาร
ด้านความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ต่อต้านการยึดอำนาจของทหาร ยังคงชุมนุมกันที่หน้าแมคโดนัลด์ แยกราชประสงค์ เป็นเชิงสัญลักษณ์ โดยมีทหารตำรวจคอยดูแลความเรียบร้อยขณะเดียวกันผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไปชุมนุมบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ชูป้ายเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้ง ไม่เอารัฐทหาร ก่อนสลายการชุมนุมไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี