รบ.ลั่นบ้านเมืองวุ่นไม่จบ

บิ๊กตู่อยู่ยาว

ย้ำไร้ทางเลือก-ไม่ทิ้งปชช.

ยึดโรดแมป-สงบค่อยไป

สปช.เตือนรธน.ก่อขัดแย้ง

ต้นตอต้องเลื่อนเลือกตั้ง

จับตาเรียกทูตแจงใช้ม.44

เกิดกระแสตามมาอย่างมากมายสำหรับกรณี นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญกันว่าเป็นโหรประจำคณะมนตรีความมั่งคงแห่งชาติ (คมช.) ซึ่งยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้ออกมาทำนายว่า การเลือกตั้งในประเทศไทยจะถูกเลื่อนออกไป ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะต้องอยู่ในตำแหน่งไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี

รัฐบาลยันทำงานตามโรดแมป

โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า คงเป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจ และนายกรัฐมนตรีก็คงสบายใจขึ้นโดยเฉพาะหากบ้านเมืองมีความสงบ ไม่วุ่นวาย ส่วนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะอยู่ในตำแหน่งอีกกี่เดือนหรือกี่ปีนั้น คิดว่า ประเด็นสำคัญที่รัฐบาลนำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาก็คือเรื่องภาระงานตามโรดแมปว่าได้ดำเนินการลุล่วงไปตามเป้าหมาย สมเจตนารมณ์ที่เรามุ่งมั่นไว้หรือไม่ เพราะนายกรัฐมสตรีนำเอาเป้าหมายของการงาน เป็นที่ตั้ง หากทุกอย่างเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่รัฐบาลจะต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพราะนายกฯพูดเสมอว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้ต้องการอำนาจแต่ต้องการทำงานเพื่อประเทศ

แบะท่ายังวุ่นไม่จบ“บิ๊กตู่”อยู่ยาว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า แม้จะมีการทำนายทายทักอย่างไร แต่หากยังมีความพยายามปลุกปั่น ยั่วยุ ขัดขวาง การทำงานของรัฐบาลอยู่ก็จะส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่เป็นไปตามแผน และระยะเวลาที่วางไว้

“หากยังมีความเคลื่อนไหวอันนำไปสู่ความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนอันตรายให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชน รัฐบาลก็คงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกเหนือจากต้องยืนเคียงข้างประชาชน เราไม่สามารถละทิ้งประชาชน และหน้าที่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ทหารทุกนายถูกปลูกฝังมา” พล.ต.สรรเสริญ ย้ำ

สนช.ยันยึดโรดแมปเป็นหลัก

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่ขอวิจารณ์คำทำนายของโหร คสช. แต่ถ้าเป็นเรื่องของการทำงาน สนช.ต้องยึดตามโรดแมปไว้ก่อน จะเอาเรื่องของคำทำนายมายึดเป็นสาระไม่ได้ เพราะไม่มีความเกี่ยวพันกับโรดแมป ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมายที่รัฐบาลเสนอมาโดยจะต้องที่พิจารณาให้ทัน ทางสนช.จะเน้นการทำงานให้มีคุณภาพ และเชื่อว่าประชาชนต้องการความสงบ ความปรองดอง ตราบใดที่ไม่มีการชุมนุม ประชาชน ก็คงจะพอใจการทำหน้าที่ของรัฐบาล

ชี้รธน.ขัดแย้ง-เลื่อนเลือกตั้งแน่

นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณี นายวารินทร์ ทำนายการเลือกตั้งในปี 2559 จะต้องเลื่อนออกไปว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกไว้ว่าจะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมปให้เร็วที่สุด ส่วนตัวไม่อยากเห็นบ้านเมือง เกิดความวุ่นวายคนในชาติทะเลาะเบาะแว้งอีก ได้ย้ำมาตลอด อยากให้รัฐธรรมนูญออกมาแล้วสามารถใช้ประโยชน์ได้ ไม่อยากให้เป็นที่มาของความขัดแย้งอีก หากมีคนทักท้วงร่างฯมาก กมธ.ยกร่างฯรีบแก้ไขให้รอบคอบและหาทางออกเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความพอใจ ถ้าทุกฝ่ายเกิดความพอใจจะส่งผลทำให้เลยระยะเวลาที่โรดแมปกำหนดไว้ไปสักระยะหนึ่ง ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ไม่ควรจะถึง3ปี

“ถ้าจะมีเหตุทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป ก็คงจะเกิดจากตัวร่างรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้ออกมาแล้วทุกฝ่ายเห็นตรงกันให้ได้” นายดิเรก ย้ำ

วันชัยแนะกมธ.เลิกเกรงใจ

ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริ สปช. กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ต้องคำนึงเป็นการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประเทศไทย เป็นสำคัญ ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อนักการเมือง5-6พันคนจะพอใจหรือไม่ และเป็นการร่างเพื่อแก้ปัญหาของบ้านของเมืองที่ล้มเหลวมาในทุกด้านและเป็นการปฏิรูปประเทศ สิ่งสำคัญ คือ ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้นักการเมืองไปเลือกตั้งแล้วกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมเป็นแบบเดิมเท่านั้น

“การร่างฯครั้งนี้ ต้องไม่เกรงใจใคร หากกมธ.ยกร่างฯพิจารณาครบถ้วนรอบด้านเห็นว่าสิ่งใดไหนดี สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนควรแก้ เอาเลย ทำเลย อย่าลังเล อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนเสียหลักการ ถ้าร่างออกมาแล้ว เห็นว่าแก้ปัญหาประเทศได้ทำให้บ้านเมืองนี้เดินต่อไปได้ดีก็เดินหน้าเต็มที่ อย่าชักเข้า ชักออก กมธ.ยกร่างฯต้องเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง”นายวันชัย ย้ำ

รบ.อยู่นานไม่เกี่ยวคำทำนาย

ส่วนกรณี นายวารินทร์ ทำนายว่า รัฐบาลจะอยู่ต่ออีก 2-3 ปี และการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามโรดแมปนั้น นายวันชัย กล่าวว่า รัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ หรือจะทำงานนานกว่าโรดแมป ปัญหาอยู่ที่ทำงานถูกใจประชาชนหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เรื่องของดวงดาว ดวงชะตา หรือราศีผู้ใดทั้งสิ้น สิ่งที่ผลักดันให้รัฐบาลอยู่ได้ คือ การทำงาน รัฐบาลทำงานดี แก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาของประชาชนได้ประชาชน ก็ให้อยู่เอง แต่ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ให้อยู่นานแค่ไหน ประชาชนก็จะออกมาไล่ให้ไปเอง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้

รบ.เรียกทูตต่างชาติแจงใช้“ม.44”

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 7 เมษายน เวลา 13.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะบรรยายสรุปการดำเนินงานของประเทศไทย เรื่องการประกาศใช้มาตรา 44 ให้กับคณะทูตานุทูตต่างชาติ และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนประเทศต่างๆ ที่ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีเอกสารคำประกาศใช้มาตรา 44 ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศจัดแปลเป็นภาษาอังกฤษเป็นเอกสารประกอบการบรรยายเพื่อให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น การบรรยายครั้งนี้จะเปิดให้ผู้ที่ได้รับเชิญจากหน่วยงานเข้าร่วมรับฟังเท่านั้น

“บิ๊กต็อก”เหน็บบางปท.ไม่อยากเข้าใจ

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา แม้หลายประเทศที่เข้าใจ แต่ก็ยังมีบางกรณีที่ยังเกิดความไม่เข้าใจ อาจจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงเพราะถือเป็นหน้าที่ ทั้งนี้เรามุ่งหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องสร้างความรับรู้ แม้จะมีบางส่วนตั้งใจที่จะไม่เข้าใจก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องพูดกันว่า คุณไม่เข้าใจเราอีกหรือ เราให้เหตุผลทั้งหมดแล้ว คุณไม่เข้าใจเหตุการณ์ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557หรือว่าเป็นอย่างไร

โพลบิ๊กชุมชนเชื่อมั่นนายกฯใช้ม.44

วันเดียวกัน นายเชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน ได้ออกมาเปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง ความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการยกเลิกกฎอัยการศึกและประกาศใช้กฎหมายมาตรา 44 โดยสอบถามแกนนำชุมชนทั้งสิ้น 1,016 ชุมชน จาก 19 จังหวัด พบว่า แกนนำร้อยละ94.4 ระบุทราบข่าวการยกเลิกกฎอัยการศึกและประกาศใช้มาตรา 44 แกนนำชุมชนร้อยละ 38.3 เห็นด้วยว่านายกฯตัดสินใจถูกต้องแล้ว และคิดว่ากฎหมายมีความใกล้เคียงกันมาก ขณะที่แกนนำชุมชน ร้อยละ 87.4 เชื่อมั่นในกฎหมายดังกล่าวและน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นและร้อยละ 60.4 ระบุไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย

เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้กฎหมายมาตรา 44 อย่างสร้างสรรค์ตามที่รับปากไว้กับประชาชนหรือไม่ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 67.4 เชื่อมั่นว่าจะเป็นเช่นนั้น ให้เหตุผลว่านายกฯเป็นคนพูดจริง ทำจริง เป็นคนมองการณ์ไกล มีความรับผิดชอบ ตรงไปตรงมา มีการวางแผนไว้ชัดเจนแล้ว แกนนำชุมชนร้อยละ 27.3 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 5.3 ไม่เชื่อมั่นเพราะเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่นิ่ง นายกฯคนเดียวอาจจะควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ และเป็นคนใจร้อน

ญาติวีรชนจี้ต้องใช้สร้างสรรค์

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า คสช. ฉลาดที่ยกเลิกกฏอัยการศึก ทำให้สากล สบายใจ แต่คสช.อาจจะไม่เฉลียวใจว่าารใช้ มาตรา44 จะมีผลกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานการแสดงออก ความคิดเห็นของประชาชน ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์จริงๆ ลำพังแค่คนกลุ่มบางกลุ่มป่วน คงไม่จำเป็นต้องลากกองทัพมาจัดการเพียงใช้กฎหมายให้จริงจังและเด็ดขาด ก็จัดการได้แล้ว บางเรื่องที่ยังไม่เหมาะกับสถานการณ์ และยังไม่สมควรแก่เวลาเพราะประชาชนส่วนใหญ่ ก็เอือมระอากับความรุนแรง

พท.ดิ้นจี้ใช้ม.44จัดเลือกตั้ง

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อค้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่ม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญยึดโยงกับประชาชน แต่การร่างรธน.2558 กมธ.ยกร่างฯไม่ยึดโยงกับประชาชน จึงต้องทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วมเหมือนปี 2540 และ 2550 ถ้าประชาชนไม่ยอมรับตามขั้นตอน ก็ต้องตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกมธ.ยกร่างฯขึ้นใหม่ อาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปี ประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ เมื่อเขาไม่เชื่อมั่น อาจจะไม่เข้ามาติดต่อ หรือลงทุนในประเทศได้

“ถ้าประชามติไม่ผ่านก็เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 กำหนดให้มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ชั่วคราว เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่น และกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วมขึ้นมาร่างกฎหมายให้เป็นที่ยอมรับ กำหนดเวลาในการร่างให้ชัดเจนจะดีกว่าปล่อยให้เสียเวลาไปอีก1ปี”

ภท.สั่งลงพื้นที่-ยันม.44 ไม่กระทบ

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงทิศทางการเดินหน้าของพรรคภูมิใจไทยช่วงก้าวสู่ปีที่ 7 ว่า ต้องรอกติกาที่จะออกมาจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะบัญญัติเกี่ยวกับพรรคการเมืองอย่างไร ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้ทำอะไรหรือเคลื่อนไหวดำเนินการใดๆจนกว่ามีกติกา หรือกฎหมายที่ชัดเจน ขณะนี้สมาชิกพรรคได้ลงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่อยู่ตลอดและพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เดือดร้อนต่อการประกาศใช้มาตรา 44 และ ตนและสมาชิกพรรคทุกคนพร้อมทำตามกฎหมายทุกอย่างและพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อให้ประเทศไทยกลับมามีความมั่นคงอีกครั้ง ทุกคนยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

ปชป.ยังเชื่อตู่ทำตามโรดแมป

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีโหรวารินทร์ทำนายอายุ รัฐบาลจะอยู่ 2-3 ปีว่าถ้ารัฐบาลจะอยู่เกินโรดแม็พ ต้องมีคำอธิบายที่ดี เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันมาตลอดว่าจะทำตามโรดแม็พ ถ้าอยู่เลยเวลาที่ประกาศไว้ ก็ต้องมีเหตุผลเพียงพอ เพราะภาพที่ออกมาไม่ได้กระทบในประเทศเท่านั้น แต่กระทบถึงต่างประเทศด้วย รัฐบาลจะทำเพื่ออะไร ก็ต้องมีเหตุมีผล ถ้าเหตุผลไม่ดีก็คงจะอยู่ยาก

ยังไม่เห็นสัญญาณอยู่ยาว

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะตัดสินใจอย่างไร ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่ารัฐบาล จะไม่อยู่ตามโรดแม็พที่ประกาศไว้ ดังนั้นเราก็ต้องเชื่อมันในคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้นำรัฐบาลและหัวหน้าคสช.และส่วนตัวยังไม่มองไปถึงอนาคตว่าจะเป็นไปตามที่โหรทำนาย เพราะยังเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะยังปฏิบัติตามที่ได้พูดไว้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าควรฟังสิ่งที่โหรทำนายไว้ แต่อย่าไปเชื่อมาก หากรัฐบาลจะอยู่ยาวเลยโรดแม็พที่วางไว้ ต้องดู2ปัจจัยว่าประชานจะยอมให้อยู่หรือไม่คือ1.รัฐบาลนี้แก้ปัญหาได้ดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนก็อาจจะเอนเอียงให้รัฐบาลอยู่ต่อ2.ต้องดูสังคมโลกว่าเขาพร้อมที่จะคุยกันเราในขณะที่เราเป็นประเทศที่มีการปกครองระบบทหารหรือไม่ ถึงแม้ว่าประชาชนต้องการให้อยู่แต่สังคมโลกไม่เอา ก็อยู่ยาก

ยะใสชี้สังคมรอพิสูจน์ดูใช้ม.44

นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัย รังสิตและ ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย(สปท.)กล่าวถึงข้อถกเถียงในประกาศ คสช.ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวว่าเป็นประเด็นที่ท้าทายและประชาชนก็รอการพิสูจน์จาก คสช.และรัฐบาลว่าจะนำไปใช้อย่างสร้างสรรค์ได้จริงหรือไม่ ประกาศที่ออกมายังเน้นเรื่องความมั่นคง ทำให้ถูกวิจารณ์จากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศ เพราะขณะนี้เชื่อว่ามีคนจำนวนมากอยากเห็นหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา44 แก้ปัญหาที่สะสมในเรื่องใหญ่ๆที่ระบราชการ หรือกลไกปกติแก้ไขไม่ได้ ไม่ว่าการปรองดอง ปฏิรูปตำรวจ เรื่องพลังงาน การบุกรุกที่สาธารณะกลุ่มทุนและการเมือง ปัญหาหลุมดำในวงการสงฆ์หรือแม้แต่ขบวนการปั่นหุ้นอินไซด์เดอร์เทรดในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น จึงเป็น สิ่งที่ท้าทาย อยู่ที่ว่าใช้มาตรา44 อย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับส่วนรวมได้อย่างไร

ปชป.ทำบุญ70ปีก่อตั้งพรรค

ในช่วงเช้าวันเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานทำบุญครบรอบ 69ปีก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ย่างเข้าสู่ปีที่ 70 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ นายบรรทัด บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคฯ อดีต ส.ส. สมาชิกพรรค และประชาชน รวมทั้งนายมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ พร้อม มีนายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา พร้อมตัวแทนพรรคเข้าร่วมแสดงความยินดี

หลังทำพิธีเสร็จสิ้น พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดพิธีรดน้ำและขอพรผู้ใหญ่ของพรรค เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อาทิ นายมารุต นายสมบูรณ์ จีระมะกร อดีตรมว.อุตสาหกรรม นายชนะ รุ่งแสง อดีตส.ส.พรรค ปี 2519และนายสนั่น สนั่นวัฒนานนท์

ชวน-มาร์ค ให้ลูกพรรคเกาะพื้นที่

จากนั้น นายชวนได้กล่าวว่าการจัดงานในครั้งนี้ ยังติดประกาศ คสช.ทำให้ไม่สามารถพูดเรื่องการเมืองได้แต่คนที่เป็นผู้แทนฯก็ต้องทำงานเป็นปกติ ต้องดูแลชาวบ้านในพื้นที่ตลอด ส่วนตัวภูมิใจในการได้มาเป็นผู้แทนฯไม่ใช่ว่าไม่มีทางไป หรือไม่มีงานทำ จนต้องมาเป็นผู้แทนฯเพราะต้องการที่จะเป็นผู้แทนฯของประชาชน

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 10ปีที่ผ่านมาการเมืองมีปัญหาในหลายเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ก็ผ่านมาได้จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อนพรรคประชาธิปัตย์เราก็มองเห็นในหลายเรื่อง แม้แต่เรื่องรัฐธรรมนูญที่เราได้ออกมาตักเตือนหลายๆคนเขาก็คิดว่า เป็นเรื่องใหม่ แต่เรื่องเก่าที่เรามีบทเรียน คนในพรรคไม่มีใคร ไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไม่ไปข้างหน้า สถานะภาพของพวกเราตอนนี้ คือคนตกงาน ในส่วนผู้แทนฯไม่ใช่คนตกงานมีสื่อมาขอสัมภาษณ์ว่าในช่วงปิดเทอมมีกิจกรรมอะไรทำบ้าง ก็บอกว่าผมไม่มีปิดเทอม เราอยู่ในพื้นที่พบปะกับประชาชนตลอด