ห้ามแบ่งซองขาย

อายุต่ำ20ปีซื้อบุหรี่ไม่ได้

เคาะร่างพรบ.ยาสูบใหม่

รวม“บารากู่-บุหรี่ไฟฟ้า”

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยมีสาระสำคัญ คือ ได้มีการรวมพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบพ.ศ.2535 และพ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ไว้เป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน รวมถึงได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการ หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาต่อไป

สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการให้สอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีทั้งหมด 7 หมวด รวม 79 มาตรา โดยได้ปรับปรุงนิยาม “ผลิตภัณฑ์ยาสูบ” ให้ครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น มอระกู่ หรือ บารากู่ มอระกู่ไฟฟ้า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มนิยาม “การสื่อสารการตลาด” ให้ครอบคลุมไปถึงการส่งเสริมการขาย การแสดง ณ จุดขาย การขายโดยใช้บุคคล เช่น พริตตี้ การสร้างภาพลักษณ์ และเพิ่มเติมนิยาม “ฉลาก” ให้ครอบคลุมการแสดงฉลากของผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ยังกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบจากเดิมอายุ 18 ปี เป็น 20 ปีขึ้นไป และเพิ่มข้อกำหนดห้ามขายด้วยวิธีต่างๆที่มีลักษณะเป็นการจูงใจให้บริโภค หรือการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น การขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การแสดงราคาผลิตภัณฑ์ ณ จุดขายในลักษณะจูงใจ และกำหนดห้ามแจกจ่าย เนื่องจากเป็นการจูงใจประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนให้ทดลอง รวมถึงกำหนดห้ามขายในสถานที่ต่างๆ ที่ง่ายต่อการเข้าถึงเด็กและเยาวชน เช่น วัดสถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา สวนสาธารณะ และห้ามแบ่งซองขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือแบ่งขายรายมวน

กฎหมายฉบับดังกล่าวยังได้กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้แทนจำหน่าย หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินกิจกรรมในลักษณะอุปถัมภ์ หรือการสร้างความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม ห้ามตั้งแสดงผลิตภัณฑ์ในสถานที่ขายปลีก และผู้ผลิต ผู้นำเข้าต้องมีหน้าที่แจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ และส่งตัวอย่างที่จะผลิตออกขาย หรือนำเข้ามาเพื่อขายในไทย ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตรวจสอบ รวมถึงกำหนดให้จัดแสดงภาพคำเตือนพิษภัยบนซองผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังเพิ่มอำนาจหน้าที่ของพนักงาน เช่น มีอำนาจในการยึดหรืออายัดผลิตภัณฑ์ยาสูบ ถ่ายภาพ บันทึกเสียงและออกใบสั่ง โดยจะมีการเพิ่มอัตราโทษให้สูงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันอีกด้วย

“บทบัญญัติที่เพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เช่น การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ กลยุทธ์ของธุรกิจยาสูบในการเพิ่มจำนวนผู้บริโภค และยังยกระดับการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน ไม่ให้เข้าถึงโดยง่าย ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนนักสูงรายใหม่อีกทางหนึ่ง รวมทั้งเป็นการลดภาระงบประมาณในด้านช่วยเหลือการแพทย์ที่เกิดจากโรคต่างๆ ส่วนร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น ชาวไร่ผู้ปลูกใบยาสูบ ซึ่งจะมีแนวทางในการแก้ไขกลุ่มนี้ต่อไป” พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว ด้วยว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กำหนดเขตปลอดบุหรี่เพิ่มเติม โดยไม่ได้เน้นว่าจะสนับสนุนการสูบบุหรี่ แต่จะเน้นจำนวนผู้เสพ และไม่ให้เกิดผู้เสพรายใหม่