22 เม.ย.61 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) เล่าเรื่องของ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า 1 ใน 13 พันธมิตรฯ ที่ถูกอายัดบัญชีหลังศาลแพ่งสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายกรณีชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวนเงิน 522 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ประมาณ 800 ล้านบาท

โดย นายสุเทพ ระบุว่า นางมาลีรัตน์เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกอายัดบัญชี เป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งและมีบทบาทโดดเด่นมากตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักศึกษา ม.ขอนแก่น ได้แสดงเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อประชาชนมาโดยตลอดจนกระทั่งจบการศึกษาได้กลายเป็นผู้มีบทบาททางสังคม เมื่อเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 มีนักศึกษา และประชาชนจำนวนมากเสียชีวิต นางมาลีรัตน์ก็ต้องหลบหนีเข้าป่าเหมือนนักศึกษาปัญญาชนคนอื่นๆ ที่ถูกกำจัดไล่ล่าจากผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า หลังออกจากป่านางมาลีรัตน์ได้ทำงานให้กับสังคม โดยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อปี 2538 ต่อมาในปี 2543 ได้ลงสมัครับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ซึ่งถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญ เนื่องจากเป็น ส.ว.ในยุค นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และได้เริ่มแผ่อิทธิพลครอบงำวุฒิสภา มีการจ่ายเงินเดือนพิเศษให้กับ ส.ว.ที่อยู่ภายใต้การดูแล การได้รู้เห็นพฤติกรรมของนายทักษิณ เป็นแรงผลักดันให้นางมาลีรัตน์เข้าร่วมการต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ในปี 2549 และปี 2551 และเธอก็เหมือนกับแกนนำคนอื่นๆ คือผลที่ได้รับจากการต่อสู้คือคดีความทั้งแพ่งและอาญา

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า นางมาลีรัตน์ได้เขียนเฟซบุ๊กพูดถึงเรื่องการถูกอายัดบัญชี ตนได้อ่านเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าตนสมควรที่จะได้ชักชวนประชาชนระลึกถึงบุคคลเหล่านี้เพื่อส่งความเห็นใจ เข้าใจ และกำลังใจไปให้ ตนอ่านจากเฟชบุ๊คของนางมาลีรัตน์รู้เลยว่ารู้สึกต่อการถูกอายัดบัญชี เพราะสิ่งที่ได้ร่วมต่อสู้กับ กปปส.มาก่อนหน้านั้น เป็นเรื่องการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง แต่ผลที่ได้รับเป็นปัญหาของเธอและครอบครัวอีกนาน

"ผมเห็นใจ และเชื่อว่ามวลมหาประชาชนที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมาก็คงเห็นใจนางมาลีรัตน์เช่นเดียวกัน ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณติ๊ก-มาลีรัตน์ แก้วก่า" นายสุเทพ กล่าว