‘วันนอร์’ลั่นไม่เกินฝัน ประกาศเป็นนายกฯด้วย สส.20 ที่นั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้(23 ธ.ค.61) ที่โรงแรมวังโนราห์   อ.เมือง จ.พัทลุง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนใน จ.พัทลุง ที่สนับสนุนพรรค และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง ประกอบด้วย เขต 1 นายกู้ชาติ  ชายเกตุ อดีต สจ.พัทลุง และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง พรรคเพื่อไทย , เขต 2 นายบุญพา เกื้อทอง สจ.พัทลุง  7  สมัย และเขต 3 นายประสิทธิ์ ฝ้ายเส็ม อดีตที่ปรึกษานายก อบจ.พัทลุง ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมการประชุมหลายร้อยคน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชาติมีหัวหน้าพรรคเป็นชาวใต้ เลือกตั้งในครั้งนี้อย่าให้ถูกงูกัดเป็นครั้งที่ 2 สมัยที่นั่งเป็น รมว.คมนาคม ได้สร้างความเจริญให้ชาวไทยทั่วประเทศและชาวพัทลุงมาแล้วโดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ เชื่อมระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง  กับ อ.ระโนด จ.สงขลา และการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ สำหรับพรรคประชาชาตินั้นไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย จะต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อพี่น้องประชาชน ต่อต้านการยึดอำนาจจากทหารเพราะมิใช่ความสงบสุข โดยความสงบสุขของประเทศชาติที่แท้จริงอยู่บนฐานความสุขของพี่น้องประชาชน

นายวันมูหะมัดนอร์นอร์ มทา กล่าวอีกว่า ประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะประสบกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องเปลี่ยนแปลงประเทศเหมือนกับประเทศเมียนมา ซึ่งฝ่ายเผด็จการต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด สำหรับชาวใต้เรากินของเก่ามานานแล้ว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเลือกกินของใหม่ที่มีหัวหน้าพรรคเป็นชาวใต้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน ดังนั้นการที่ประเทศไทยมีผู้นำเป็นชาวไทยมุสลิม จึงถือเป็นเกียรติภูมิของประเทศไทยและพี่น้องชาวไทยมุสลิม

สำหรับตนนั้นจากประสบการณ์การเมืองในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆในรัฐบาลที่ผ่านมา รวมทั้งประวัติส่วนตัวที่มีความสุจริต โปร่งใส ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาล ฯลฯ ตนจึงพร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรับมนตรี แม้พรรคประชาชาติจะตั้งความหวังที่นั่งของพรรคฯไว้ที่ 20 ที่นั่ง ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องเกินฝันที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศได้  ซึ่ง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่สร้างเกียรติประวัติเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดของโลกนั้น มีเสียงในสภาแค่  14  ที่นั่ง ยังเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศได้แล้ว