"สมชาย วงศ์สวัสดิ์"ควง"พร้อมพงศ์"ลุยหาเสียงเมืองสามหมอก คนแห่เซลฟี่ สะท้อนปัญหาและหวัง"เพื่อไทย"เข้าบริหารประเทศ แก้ปัญหาเกษตรกร-สานต่อการท่องเที่ยวการค้าชายแดน

18 มี.ค.62 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ช่วย นายวิเชียร บุญระชัยสวรรค์ ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน หมายเลข 4 ของพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียง สมทบกับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรค และคณะ ที่ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) โดยนายสมชาย เดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (17 มี.ค.) ตามกระแสเรียกร้องของชาวแม่ฮ่องสอน และได้ลงพื้นที่พบปะผู้ค้าขายในตลาดริมแม่ร้ำปายทันที

ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ได้นำคณะพรรคเพื้อไทย หาเสียงภายในตลาดสายหยุด เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ต่อด้วยตลาดใน อ.ขุนยวม , อ.แม่ลาน้อย และปิดท้ายที่อ.แม่สะเรียง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด และตัวอำเภอต่างๆ ให้การตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมร่วมถ่ายภาพคู่กับนายสมชาย , นายพร้อมพงศ์ และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอย่างคึกคักและเป็นกันเอง ขณะที่จำนวนไม่น้อยบอกกับทีมงานพรรคเพื่อไทย ว่า บุตรหลานและญาติพี่น้องที่ทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าให้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว

นายสมชาย กล่าวว่า ชาวแม่ฮ่องสอนชื่นชมผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และรับรู้นโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะการยกระดับราคาพืชผลการเกษตร และการปรับโครงสร้างหนี้ต่างๆ ที่ชาวแม่ฮ่องสอนกำลังเผชิญปัญหาอย่างหนักหน่วงเช่นเดียวกับเกษตรกรทั่วประเทศ และเสียดายที่พรรคเพื่อไทยเผชิญวิกฤตการเมืองจนไม่ได้ผลักดันนโยบายที่จะขยายสนามบินและถนนสี่เลน เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว "เมืองสามหมอง" และการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม 2 ประเด็นนี้ ยังเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ ซึ่ง จ.แม่ฮ่องสอน มี ส.ส.ได้เพียง 1 คน แต่ขนาดพื้นที่กว้างขวาง ทำให้ถูกละเลยในหลายๆ ด้าน กระทั่งเป็นจังหวัดที่ยากจนลำดับต้นๆ ของประเทศ

ทั้งนี้ นายสมชาย กล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคนที่ต้องเข้าถึงบริการของรัฐและการพัฒนา ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แม้มีจำนวนเก้าอี้ ส.ส.เพียง 1 ที่นั่ง แต่คุณภาพชีวิตของประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญ และที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน เคยได้ ส.ส.ใน จ.แม่ฮ่องสอน แม้จะเสียพื้นที่ไปในการเลือกตั้งล่าสุด แต่ปัจจุบันได้ฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผ้าชาติติพันธ์ต่างๆ หลายกลุ่ม ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภา และตั้งใจมอบความไว้วางใจ และคาดหวังให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปบริหารประเทศ

ด้าน นายวิเชียร ยืนยันว่า ได้เป็น สจ.3 สมัย รับรู้ปัญหาและความต้องการของชาวแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและสาธารณสุขที่ขาดแคลน , การท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่ไม่ได้ใช้ศักยภาพของพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำ ในห้วง 4 - 5 ปีที่มานี้ โดยที่ผ่านมาพยายามผลักดันการพัฒนาในท้องถิ่น แต่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ และการเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้นายวิเชียร ลงสนามการเมืองระดับชาติ และชื่นชอบแนวนโยบายตลอดจนผลงานที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทย จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย แม้ว่ามีหลายพรรคการเมืองทาบทามมาก่อนหน้านี้แล้ว

"ผมเชื่อว่าจะสามารถปักธงพรรคเพื่อไทย ใน จ.แม่ฮ่องสอน ได้อีกครั้ง และจะใช้โอกาสที่ได้รับความไว้วางใจเป็นผู้แทนในสภา ผลักดันการพัฒนาพื้นที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแน่นอน เพราะพื้นที่มีศักยภาพและพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้และเคยทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งนโยบายภาพรวมและนโยบายเฉพาะพื้นที่แต่ละแห่ง" นายวิเชียร กล่าว