ผวานองเลือด!‘ญาติวีรชน’35’แถลงการณ์5ข้อ ยุ‘ขั้วที่3’ตั้งรบ. ขวาง‘ส.ว.’โหวต‘บิ๊กตู่’
2 มิ.ย.62 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ออกแถลงการณ์ ในกรณีที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระสำคัญคือเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 มิ.ย.62 ว่า ทางคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กังวลว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองไทยและจะเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ของสังคมไทย เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกออกแบบเพื่อให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร คสช. เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ทั้งที่พรรคการเมืองที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 แต่ยังดันทุรังชิงจัดตั้งรัฐบาล คณะกรรมการญาติวีรชนฯ ไม่อยากเห็นการเมืองเข้าสู่ทางตันสังคมไทยต้องเผชิญหน้าบาดเจ็บล้มตายกันอีก จึงมีข้อเสนอและข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.คณะกรรมการญาติวีรชนฯ เห็นว่า ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ด้วยอาศัยเสียงสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงที่ พล.อ.ประยุทธ์ คัดสรรมากับมือด้วยกระบวนการที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เป็นผลประโยชนทับซ้อนและไม่สง่างาม จึงขอเรียกร้องให้ 250 ส.ว.พิจารณาตัดสินใจด้วยความอิสระ คำนึงถึงทางออกของชาติบ้านเมืองมากกว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทน แต่หากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลนำประเทศไปสู่ความขัดแย้งจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
2.ความจัดตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไม่สามารถนำพาประเทศชาติออกจากวังวนความขัดแย้งได้ จะเป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทุกด้าน จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคที่จะร่วมรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำพิจารณาทบทวนหาแนวทางใหม่ที่ยังมีช่องทางเป็นไปได้ เพราะหากเป็นรัฐบาลได้ไม่กี่เดือนแล้วสะดุดล้มลง นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติโดยรวมแล้ว พรรคการเมืองของท่านก็จะถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นพรรคการเมืองที่ร่วมสร้างปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองด้วย
3.ข้ออ้างที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 สามารถตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้นั้น เป็นการตีความแบบศรีธนญชัย แม้บทเฉพาะกาลมาตรา272 ระบุให้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาหรือ 376 เสียง แต่ต้องยึดมาตรา 159 ที่ต้องใช้มติของสภาผู้แทนราษฎร และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นบทบัญญัติหลัก นั่นหมายความว่าจะต้องอาศัยเสียงส.ส.มากกว่า250 เสียงร่วมโหวตด้วย หากฝ่าฝืนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความและเกิดความวุ่นวายตามมาอีก
4.หากที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยเสียงส.ส.ไม่ถึง 250 เสียง จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา จะกล้านำรายชื่อบุคคลที่มีคะแนนเสียงสนับสนุนไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของส.ส.ขึ้นทูลเกล้าฯหรือไม่ รวมทั้งบุคคลที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเสียงข้างน้อย จะกล้านำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณหรือ เพราะอาจจะเป็นกระทำที่กระทบและระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เนื่องจากอาจขัดรัฐธรรมนูญ ขาดความชอบธรรม เป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพไม่สามารถบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลอันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน และยังสร้างความชอบธรรมให้เกิดการชุมนุมต่อต้านนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมอีกด้วย
5.ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่พยามจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่3 ทำหน้าที่ให้ถึงที่สุดโดยเดินไปให้สุดทางก่อน เพราะหากรวมพรรคการเมืองและจำนวนส.ส.ขั้วที่3และที่ไม่เอาการสืบทอดอำนาจจะมีส.ส.กว่า320 เสียง โดยประกาศร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่3อย่างเป็นทางการที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างแท้จริง เท่ากับประกาศความชอบธรรมทางการเมืองที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ แล้วหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ยอมรับของพรรคการเมืองและภาคส่วนต่างๆในสังคม เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทุกภาคส่วนจะออกมาสนับสนุนอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้ 250 ส.ว.ไม่กล้าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนและจะลงคะแนนเสียงเพิ่มเติมให้จนถึง 376 เสียงในที่สุด
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ยืนยันว่าด้วยสถานการณ์ที่ยังดำรงการแบ่งฝักฝ่ายของพรรคการเมือง และด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่วางกับดักไว้มากมายทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดตั้งรัฐบาลรวมทั้งความพยายามสืบทอดอำนาจมีแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง จึงขอวิงวอนให้ทุกภาคส่วนของสังคมร่วมกันสนับสนุนการจัดตั้ง “รัฐบาลช่วยชาติ” เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเร่งปฏิรูปประเทศในเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนให้แล้วเสร็จ ก่อนคืนอำนาจให้ประชาชนอีกครั้งเพื่อสังคมไทยจะได้กลับสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี