เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2562 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ "ต่อลมหายใจ พีซทีวีเวทีทัศน์" กล่าวถึงการอุ้มฆ่า นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักเคลื่อนไหวกิจกรรมสังคมกลุ่มชนเผ่ากะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ว่า หลายปีที่ผ่านมามีความพยายามเรียกร้องติดตามคดีดังกล่าว แม้ส่วนใหญ่จะทราบว่าเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าเสียชีวิตอย่างไร เพราะไม่มีหลักฐาน

"แต่เมื่อพบหลักฐานแล้ว เรื่องนี้จะต้องไม่จบแค่นี้ เราต้องการผลลัพธ์สุดท้ายว่าใครคือคนทำ" ประธาน นปช.กล่าวย้ำ

นายจตุพร กล่าวว่า ในอดีตมีคดีอุ้มฆ่านักเคลื่อนไหวหลายๆ คดี อาทิ คดีของ นายทนง โพธิ์อ่าน อดีตผู้นำแรงงาน ที่ถูกบังคับสูญหายภายใต้รัฐบาลรัฐประหาร รสช.เมื่อปี 2534 , นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อมีนาคม 2547 กระทั่งถึงกรณีของนายพอละจี โดยไม่นับเหตุการณ์ที่มีการต่อสู้และมีคนสูญหายอย่างเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2535 หรือในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมษายนถึงพฤษภาคม 2553 ซึ่งมีจำนวนมาก

สำหรับกรณีของชนกลุ่มน้อยชาวไทยภูเขา ก็มีหลายกรณีที่พบว่าพวกเขาไม่ได้รับความเท่าเทียม ยังมีอีกหลายกรณีที่พบว่า มีนักต่อสู้เพื่อสิทธิของชนกลุ่มน้อย ที่คาดว่าความตายเกิดจากเจ้าหน้าที่ อาทิ นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมเยาวชนชาติพันธุ์ลาหู่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ข่าวสารจบลงที่นายพอละจีเสียชีวิตแล้ว แต่ต้องจับคนร้ายที่ฆ่านายพอละจี ซึ่งก็ไม่พ้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต่อให้จะอธิบายอย่างไรก็ตาม แต่หลักฐานแวดล้อมก็ชี้ว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ