“ประภัตร” รุด ลงพื้นที่ อีสาน เดินสายวันเดียว 3 จังหวัดรับฟังปัญหาพร้อมมอบถุงยังชีพ ปลอบใจชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ก่อนสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาเสนอ ต่อรัฐบาล เร่งช่วย หลังน้ำลด ต่อเนื่องรายงานเบ้องต้นคาดการณ์ นาข้าวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านไร่
เมื่อวันที่21กันยายน 2562 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อม ด้วยทีมงาน ข้าราการระดับสูงกระทรวงเกษตรฯอาทิ นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ นายสุรเดช สมิเปรม รองอิบดีกรมปศุสัตว์ นายประสงค์ ประไพตระกูล. อธิบดีกรมการข้าว เพื่อพบปะและให้กำลังใจ รับฟังปัญหา จากประชาชนในพื้นที่อุทกภัย น้ำท่วมใน3 จังหวัด เริ่มจากจังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00น. จุดแรก ณ หอประชุมเทศบาลตำบลยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษโดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีษะเกษ และนายสุพร ธีรโรจน์ชาลี นายอำเภอยางชุมน้อย ให้การต้อนรับ พร้อมกับ รายงานสรุปสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอยางชุมน้อย จากสถานการณ์ภาพรวมของ จ.ศรีษะเกษ ขณะเดียวกันยังได้มอบมอบสิ่งของช่วยเหลือจำนวน 1,000 ชุดเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น
โดยนายประภัตร เปิดเผยว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนในครั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดดำเนินการ รับฟังปัญหาจากประชาชน ในพื้นที่ ประสบภัยพร้อมวางแผนแนวทางการช่วยเหลือประชาชนภายหลังน้ำลดทันที ขณะนี้ กระทรวง เกษตรได้วางมาตรากร การสร้างรายได้ให้ประชาชนภายหลังน้ำลด เพื่อสร้างรายได้ระยะสั้น 120 วัน ที่สามารถดำเนินการได้ทัน ที ด้วยการใช้ ตลาดนำหน้าทั้งหมด เบื้องต้นกระทรวงเกษตร มีการ วางแผนการประสานงาน ด้านการส่งเสริมการการสร้างรายได้ระยะสั้น ด้วยการปลูกถั่วเขียว ซึ่งกระทรวงเกษตร แจกเมล็ดพันธุ์ให้ฟรี ใช้ระยะเวลา การปลูกเพียง 70วัน ก็ สามารถ ขายเมล็ดถั่วเขียว ตามที่ประกันราคาไว้ที่30 บาท ต่อ กิโลกรัม นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการปลูกข้าว โพดอีก1 ล้านตันจำนวน1 ล้านไร่ ประกันราคาที่ 8 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งหมด มีตลาดรับซื้อชัดเจน
นอกจากนั้นยังมีโครงการส่งเสริมการเลี้ยง โคเนื้อและโคขุนส่งออกไปยัง ตลาดจีน จำนวน1 ล้านตัวเริ่มต้น ที่ประกันราคารับซื้อกิโกกรัมละ100 บาท ซึ่งกระทรวงเกษตรให้การสนับสนุนเงินกู้รายละ 2 แสนบาท ในการเลี้ยงโค จำนวน รายละ5ตัวใช้ระยะเวลา ไม่เกิน120วันที่ จะสามารถสร้างรายได้ ให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ ที่มีการเลี้ยงวัว อยู่แล้วทั้งหมด ทางกระทรงเกษตรฯ มีการวางแผนการตลาดที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังมีการช่วยเหลือเรื่องดอกเบี้ย และการวางแผนการบริหารการจัดการ ด้วยการประกันความเสียหายหากเกิดการล้มตาย ของวัวในโครงการ ซึ่งเกษตรกร จะไม่ต้องเสี่ยงใดๆและขณะนี้เกษตรกรเรียกร้องขอเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ส่วนการมาตรการการเยียวยาเรื่องความเสียหายจากอุทกภัย ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ สำรวจความเสียหายทั้งหมด ทั้งนาข้าว พืชผลอื่นๆ และปศุสัตว์ ซึ่ง รายละเอียดเท่าที่รับฟังรายงาน เกษตรกรมีการขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานกรมส่งเสริมไว้หมดแล้วรอการสำรวจหลังนำลด หากสำรวจชัดเจน ก็ จะสามารถจ่ายค่าชดเชยความเสียให้ที่เกิดขึ้นได้ทันทีอัตราการช่วยเหลือ จะเป็นที่มีการกำหนด โดย นาข้าวจะได้รับค่าชดเชยไร่ละ1,113บาทหากเป็นข้าวโพดจะได้ไร่ละ1,148บาท พืชผล1,168บาทต่อไร่ ส่วนปศุสัต์ ก็ มีให้ หากเป็นวัว ตาย จะจ่ายให้ ตัวละ20,000บาท ไม่เกินรายละ2ตัว ต้องเป็นวันที่โตแล้วเท่านั้น การเยียวยาทั้งหมดจะต้อง เร่งดำเนินการภายใน60วัน หลังน้ำลดและจะโอนเงินให้กับเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ ใดๆ
“ตอนนี้กำลังให้มีการสำรวจ ทั้งหมดอยู่เบื้องต้นน่าจะประมาณ 3 แสนกว่าราย ที่ได้รับความเสียหาย เราได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ เร่งสำรวจให้ชัดเจนหากเสร็จก็จะนำเสนอเข้า ครม. และจากนั้นก็จะโอนให้ทันที นาข้าว จะจ่ายตามความเป็นจริงแต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่ ต่อราย จากการสำรวจความเสียหายที่รายงานเบื้องต้น ทั้งฝนทิ้งช่วงที่เสียหายไป2.5ล้านไร่ และมาฝนตกหนักน้ำท่วมน่าจะประมาณ3 ล้านไร่ และ น่าจะเสียหายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านไร่ ตอนนี้ตัวเลขยังไม่นิ่งต้องสำรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง” นายประภัตร กล่าว
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปตรวจพื้นที่จุดขุดเจาะเปิดถนนเพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณทางหลวง 2068 บึงบอน-ยางชุมน้อย หมู่ที่ 1 ต.บึงบอน ก่อนจะเดินทางไปยัง บ้านหัวสะพาน ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพบปะและให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือ จำนวน 1,000 ชุด และตรวจฝายน้ำล้นห้วยทา บ้านพะแนง หมู่ที่ 1 ตำ.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายประภัตร พร้อม คณะได้เดินทางจะเดินทางต่อ ไปพบปะและให้กำลังใจ รับฟังปัญหา จากประชาชนในพื้นที่อุทกภัย น้ำท่วมที่บ้านทรายงามหมู่ที่ 5 ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัด ยโสธร พร้อมมอบถุงยังชีพ ก่อนที่จะเดินทางไป รับ ฟังปัญหา จากประชาชนในพื้นที่อุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี