เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ที่กรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ แถลงข่าวการแจ้งความดำเนินคดี ฟาร์มไก่เขาสน 2 จำนวน 46-1-40 ไร่ ในพื้นที่ ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า นับจากนี้คดีรุกป่าจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ต่อไปคงจะพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ได้ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยแต่งตั้งคณะทำงาน มี นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธาน และร่วมกับ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เริ่มลงพื้นที่ในวันที่ 24 พ.ย.ตรวจสอบที่ผ่านมา
จากนั้น น.ส.ปารีณา ได้ร้องเรียนมายังกรมป่าไม้ ระบุว่าน่าจะมีการรังวัดที่ดินไม่ถูกต้อง เนื่องจากมาตราส่วนแผนที่ของ ส.ป.ก.และกรมป่าไม้ไม่เหมือนกัน โดยกรมป่าไม้รับเรื่องไว้และนำมาไปพิจารณากับคณะทำงาน และตรวจสอบความถูกต้อง จึงมีการเข้าไปตรวจซ้ำเพิ่มเติม ยืนยันไม่ได้ประวิงเวลา หรือมีหลายมาตรฐานกับประชาชนที่บุกรุกป่า ทุกรายที่ถูกตรวจสอบ มีสิทธิจะแย้ง คัดค้านได้ ซึ่งเป็นการดี เพราะเราจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน นับตั้งแต่วันที่ 20 - 29 พ.ย.ที่ได้ดำเนินการเราใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ยืนยันว่าทำเต็มที่ รัดกุม รอบคอบ และคงมาตรฐานการใช้กฎหมายเดียวกัน ส่วนพี่น้องประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมีสิทธิตามกฎของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
นายธวัชชัย กล่าวว่า ได้เริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา และทำงานโดยปราศจากแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น พบที่ดินของ น.ส.ปารีณา รุกป่าสงวนแห่งชาติ 46 ไร่ จนขณะนี้ก็มีพื้นที่บุกรุก 46 ไร่ เช่นเดิม
ด้าน นายชีวะภาพ กล่าวว่า อะไรที่ผิดก็คือผิด เพราะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่ขอพูดทางคดีเยอะเพราะอาจมีผลต่อคดี ซึ่งในครั้งนี้จะดำเนินคดีต่อ น.ส.ปารีณา ใน 4 ข้อกฎหมาย คือ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 , กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 การกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใดโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป ซึ่งทั้ง 4 ข้อกล่าวหาจะผิดจะถูกขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อกล่าวหาทั้ง 4 คดี จะมีโทษอย่างไร นายอรรถพล กล่าวว่า โทษขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดย พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มีโทษสูงสุด 20 ปี และโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท
เมื่อถามว่า จากนี้กรมป่าไม้จะมีแนวทางในการตรวจสอบที่ดินในภาพรวมอย่างไร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ต่อไปคงมีการสแกนทั้งประเทศ ขอบเขตป่าในแต่ละพื้นที่ มีแผนงานทำงานร่วมกับหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทับซ้อน
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ได้เข้ามาในห้องแถลงข่าว โดยหลังอธิบดีพูดจบ นายทวี ลุกขึ้นแย่งไมค์ไปชี้แจงและกล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งใจมาที่นี้ แต่ตั้งใจทำหนังสือความเป็นธรรมกับอธิบดี ระหว่างการแถลงข่าวตนก็ฟังอย่างเดียว แต่เมื่อมาที่นี่แล้วก็มีคำถาม ซึ่งตนไม่ได้มาหาเรื่องอธิบดี แต่มาขอความเป็นธรรม อีกทั้งตนติดต่อลูกสาวไม่ได้
"ผมอยากบอกลูกสาวว่า อย่าไปฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้เลย เพราะท่านทำตามหน้าที่ตามกฎหมาย และอยากให้ลูกสาวหาหลักฐานมาสู้คดีจะดีกว่า และอย่าไปฟังทนายมาก เพราะต้องจ่ายเงินให้ทนายทั้งขึ้นทั้งร่องทุกกรณี ให้ฟังพ่อ ผมคิดผิดที่ส่งลูกไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่ 11 ขวบจนจบปริญญาโท ทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองสูง คิดแบบฝรั่ง ไม่ฟังใคร แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่เชื่อ" นายทวี กล่าว
นายทวี กล่าวอีกว่า อยากจะขอถามอธิบดีกรมป่าไม้ เรื่องแผนที่ที่บอกว่าครอบครัวของตนรุกป่า 46 ไร่อยู่บริเวณไหน เพราะพื้นที่ตามสเกลใหญ่เป็นหมื่นๆ ไร่ แต่แผนที่ที่มีมันเล็กมาก ตนเรียนวิศวะมาอ่านแผนที่ได้ ขณะเดียวกันเหมือนจะเอาผิดกันหัวโต อีกทั้งในพื้นที่นี้มีอำเภอ ชุมชน อยู่ในบริเวณเดียวกัน และแผนที่ในแต่ละหน่วยงานก็มีความทับซ้อนกัน เชื่อถือได้หรือไม่ ซึ่งตนโอนสิทธิครอบครองจากชาวบ้าน ก่อนปี 2523 โดยซื้อจากชาวบ้านที่ทำไร่ โดยที่เราไม่รู้ว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าไม้ หรือเขต ส.ป.ก.เพราะไม่มีป้ายปักแม้แต่ป้ายเดียวว่าเป็นเขตอะไร ไม่มีหลักหมุด อยู่มา 40 ปีเศษ ไม่เห็นสิ่งเหล่านี้
นายทวี กล่าวว่า อีกทั้งชาวบ้านทั่วไปก็เหมือนกับตน ไม่รู้ว่าพื้นที่ใด และที่ไปโอนสิทธิครอบครองก็ไม่มีพื้นที่ป่าแม้แต่พื้นที่เดียว เป็นชุมชนไปหมด ซึ่งป่าสงวนได้ประกาศตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ปี 2484 แม้แต่ที่ทำการอำเภอก็อยู่เขตป่าหมด นี่คือข้อเท็จจริง น.ส.ปารีณา ก็ไม่รู้การซื้อที่นี่ ไม่รู้เรื่องนี้ และตนซื้อมาจากชาวบ้าน ก็ไม่รู้ว่าเป็นมือไหน มีใบ ภ.บท.5 ก็ซื้อไป และใบ ภ.บ.ท.5 ทางราชการเขาแจ้งมาว่า ใครที่ครอบครองที่ดินและใช้ประโยชน์ให้ไปเสียภาษีให้ท้องถิ่นนั้น ซึ่งตนก็เสียที่อำเภอ ช่วงหลังก็ที่ อบต. แสดงว่าตนได้ทำประโยชน์และเสียภาษี คล้ายๆอย่างนั้นไป
จากนั้น นายทวี ได้ยื่นแผนที่ให้กับอธิบดีกรมป่าไม้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดในรายละเอียดมาก เพราะมีผลทางคดี ซึ่งพื้นที่รุกป่า 46 ไร่นั้น ให้ไปสู้ในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้คณะทำงาน นำเรื่องราวเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี