พปชร.ยันขึ้นค่าแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามหลักประชาธิปไตยกินได้ ย้ำไม่ลืมสัญญาประชาคม มุ่งวางฐานเศรษฐกิจให้มั่นคง เหน็บมีบทเรียนมาแล้วจาก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ขึ้นค่าแรง 300 บาท ทำธุรกิจขนาดเล็ก-เอสเอ็มอีพัง
8 ธันวาคม 2562 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนจัดโครงการให้ความรู้และพัฒนาด้านเทคโนโลยีกับประชาชน ในระบบคุณวุฒิวิชาชีพด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยเริ่มจากกลุ่มเยาวชนก่อน โดยได้จัดการสัมมนา “ประเทศไทยก้าวไกล คนไทยมืออาชีพ” ขึ้นที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ นำร่องเป็นแห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ประสานงานให้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับ DIGITAL LITERACY การใช้ดิจิทัลอย่างปลอดภัย การใช้อินเตอร์เน็ตและการประเมินระดับสมรรถนะด้านเทคโนโลยี
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เนื่องจากตนเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี ให้มีความเชี่ยวชาญ รู้เท่าทัน และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจึงต้องสร้างโอกาสในการเข้าถึง เข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยคาดหวังให้เยาวชนทุกคนเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์และยกระดับวิชาชีพให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
“จากการพูดคุยกับน้องๆนักเรียนหลายคนอยากเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักออกแบบเกมส์ ซึ่งการที่จะทำงานในสายอาชีพนี้เขาต้องมีทักษะอย่างไร และทำงานอะไรบ้าง เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความรู้ความเข้าใจให้ถูกต้องกับนักเรียนที่จะเริ่มก้าวเข้าสู่โลกการทำงานที่แท้จริง การทำงานแบบมืออาชีพ ซึ่งโครงการนี้จะมีการประเมินสมรรถนะด้านเทคโนโลยี นักเรียนที่เข้าโครงการจะได้รับใบประกาศนียบัตรซึ่งจะเป็นใบเบิกทางเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ยังเป็นใบเบิกทางสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคตได้” น.ส.ทิพานัน กล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยี ทำให้อาชีพของคนในยุคปัจจุบันต่างจากในอดีต เช่นคนรุ่นพ่อแม่ของเราที่ต้องเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยแล้วจึงเข้าสู่การทำงาน ในปัจจุบันหลายคนในวัยเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาก็มีการเริ่มหารายได้เสริม การทำงานนอกเวลา การทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ถือเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริม ที่สามารถบริหารเวลาไม่ให้กระทบกับการเรียนได้และอาจพัฒนาเป็นอาชีพหลักในอนาคต แต่จะทำอย่างให้ลูกค้ามีความเชื่อถือว่ามีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีจริง โครงการนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ใบประกาศนียบัตรไปเพื่อรับรองความสามารถ เป็นมืออาชีพที่จะเพิ่มค่าแรงให้กับทุกคนได้ เป็นการติดอาวุธทางปัญญาและยกระดับฝีมือให้เป็นแรงงานคุณภาพในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
น.ส.ทิพานัน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการค่าจ้างมีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาททั่วประเทศให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2563 ว่า การปรับขึ้นค่าแรงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ ถึงจะขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากนัก แต่จะเป็นผลดีให้เกิดการใช้จ่ายในระบบมากขึ้น เป็นการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนที่ตรงจุด และเป็นรูปธรรมที่สุด หรือที่เรียกว่า “ประชาธิปไตยกินได้” สอดรับไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลที่ทยอยออกมาก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลหลอกลวง โดยช่วงหาเสียงประกาศจะขึ้นค่าแรง 425 บาทนั้น รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การจะปรับค่าแรงขึ้นถึง 425 บาทนั้น เป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐประกาศไว้ตอนหาเสียง ซึ่งได้ยืนยันมาตลอดว่าจะทำ “แบบค่อยเป็นค่อยไป” เมื่อเข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาลแล้ว เราไม่ได้ลืมสัญญาประชาคม แต่ต้องพิจารณาบริบทต่างๆในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของปัจจัยทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และแรงงาน ที่สำคัญต้องให้แรงานทุกคนได้ประโยชน์จากนโยบายอย่างทั่วถึง เพราะหากปรับขึ้นในอัตราที่สูงในทันทีหรือไม่รอบคอบ ก็จะมีผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ผลเสียก็จะตกอยู่ที่แรงงานเอง"
ทั้งนี้ จึงขอให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานและประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลพยายามสร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีรายได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ในส่วนของแรงงาน อยากให้มุ่งเน้นพัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้น อัตราค่าแรงก็จะสอดรับเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งมีหลายองค์กรที่พัฒนาวิชาชีพให้เป็นมืออาชีพ เช่น สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นต้น ซึ่งการที่แรงงานเข้ารับการอบรม ฝึกทักษะแล้วได้รับใบประกาศนียบัตรรับรอง สามารถนำไปสมัครงานที่มีรายได้สูงขึ้นหรือขอเพิ่มค่าแรงตามคุณวุฒิวิชาชีพได้
“พรรคพลังประชารัฐเรียนรู้จากบทเรียนในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ประกาศขึ้นค่าแรง 300 บาทแล้ว ซึ่งทำให้อัตราค่าแรงขึ้นต่ำทั่วประเทศเพิ่มขึ้นถึง 70% ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจขนาดเล็ก กลุ่มเอสเอ็มอี และภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก และแรงงานยังไม่ทันปรับตัวให้มีศักยภาพเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการยิ่งต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศในการส่งออกลดลง การจ้างงานในบริษัทเล็กๆลดลง ส่งผลให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตไปในประเทศที่มีค่าแรงที่ต่ำกว่า ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านในการขึ้นค่าแรง” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี