เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงกรณี พ.จ.อ.จักรพันธ์ ถมมา นายทหารสังกัดกองพันกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ปล้นอาวุธไปก่อเหตุสังหารประชาชนและเจ้าหน้าที่ โดยได้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายที่ดินในหน่วยงานทหาร โครงการเช่นนี้มีจำนวนมากหรือไม่ และจะแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างไร
โดย พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า กองทัพบกถูกตั้งมาเป็นระยะเวลายาวนาน มีโครงการหลายอย่างเป็นจำนวนมาก ที่พูดมาไม่ได้ไปตำหนิ ติเตียนใคร ในห้วงเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เคยมีโครงการเช่นนี้ อย่างเช่นบ้านสวัสดิการ การกู้เงิน การร่วมมือระหว่างหน่วยทหารกับพ่อค้า มีการวิ่งเต้น ซึ่งตนไม่อยากลงรายละเอียด และเรื่องทั้งหมดนี้ตนทราบและรับรองว่า อีก 3 เดือนต่อจากนี้ ตั้งแต่ระดับนายพล ถึงระดับพันเอก หลายคนไม่มีงานแน่ และตนก็ไม่สน เพราะรู้ข้อมูล และตนเติบโตมากับความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องในหลายเรื่อง ซึ่งตนไปเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า "พี่ครับ ผมต้องทำ" ตนขอยกตัวอย่าง เช่น มีใครกล้ายกเลิกทีมฟุตบอลอาร์มี่ยูไนเต็ดหรือไม่ และสัปดาห์นี้จะมีการลงนามกับกระทรวงการคลังในการใช้ที่ราชพัสดุเป็นโครงการสวัสดิการเชิงพาณิชย์ โดยนำเงินและรายได้กลับเข้าสู่กระทรวงการคลัง นี่คือการเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมานานของกองทัพบก แน่นอนว่ามีคนไม่พอใจ
หรือในวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เซ็นยกเลิกการจัดซื้อปืนสวัสดิการทุกชนิดของกองทัพบก และต่อไปนี้ใครจะซื้อปืนสวัสดิการภายนอกจากหน่วยง่านใดก็ตาม ผู้บังคับบัญชาชั้นนายพล จะต้องทำคำสั่งผ่านเสนาธิการทหารบกเท่านั้นเพื่อให้ออกคำสั่ง ซึ่งของเดิมตามระเบียบจะให้นายทหารยศชั้นนายพันเป็นผู้เซ็น ซึ่งเปิดโอกาสให้กำลังพลและพ่อค้าซื้อขายอาวุธกันได้ง่าย เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน 5 กระบอก ซึ่งทั้งหมดเป็นปืนที่มาจากโครงการสสวัสดิการจากหน่วยงานอื่น
"ทหารไม่จำเป็นต้องมีปืนส่วนตัว เพราะมีปืนหลวงที่ถูกเก็บรักษาและจะมีการแจกจ่าย ซึ่งแต่เดิมมีไม่รู้กี่โครงการ ทหารมีบ้านมีที่พักให้กับกำลังพลเพียงพอ รับราชการ 20 - 30 ปี ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน เพื่อให้มีเวลาเก็บเงินไปซื้อบ้านของตัวเองหลังเกษียณอายุราชการ ผมขีดเส้นตายภายในเดือน ก.พ.สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้ว และยังพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทหาร และย้ายจากกองทัพบกไปอยู่หน่วยงานใด ก็ต้องย้ายออก เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีบ้านมาอยู่" ผบ.ทบ.กล่าวและว่า การถูกเชิญชวน ถูกหลอก การเชื่อคนง่าย ยิ่งเป็นผู้บังคับบัญชา หรือเครือญาติของผู้บังคับบัญชา มีแรงจูงใจ การอยู่แบบไม่พอเพียง เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน 5 กระบอก ที่มีราคาแพง มีไว้เพื่ออะไร โครงการต่างๆ ต้องมีการปรับกรุงแก้ไขและเอาจริง อันไหนไม่จำเป็นจะยกเลิก และจะเอาจริงสำหรับผู้ที่เอาเปรียบหลวง เพื่อนร่วมงาน ขอเวลาและยืนยันว่า ไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ แต่ทำมาก่อนหน้านี้ และถ้าไม่สัมฤทธิ์ผลภายในวงรอบ การปรับย้ายนายทหารครั้งนี้เห็นดีแน่ และผมก็ไม่ล้อมคอก
พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวยืนยันอีกว่า ตนไม่กลัวและไม่ถนอมตัว เพระเป็นปีสุดท้ายที่อยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะทำให้กองทัพบกให้ดีขึ้นจนวันสุดท้าย ขอให้มั่นใจ แต่ตนก็เชื่อใจผู้บังคับบัญชาที่นั่งอยู่ตรงนี้ ว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทำไมไม่สามารถล้างธุรกิจในหน่วยทหารได้ ต้องรอจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก่อน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เพราะเกิดเหตุแล้วดำเนินการ ทั้งนี้ ผบ.ทบ.แต่ละท่านที่ผ่านมามีวิสัยทัศน์และแนวทางแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน และสภาวะเช่นนั้นก็แก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาเป็น ผบ.ทบ.ตนได้เล็งเห็นปัญหามาโดยตลอด และเมื่อมารับตำแหน่งก็ตั้งใจที่จะมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งเรื่องก่อหน้านี้ก็ขอให้ผ่านไป แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ในสิ่งที่ถูกต้อง ในการปรับตัว ปรับสภาพองค์กรของตัวเอง ซึ่งไม่มีองค์กรไหนที่จะสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องแก้ไขและตนเชื่อมั่นทุกคนที่เข้ามาเป็น ผบ.ทบ.หลังจากนี้ต้องยึดถือแนวทางที่ได้ประกาศต่อหน้าสาธารณะชน เพื่อแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นและให้ได้รับความธรรม ทั้งนี้ ขออย่านำไปเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะปัจจุบันตนไม่ได้พูดเรื่องของการเมืองแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี