อย่าให้ถึงขนาดต้องบังคับ! ‘อนุทิน’ จ่อชงใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คุมเข้ม ‘แฟลชม็อบนศ.’ ป้อง ‘โควิด-19’ ลามหลังประกาศเป็นระบาดอันตราย ย้ำไม่ปิดกั้น แต่ต้องคำนึงสังคมส่วนรวม
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข ถึงมาตรการการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคปิดอักเสบอันเกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ Covid-19 ระบุว่า มีประกาศในราชกิจจานุเบกให้โรค Covid-19 เป็นโรคระบาดอันตรายแล้ว จากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้รับความสะดวกในการทำงานมากขึ้น สามารถสั่งห้ามการเดินทาง สั่งกักตัวได้ แต่จะทำภายใต้ความเหมาะสม ปัจจุบัน การควบคุมโรคของไทยถือว่าทำได้ดี จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโรค ล่าสุดเราอยู่อันดับที่ 13 และเราจะยืดเวลาให้การระบาดอยู่ในระดับที่ 2 นานที่สุด แต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมแสดงจุดยืนทางการเมือง เราไม่ปิดกั้นความต้องการ แต่ขอให้คำนึงถึงภาพรวมของสังคม เพราะ Covid-19 เป็นโรคที่รักษาได้ แต่ติดง่าย การไปอยู่รวมกัน โอกาสติดโรคมันสูงกว่าอยู่แล้ว หากติดเชื้อ 1 คน ทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องตามไปคุมโรคกับคนใกล้ชิดอย่างน้อยที่สุดคือ 30 คน แล้วถ้าเกิดรับเชื้อพร้อมกันทีละมากๆ ย่อมจะเป็นงานหนักในการคุมโรคแน่นอน ขอให้คิดกันให้หนักๆ ก่อนจะร่วมกิจกรรมใดๆ และให้ลองคิดดูว่ามันจะมีวิธีแสดงออกด้วยวิธีอื่นหรือไม่
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในช่วงเย็นวันนี้ (29ก.พ.) รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ จะต้องห้ามการชุมนุมหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องตระหนักถึงอันตราย และต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะมีการแพร่ระบาดของโรค การรวมตัวกัน ของคนหมู่มาก ก็จะทำให้การระบาดมากขึ้น ซึ่งเราได้แสดงความกังวลไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และตนได้เรียนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่าหากจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร ตามกฎหมายที่แต่ละฝ่ายมีอำนาจอยู่ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขทำได้เพียงแค่แจ้งเตือน และขอความร่วมมือ ถ้าห้ามได้ ตนก็ห้ามแล้ว แต่อย่าให้ถึงขนาดต้องบังคับ เพราะหากไม่ยอมก็จะเป็นเรื่องขึ้นมา
“หรืออาจจะต้องไปใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในการควบคุมไม่ให้เกิดการชุมนุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ผู้จัดงานหรือหากจัดการชุมนุมก็ต้องรับผิดชอบ หากเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค” นายอนุทิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี