11 เมษายน 2563 ผศ.สาวตรี สุขศรี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Sawatree Suksri” ถึงกรณีที่กรณี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงกรณีการโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเป็นเงิน 5,000 บาท
โดยตอนหนึ่งระบุว่า ส่วนผู้ที่โพสต์หมิ่นรัฐบาล มีความผิดตาม มาตรา 136 มีโทษขั้นสูงจำคุก 1 ปี หรือปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแม้ว่าผู้โพสต์จะลบข้อความไปแล้ว แต่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสามารถดึงข้อมูลที่ลบไปแล้วกลับมาได้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น ว่าเป็นการตีความกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลสามารถถูกด่าถูกวิจารณ์ได้เสมอ ดังนี้...
ช่วง อย่ามั่วกันไปใหญ่: นั่งดูคำขู่ของพวกจ้อรายวันของรัฐบาลแล้วก็อนาจใจนะฮะ ขออนุญาตๆ คันมือ
1) Fake news หรือ ข่าวปลอม หมายถึง “ข้อเท็จจริง” ที่ไม่เป็น “ความจริง” หรือกล่าวอีกอย่างคือ “ความเท็จ” ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นก็ดี การล้อเลียนเสียดสีก็ดี การวิพากษ์วิจารณ์ก็ดี จึงเป็นคนละสิ่งกับ Fake news เพราะ ความคิดเห็น คำวิจารณ์ เป็น “ความเท็จ” หรือ “ความจริง” ไม่ได้ !! ...เป็นได้เต็มที่คือ “ความถูกใจ หรือความไม่ถูกใจ” เท่านั้น...จะเป็นผู้มาบังคับใช้กม. ก็ควรศึกษาทำความเข้าใจความรู้พื้นฐานแบบนี้ให้ดีเสียก่อน
2) รัฐบาลเป็นคณะบุคคลก็จริง แต่ไม่ได้เป็น “นิติบุคคล” ไม่ว่าจะตามกฎหมายเอกชน หรือมหาชน ดังนั้น นอกจากจะฟ้องใครไม่ได้ และใครฟ้องก็ไม่ได้แล้ว จึงถูกหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นตามกฎหมายไม่ได้เช่นกัน เช่นนี้ การเอาเรื่องนี้มาพูดมั่ว หรือเอามา “ขู่” ประชาชนว่า ถ้าด่ารัฐบาล จะมีความผิดตามกฎหมายได้ จึงเป็นการ กล่าว “ข้อเท็จจริง” ที่เป็น “ความเท็จ” ...อันนี้แหละ ๆ ข่ะ คือ fake news เชิญ ปอท. ไปรวบตัวคนพูดมาดำเนินคดีด้วย อันนี้คือ พรบ.คอมฯ มาตรา 14(2) ค่ะ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ของจริงเลย
3) คนในรัฐบาล มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เช่นนี้ ย่อมต้องถูกด่าถูกวิจารณ์ได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไอ้คณะของคนเหล่านี้บริหารประเทศห่วยแตก ทำเศรษฐกิจตกต่ำ สร้างแต่ปัญหาไม่หยุด การด่า การวิจารณ์จึงเป็นสิทธิโดชอบธรรมตามหลักนิติรัฐประชาธิปไตย ไม่มีประเทศ (ที่อ้างตัวว่า) เป็นระบอบประชาธิปไตยที่ไหนในโลก มาบอกห้ามไม่ให้ด่า เพราะอย่าว่าแต่ด่าเลยข่ะ...สมัยหน้ากรูไม่รับคณะพวกเมงเข้าทำงานอีกก็ได้ !
4) ความผิดฐาน “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน” มาตรา 136 ป.อาญา เขามีองค์ประกอบความผิดชัดเจน และเจตนารมณ์คือคุ้มครอง “ตัวเจ้าพนักงาน” ที่ดำเนินการตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจรัฐ ไม่ให้ต้องถูกดูหมิ่น ดูแคลนจากการปฏิบัติหน้าที่นั้นๆ ดังนั้น วัตถุของการกระทำ คือ “ตัวบุคคลผู้อยู่ในตำแหน่ง” และ “ทำหน้าที่อยู่” ไม่ได้คุ้มครอง “ตัวองค์กร” ใด ที่โดยสภาพแล้ว แม้แต่จะ “ลงมือ” ปฏิบัติหน้าที่ใดๆ เองก็ยังไม่ได้เลย ดังนั้น อย่ามั่ว ! (ย้อนกลับไปดูสถานะของรัฐบาลตามข้อ 2) ประกอบด้วย) และอย่าให้ต้องถึงขนาดงัดคำพิพากษาฎีกามายืนยันกันนะ ขี้เกียจ มันยาวไป
5) กระทรวงการคลัง เป็นนิติบุคคลตามมกฎหมายมหาชนก็จริง ดังนั้น อาจถูก “หมิ่นประมาท” ได้ก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่อง “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน” ...คนละเรื่อง คนละราวกันเลย.. โอเค้ (ดูคำอธิบายข้อ 4) ประกอบ) เพราะแค่ความหมายของการหมิ่นประมาท กับดูหมิ่นก็แตกต่างกันแล้ว นี่ยังไม่ได้พูดเลยว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นใครด่าตัว “กระทรวงฯ” เลยซักคน ...มีแต่คนด่านโยบาย ด่าระบบที่ล่าช้า ล้อเลียนการจัดการ เช่นนี้ ทั้งคนที่ออกมาจ้อ ทั้งนักกฎหมาย (ที่ไปอ้างมา) แล้วหาว่าปชช.เหล่านั้นผิดดูหมิ่นจพง. จึงล้วนมั่วกฎหมายกันชิหายเลยข่ะ
6) เงิน 5000 ที่เอามาให้ปชช. คือ เงินภาษีของปชช.เขานั่นแหละ ก็แค่หยิบมาคืนเขาไปก่อนเพื่อเยียวยา แก้ปัญหาวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้น รัฐบาล หรือกระทรวงการคลัง ก็อย่าทะลึ่งมาทำ “ชูคอ” หรือ “ขึ้นวอ” ขี้ตู่ว่าเป็นเงินของตัวเอง แล้วมองว่าประชาชนเจ้าของเงินเป็น “ขอทาน” !! ... แล้ว ถ้าคนมีคุณสมบัติเข้าตามเงื่อนไข คุณก็ต้อง “จ่าย” ให้เขาไป อย่าทำตัวเป็น “ไอ้คุณพ่อรู้ดี” มาสั่งสอน หรือเผือกว่า เขาต้องเอาเงินไปทำอะไร ...การที่เขามีสิทธิได้ตามกฎหมาย แล้วคุณไป “งด” ไม่ยอมจ่ายเขา แบบนี้เป็นการที่กระทรวงฯ ปฏิบัติการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้...ปชช.ท่านใดที่โดนแบบนี้ แนะนำให้ไปฟ้องศาลปกครองเลยข่ะ
จบ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี