วันที่ 21 เมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้หารือมาตรการรองรับสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องหลัก ส่วนเรื่องอื่นคืองานในกรอบความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง โดยได้เน้นย้ำทุกกระทรวงให้ขับเคลื่อนทุกมิติของทุกกระทรวง ทั้งงานในหน้าที่และงานที่ศูนย์โควิดได้มีมติดำเนินการไปแล้ว ขอให้ทุกกระทรวงขับเคลื่อนต่อไป
“ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ทั้ง 3 ฉบับเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จำนวนไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วน คือ การแก้ปัญหาเรื่องการสาธารณสุข การเยียวยา และการฟื้นฟู โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ จัดตั้งคณะกรรมการคัดกรองซึ่งประกอบด้วยส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว และหารือร่วมกันแล้วว่าจะมีระเบียบปฏิบัติในการใช้เงินดังกล่าวอย่างไร โดยให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รอบคอบและจำเป็น โดยวันนี้ ( 21 เม.ย.) ครม.เห็นชอบระเบียบต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้กระทรวงนำแผนงานต่าง ๆ นำเสนอเข้าครม.ให้ครบถ้วนให้เร็วที่สุดและเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งมาตรการสาธารณสุขและเยียวยาต่าง ๆ ยืนยันว่าผมรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างถูกต้องและเหมาะสม 2. พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับกระทรวงการคลังร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ ในจำนวนอีก 4 แสนล้านบาท และ 3. พ.ร.ก.ให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจ โดยธปท.มีอำนาจให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงิน วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและธปท.ดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน รวมทั้งจากผู้ประสบการณ์ความรู้ประกอบการทำงานด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง 20 มหาเศรษฐีในไทยว่า ที่ส่งจดหมายเปิดผนึกเพื่อรับทราบว่าดำเนินการช่วยเหลือบุคลากรในแต่ละองค์กรอย่างไรบ้าง เพื่อจะช่วยเสริมในมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ออกไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่ได้จะกู้เงินหรือยืมเงินของเขา รัฐบาลมีเงินอยู่แล้ว
“ขอขอบคุณทั้ง 20 ท่าน การส่งจดหมายโดยเปิดเผยเพราะในห่วงโซ่ของท่านมีคนจำนวนมาก รวมถึงประชาชนด้วย ทราบว่าทุกท่านดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่อยากทราบว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อเสริมมาตรการของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อให้สอดประสานกันในการทำงาน ไม่ได้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ขอขอบคุณเป็นการล่วงหน้า ไม่ใช่การแข่งขัน บังคับหรือแลกเปลี่ยนใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องการตรงนั้น แต่ต้องการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งนอกจาก 20 ท่านนี้แล้ว ยินดีรับฟังทุกภาคส่วน แต่คงไม่ได้ไปพบทั้ง 20 ท่านด้วยตนเอง เห็นมีรายชื่อประกาศมาแล้ว ในเอกสารเปิดผนึก มีรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าไม่ขอรับเงินบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น ขออย่าไปบิดเบือนก็แล้วกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี