"ธิดา"ลั่น! แม้สูญเสียอิสรภาพหรือชีวิต แต่ก็เป็นเกียรติภูมิและความภาคภูมิใจของผู้ประสบชะตากรรมในการต่อสู้ให้เพื่อผลประโยชน์ประชาชน และเป็นแบบอย่างให้แก่คนรุ่นต่อไปว่าการเป็นแกนนำไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2563 นางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมด้วยบุตรชาย นพ.สลักธรรม โตจิราการ เดินทางมาพร้อมกับ นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในจำเลยคดี นปช.ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี 50 เพื่อให้กำลังใจและเข้ารับฟังคำพิพากษา โดยนางธิดา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดี ว่า ชะตากรรมแกนนำ นปช.และคนเสื้อแดง ก็เหมือนที่เคยพูดว่า ชะตากรรมก็คือไม่อยู่ในเรือนจำหรือไม่ก็อาจจะมีการสูญเสียถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม อันนี้ก็คือในขณะที่มันเป็นชะตากรรม แต่มันก็เป็นเกียรติภูมิว่า การต่อสู้เพื่อให้ประชาชนมีเสรีภาพ ต่อสู้เพื่อ ปชต.แม้จะต้องสูญเสียอิสรภาพหรือถึงแก่ชีวิต มันก็เป็นเกียรติประวัติที่ตายหรือถูกจองจำ มันก็มีทั้งความเจ็บปวดและรางวัล และเป็นความภาคภูมิใจของตัวผู้ประสบชะตากรรม

ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้เขาภาคภูมิใจว่า ทั้งหมดที่ทำอยู่บนจุดยืนเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ของประชาชน จะเจ็บปวดหรือจะต้องสูญเสียชีวิต มันก็เป็นการสูญเสียอิสรภาพหรือชีวิตที่มีค่า เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นต่อไปว่า บนถนนนี้ การเป็นแกนนำไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ต้องพร้อมที่จะต้องเสียสละ อิสรภาพ แต่คนรุ่นเก่า คนรุ่นปัจจุบันก็จะต้องทำเช่นนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อไปจนกว่าประชาชนจะสามารถมีอำนาจที่แท้จริงได้

"คงไม่มีใครนึกว่าเรื่องราวมันจะยืดยาว พูดตรงๆ ว่าเป็นทศวรรษแห่งความขมขื่นและเจ็บปวด ดูเหมือนกับว่าประชาชนจะไม่ได้รับอะไรที่ดีงาม ดูเหมือนกับว่าเราจะถอยหลัง แต่ในความเป็นจริงก็คือความอดทนของผู้คนก็จะเป็นเสมือนต้นทุนสำหรับคนในอนาคต มันไม่มีอะไรที่เสียเปล่า ในท่ามกลางความเจ็บปวดและความสูญเสีย มันก็คือครูและบทเรียนสำหรับคนในปัจจุบันและอนาคต ต้นทุนที่คนรุ่นก่อนและปัจจุบันได้สูญเสียไปก็ควรจะให้เป็นครูที่ยิ่งใหญ่สำหรับประชาชนในปัจจุบันและอนาคต หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆ เลย ดิฉันไม่คิดว่ามันเสียเปล่า" นางธิดา กล่าวในที่สุด