‘สมชัย’ แฉอีกพบ 4 ตัวการในใบรายชื่อจัดทำโพลไม่ได้เลือกตั้งซ่อมลำปาง แนะ ‘กกต.’ ลงพื้นที่เปิดหีบจับ ‘ผีไปเลือกตั้ง’ หวั่นลำปางโมเดล คนสวมรอยใส่หน้ากากไปเลือกตั้งช่วงโควิด
26 มิถุนายน 2563 ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีพบเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปาง ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของการเลือกตั้ง เช่น คลิปซื้อเสียงที่ทำกันตอนกลางวัน และเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการ และ กกต. ควรจะต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้พยานที่พร้อมจะให้ข้อมูลก็อยู่ในที่ปลอดภัย และเมื่อ กกต.จังหวัดต้องการจะสอบสวนก็พร้อม
ส่วนใบรายชื่อผู้จัดทำโพล ชื่อผู้จัดทำมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐและมีเบอร์ติดต่อชัดเจน กกต.จำเป็นต้องไปสอบว่ามีการจัดทำโพลจริงหรือไม่อย่างไร รวมทั้งสอบคนที่มีรายชื่อในใบนั้นว่าได้ให้ชื่อและเลขบัตรประชาชนไปหรือไม่ มีผลประโยชน์อย่างไร (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘สมชัย’กางโพลชื่อโยง‘ซื้อเสียง’ แนะ3ข้อพิสูจน์ ชง‘เสรีรวมไทย’ร้องค้านผลเลือกตั้งซ่อม)
“นอกจากนี้ผมยังทราบว่า 4 ชื่อในใบรายชื่อนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ สิ่งที่น่าสนใจคือในวันเลือกตั้ง มีคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งแทนคนเหล่านั้นหรือไม่ ต้องใช้อำนาจ กกต. ในการเปิดหีบและตรวจสอบว่ามีคนสวมรอยในการใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ พิสูจน์รายชื่อ พร้อมสอบกรรมการประจำหน่วยว่ามีผีไปเลือกตั้งได้อย่างไร จุดอ่อนในการเลือกตั้งครั้งนี้คือการสวมหน้ากาก และไม่มีการขอให้เปิดหน้ากากดูด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสในการทุจริตที่แฝงมากับการเลือกตั้ง เรียกว่าลำปางโมเดล” อดีต กกต.กล่าว
อดีต กกต. กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งคำถามว่า กกต. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงลงไปตรวจสอบแล้วหรือไม่ ตนอยากเห็น กกต.กลาง มีความกระตือรือร้นและเอาจริงเอาจังในการตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กกต.จังหวัด และการประชุมในวันอังคารที่จะถึงนี้ อย่าบอกว่าตรวจสอบแล้วทุกอย่างเรียบร้อย เพราะยังมีอีกหลายเรื่องยังมีข้อสงสัย
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่าถ้ามีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเป็นจริง ต่ำสุดคือใบเหลือง คือจัดการเลือกตั้งใหม่ และถ้าสาวไปถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ไม่ยาก และถ้าเกี่ยวข้องกับผู้สมัครก็ให้ใบส้มหรือใบแดงได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยของผู้ที่เกี่ยวข้อง คนที่เป็นพยานต้องไปอยู่ในที่ปลอดภัย กกต.ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าให้ข้อมูลกับ กกต. ก็ต้องคุ้มครองพยาน รวมทั้งคนที่เดินแจกเงินเอง มาตรา 46 กล่าวว่าถ้าบุคคลที่ทำความผิดแต่ให้การที่มีประโยชน์กับ กกต. ก็อาจจะไม่พิจารณาลงโทษ แต่ถ้าทำความผิดแล้วไม่ได้ให้ถ้อยคำที่มีประโยชน์จะต้องโดนจำคุก 1-10 ปี ตนว่ามันไม่คุ้ม ถ้าให้ทำงานด้วยค่าจ้างไม่กี่พัน แต่ต้องติดคุก 10 ปี ทางที่ดีควรให้ปากคำที่เป็นประโยชน์กับกกต.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี