‘องอาจ’แนะ 3 ฝ่ายร่วมสรุปทิศทางแก้รธน. หนุนข้อเสนอตัดอำนาจ สว.เลือกนายกฯ
9 สิงหาคม 2563 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการเข้าร่วมรัฐบาล และต้องแก้มาตรา 256 ซึ่งขณะนี้ กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ก็เห็นด้วย ส่วนการจะแก้ไขตรงไหน อย่างไร แต่ละพรรคก็มีข้อเสนอที่เหมือนกัน และก็มีที่แตกต่างกันบ้าง เพราะฉะนั้นทางพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงวิปของสมาชิกวุฒิสภา ควรไปประชุมปรึกษาหารือกันแต่ละฝ่าย และนำข้อเสนอที่สรุปร่วมกันของแต่ละฝ่ายมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ และทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและตัวแทนของสมาชิกวุฒิสภาได้นำข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปในทิศทางเดียวกันก็จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้
นายองอาจ กล่าวอีกว่า เราต้องยอมรับความจริงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้ ต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้จริง เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องพยายามแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง สร้างความยอมรับที่เห็นพ้องต้องกันในประเด็นสำคัญๆ ที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าได้ โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทุกรูปแบบ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ตามความต้องการของทุกฝ่าย
“ส่วนที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. เสนอตัดไม่ให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ นับเป็นเรื่องดีที่ ส.ว. มองเห็นจุดอ่อนของเรื่องนี้ที่ควรมีการแก้ไข เพราะในความเป็นจริง ถ้า ส.ว.ไปเลือกใครก็ตามที่รวบรวมเสียงได้ไม่ถึงครึ่งของสภาผู้แทนราษฎรไปเป็นนายกฯ ก็คงไม่สามารถเป็นนายกฯ ได้นาน เพราะจะไม่มีเสียงเพียงพอเกินครึ่งที่จะผ่านกฎหมาย หรือผ่านงบประมาณในสภาได้ ตรงกับประเด็นหนึ่งที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาชุมนุมอยู่ในขณะนี้เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจของ ส.ว. ที่แสดงออกถึงการสืบทอดอำนาจของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ซึ่งทุกฝ่ายควรรับฟังและพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้ผู้นำเหล่าทัพมาเป็น ส.ว. ตนไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้นที่มีการใส่เรื่องนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่ให้ผู้นำเหล่าทัพมาเป็น ส.ว. ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าเพื่อป้องกันการรัฐประหาร เพราะในอดีตที่ผ่านมาผู้นำเหล่าทัพที่เป็น ส.ว. ก็เคยทำการรัฐประหารมาแล้ว เพราะฉะนั้นการไม่มีผู้นำเหล่าทัพเป็น ส.ว. คงไม่มีผลกระทบอะไรกับการทำงานของ ส.ว. โดยรวม ควรให้ผู้นำเหล่าทัพไปทำหน้าที่ผู้นำเหล่าทัพเต็มกำลังความสามารถในกองทัพจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี