กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา“เกริกชัย” ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.บึงกาฬ เขต2 พรรคประชาชาติ เหตุฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ม.151 มีโทษจ่อคุก1-10 ปี

วันที่ 17 ส.ค.63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 50/2563 เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดบึงกาฬ จากกรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎต่อ กกต. ว่า นายเกริกชัย พลชา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดบึงกาฬ พรรคประชาชาติ ได้มีการกระทำอันฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 151 เนื่องจากนายเกริกชัยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.

ทั้งนี้ จากการไต่สวนพบว่าเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2561 นายเกริกชัย ได้สมัครเป็นสมาชิกและชำระค่าบำรุงพรรคประชาชาติ และในวันเดียวกันก็ได้สมัครเป็นสมาชิกและชำระค่าบำรุงพรรคพลังประชาธิปไตย ทำให้เป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ส่งผลให้ต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพทั้ง 2 พรรค จากนั้นนายเกริกชัยได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและชำระค่าบำรุงพรรคไทยรักษาชาติ แต่ในวันที่ 6 ก.พ. นายเกริกชัยได้สมัครรับเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดบึงกาฬ ในฐานะสมาชิกพรรคประชาชาติ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151กกต.จึงมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายเกริกชัย ตามพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเกริกชัย เป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคประชาชาติที่ถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย นางทัศนีย์ ชลายนเดชะ เขต 15 กรุงเทพฯ, นายวิโรจน์ วัฒนากลาง เขต 6 นครราชสีมา, นายอิทธิศักดิ์ ปาทาน เขต 5 บุรีรัมย์, นายเกริกชัย พลชา เขต 2 บึงกาฬ, นายประหยัด พิมพา เขต 1 อุดรธานี และนายอฤเดช แพงอะมะ เขต 3 อุดรธานี  ซึ่งตามมาตรา 151 ระบุว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งรู้ตัวว่า ไม่มีสิทธิแล้วยังสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี