ศาลปค.สูงสุดสั่งเพิกถอนคำสั่งปลด"ศิโรตม์"อดีตอธิบดีสรรพากร ปมวินิจฉัยโอนหุ้นชินคอร์ป ชี้ไม่พบได้รับประโยชน์ที่มิควรได้จากการปฏิบัติหน้าที่ คำอุทธรณ์ป.ป.ช.ฟังไม่ขึ้น สั่งปลัดคลังฯเร่งคืนสิทธิประโยชน์ภายใน30วัน
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ลงโทษปลด นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับ และมีข้อสังเกตให้ปลัดกระทรวงการคลังดำเนินการคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่นายศิโรตม์ควรได้รับหากไม่ได้ถูกลงโทษทางวินัยตามคำสั่งดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดด้วย ทั้งนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่านายศิโรตม์ กระทำผิดผิดวินัยร้ายแรง จากการร่วมกันพิจารณาว่าการรับโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จาก น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ผู้ถือหุ้นแทน คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นการได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยาและจากการให้โดยเสน่ห์เนื่องในพิธีหรือโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ซึ่งกระทรวงคลังได้มีคำสั่งไล่ออกจากราชการ และต่อมาก็มีคำสั่งลดโทษเป็นปลดออกจากราชการ ทำให้นายศิโรตม์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอน ทำให้ ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
สำหรับเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนระบุว่า การใช้อำนาจในการชี้มูลความผิดวินัยดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 ซึ่งต้องมีการพิจารณาสั่งลงโทษทางวินัยต่อไปโดยผู้บังคับบัญชา ไม่ใข่การใช้อำนาจตรงตามรัฐธรรมนูญที่จะได้รับข้อยกเว้นตามมาตรา 223 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ 50 เมื่อคดีนี้นายศิโรตม์ฟ้องโต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งลงโทษปลดตนเองออกจากราชการที่ออกตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ ก.พ.ซึ่งมีลักษณะเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลหรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของนายศิโรตม์ จึงเป็นคำสั่งทางปกครองดังนั้นที่ ป.ป.ช.โต้แย้งว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้จึงฟังไม่ขึ้น
ส่วนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 658/2551 ลงวันที่ 12 พ.ค.51 เรื่องลดโทษข้าราชการเฉพาะส่วนที่ลดโทษนายศิโรตม์ จากไล่ออกเป็นปลดออกจากราชการ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าการให้ความเห็นในกรณีนี้ นายศิโรตม์มีเจตนาเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ และต่อมา น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายคนต่อมาได้มีหนังสือลับที่ กค.0811 (สก.06)/2063 ลงวันที่ 2 ต.ค.2544 แจ้งความเห็นดังกล่าวให้นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภาษีคนต่อมาพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยุติการตรวจสอบข้อมูลรายนายบรรณพจน์ และมีหนังสือลับที่ กค.0804/0155 ลงวันที่ 9 พ.ย.2544 เสนออธิบดีกรมสรรพากรทราบ โดยที่อธิบดีกรมสรรพากรไม่ได้มีคำสั่งให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรพิจารณาตามมาตรา 13 สัตต(3)แห่งประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด
สำหรับการที่ นายบรรณพจน์ ได้ดำเนินการรับโอนหุ้นจากคุณหญิงพจมาน หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านระบบซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อันเป็นการโอนหลักทรัพย์โดยอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องรับผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือ เป็นเรื่องที่ต้องแยกพิจารณาภาระภาษีที่ผู้มีเงินได้พึงประเมินจะต้องเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่ปรากฎพยานหลักฐานใดในสำนวนคดีนี้ที่พิสูจน์ได้ว่า นายศิโรตม์ได้รับประโยชน์ที่มิควรได้จากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหรือปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการอันเป็นเหตุให้กรมสรรพากรได้รับความเสียหาย จึงไม่อาจฟังได้ว่าพฤติการณ์ของนายศิโรตม์เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงและฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามมาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง มาตรา 98 วรรคสอง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน 2535 ตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ดังนั้นการที่ปลัดกระทรวงการคลังมีคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1214/2549 ลงวันที่ 29 ธ.ค.49 ลงโทษไล่นายศิโรตม์ออกจากราชการและต่อมาได้มีคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 658/2551 ลงวันที่ 12 พ.ค.51 ลดโทษนายศิโรตม์จากไล่ออกจากราชการเป็นปลดออกจากการราชการตามมติคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี