"คนเสื้อเหลือง" รวมทำกิจกรรมหน้าศูนย์ราชการฯ แสดงพลังปกป้องสถาบัน ชี้ปฏิรูปการศึกษา-การเมือง แก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่ปฏิรูปสถาบัน นัดหมายอีกครั้ง 27 ต.ค.สวนลุมพินี
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2563 ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ มีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมรวมพลังพิทักษ์ราชัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีพร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ บริเวณด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการกล่าวคำปฏิญาณที่ปกป้องสถาบันกษัตริย์ด้วยชีวิต และร่วมร้องเพลงชาติ เพลงสดุดีมหาราชา เพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทั้งตะโกนว่า "ลุงตู่สู้ๆ ไชโย ไชโย"
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวครั้งนี้ไม่มีการปราศรัย และชุมนุมค้างคืน จนกระทั่ง เวลา 18.10 น.ที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้นัดหมายร่วมทำกิจกรรมครั้งต่อไป ที่ลานพระบรมรูป ร.6 สวนลุมพินี ในช่วงเย็น วันที่ 27 ต.ค.นี้
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า วันนี้เป็นการทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่คนที่รู้สึกอึดอัดมาร่วมกันทำกิจกรรม ยังไม่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการชุมนุม คนเสื้อเหลืองเป็นแค่สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความจงรักภักดี มุ่งจะรักษาความสงบ อดทน อดกลั้น ส่วนทิศทางการชุมนุมจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คนเสื้อเหลืองไม่ได้เป็นผู้กำหนดสถานการณ์ แต่หากมีเหตุการณ์ที่มีการล่วงละเมิดจนทนไม่ได้ ตนและประชาชนที่จงรักภักดีจะออกมากรวมตัวกันที่ศูนย์ราชการฯ อีก
"วันนี้คนส่วนหนึ่งหลงตัวเองและเข้าใจผิด ยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายขวาจัด ถ้าไม่ใช่ขวาจัดจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้ ขบวนการทั้งหมดอยู่ที่คนริเริ่ม ต้องถามนักการเมืองผู้ที่สนับสนุนผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร ซึ่งนักการเมืองเหล่านี้ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระมหากษัตริย์ให้เข้ามาทำหน้าที่ ส.ส.แล้วท่านแสดงความชัดเจนที่จะช่วยเหลือสนับสนุนผู้ที่เป็นบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านเป็นนักการเมืองอย่างไร
นอกจากนี้ กระบวนการผลิตชุดความคิดให้ร้ายสถาบันมหากษัตริย์ผ่านช่องทางโซเชียลแทรกซึมไปทุกอณูสังคมนานกว่า 10 ปี ซึ่งสิ่งนี้ต้องปฏิรูปสถาบันศึกษา อย่าให้มีอาจารย์ที่มีชุดความคิดให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในสถาบันการศึกษา รวมถึงปฏิรูปการเมือง อย่าให้นักการเมืองจัญไรเข้ามาบริหารประเทศ และปฏิรูปสื่อโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นช่องทางในการให้ร้ายสถาบันกษัตริย์ ในส่วนของครอบครัวจะต้องดูแลบุตรหลาน"
นพ.เหรียญทอง กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญปี 60 ผมไม่มีความคิดที่จะแก้ไข เพราะประชาชนไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีแต่นักการเมืองที่เดือดร้อนและเสียประโยชน์ ส่วนคนที่บอกว่ารัฐบาลเป็นเผด็จการนั่นเป็นเผด็จการตรงไหน เราไม่เห็นใครถูกอุ้มฆ่าเพราะรัฐบาล การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ไม่มีการใช้ความรุนแรงอะไร มีแต่การให้ข่าวใส่ร้าย ส่วนตัวตนไม่ได้รู้จักนายกรัฐมนตรี และไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน แต่ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่าที่ออกมาไม่ได้ปกป้องรัฐบาล แต่ออกมาเพื่อแสดงความรู้สึก ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกคุกคาม
นพ.เหรียญทอง ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งมีการกระทบกระทบระหว่างกลุ่มราษฎรและกลุ่มป้องกันปกป้องสถาบันว่า เรามองว่ากลุ่มราษฎรเป็นอริราชศัตรูที่ใช้วาทกรรมสวยหรูว่าจะปฏิรูปสถาบัน แต่ความเป็นจริงคือต้องการล้มล้างและบั่นทอนสถาบัน โดยเหตุกระทบกระทั่งเมื่อวานถือเป็นเหตุธรรมชาติที่คนจงรักภักดีไม่พอใจ จึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบอาจมีการใช้กำลังบ้างซึ่งเป็นเรื่องที่เล็กน้อย เนื่องจากมีการจาบจ้วงสถาบันที่ไม่รู้จักกาละเทศะ ความสมควร คนที่จงรักภักดีต่อสถาบันก็ทนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมม็อบชนม็อบ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบใดที่มีการจาบจ้วงและคุกคามสถาบัน พวกตนจะทนได้อย่างไร
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะยกระดับเป็นม็อบขนาดใหญ่ นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า มีแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดต่างๆ เป็นการแสดงออกของคนในพื้นที่ เช่นเดียวกับพื้นที่เขตหลักสี่ที่มีการแสดงออกเพื่อให้รู้ว่าเราไม่พอใจ ท่านอย่ามาอ้างว่าเป็นราษฎร ตนก็เป็นราษฎร อย่าอ้างว่าคนที่ต้องการปฏิรูปสถาบันคือคนทั้งหมดของประเทศ คนอย่างตนมีอีกมากมาย เพียงแต่เรายังไม่ได้ออกมาในจุดที่เราทนไม่ได้ ทั้งนี้ จะมีการรวมพลังมากขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการชุมนุม มีชายวัยกลางคนสวมเหลือง ถือป้ายที่มีข้อความเชิงต่อต้านนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาเข้ามาอยู่ในกลุ่ม ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจและด่าทอ มีการปะทะกันเล็กน้อย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัวนายคนดีงกล่าวออกไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี