“ศบค.” ไฟเขียว “ขยายล็อกดาวน์” ปรับเพิ่มจังหวัดสีแดงเข้มอีกเป็น 29 จังหวัด คุมเข้มยาวถึง 31 ส.ค.นี้ พร้อมผ่อนคลายให้ขายอาหารในห้างแบบเดลิเวอรี่
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)หรือ ศบค.เป็นประธานประชุมศบค. ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยก่อนเช้าวาระประชุม นายกฯได้รายงานการเตรียมรับวัคซีนยี่ห้อสปุกนิก-วี จากประเทศรัสเซีย และจะเร่งเรื่องเอกสารทางฝั่งบริษัท และเร่งฉีดให้แพทย์ และด่านหน้า และกำชับการใช้ชุดตรวจ ATK ต้องรัดกุม และเชื่อมต่อโรงพยาบาล รวมทั้งการควบคุมราคา และคุณภาพ รวมถึงการรักษาพยายาบให้มีระบบที่เชื่อมต่อกัน รวมทั้ง สมุนไพร และให้ดูแลแพทย์ บุคลากรด่านหน้า ในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ให้มีการเบิกจ่ายให้เร็ว และกำลังพิจารณาสิทธิพิเศษหากจำเป็น
เมื่อเข้าสู่สาระประชุมกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อในต่างประเทศ ที่ยังคงสูง เช่น อินโดนิเซีย ส่วน สหรัฐอเมริกา สายพันธ์เดลต้าได้เข้าร่างกายแล้ว จะเพิ่มปริมาณไวรัสได้ใกล้เคียงกับผู้ฉีดวัคซีนแล้ว และประกาศให้มีการใส่หน้ากากแล้ว ขณะที่การประเมินผลมาตราการล็อกดาวน์ 14 วันที่ผ่านมา มีผล 20 %
ด้านคณะแพทย์เสนอเรื่องวัคซีน ยังคงเจรจาซื้ออย่างต่อเนื่อง และเป็นห่วงเรื่องการชุมนุม ที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อ ขอให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ที่มีอยู่ ส่วนเรื่องเตียงจะมีการจัดหาเตียงเพิ่มเติม โดยสั่งการขยายรองรับเช่น hospitel CI Hi และอย่าให้ประชาชนตื่นตระหนกว่าเตียงไม่มี
นายกฯกล่าวว่า ในส่วนชุมชนปลอดเชื้อเป็นความร่วมมือกันทุกส่วนในชุมชนอยากช่วยกันสร้างชุมชนสีฟ้าถวายเป็นพระรากุศลเนื่องในวันเฉลิม 12 สิงหาคม และขอให้จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ให้ครบ 30 ล้านโดส ภายในปี 64
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไปอีก 30 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 2ส.ค.ถึงวันที่ 31 ส.ค.64 และมีมติขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(พื้นที่สีแดงเข้ม) จากเดิม 13 จังหวัด เพิ่มอีก 16 จังหวัด รวมเป็น 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง รวมทั้งขยายล็อกดาวน์อีก 1 เดือนไปถึงสิ้นเดือนส.ค.64 นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุญาตร้านอาหารในห้าง คอมมิวนิตี้มอลล์ สามารถเปิดจำหน่ายได้ เฉพาะบริการแบบดลิเวอรี่หรือซื้อกลับได้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบค.เห็นชอบยกระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม )จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด โดยเพิ่ม จ.กาญจนบุรี จ.ตาก จ.นครนายก จ.นครราชสีมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ปราจีนบุรี จ.เพชรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จ.ระยอง จ.ราชบุรี จ.ลพบุรี จ.สิงห์บุรี จ.สมุทรสงคราม จ.สระบุรี จ.สุพรรณบุรี และ จ.อ่างทอง
ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง ) ปรับลดจาก 53 เหลือ 37 จังหวัด ดังนี้ จ.กาฬสินธุ์ จ.กำแพงเพชร จ.ขอนแก่น จ.จันทบุรี จ.ชัยนาท จ.ชัยภูมิ จ.ชุมพร จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.ตรัง จ.ตราด จ.นครศรีธรรมราช จ.นครสวรรค์ จ.บุรีรัมย์ จ.พัทลุง จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.มหาสารคาม จ.ยโสธร จ.ระนอง จ.ร้อยเอ็ด จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.เลย จ.ศรีษะเกษ จ.สกลนคร จ.สตูล จ.สระแก้ว จ.สุโขทัย จ.สุรินทร์ จ.หนองคาย จ.หนองบัวลำภู จ.อุตรดิตถ์ จ.อุทัยธานี จ.อุดรธานี จ.อุบลราชธานี และ จ. อำนาจเจริญ
พื้นที่ควบคุม (สีส้ม ) จาก 10 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด ดังนี้ จ.กระบี่ จ.นครพนม จ.น่าน จ.บึงกาฬ จ.พะเยา จ.พังงา จ.แพร่ จ.ภูเก็ต จ.มุกดาหาร จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.สุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ ศบค.ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อย โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 21.00-04.00 น. งดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด ให้ตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัด (ตามมาตรการที่ราชการกำหนด) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 5 คน ห้ามบริโภคในร้าน ให้ขายแบบนำกลับไปบริโภคที่อื่น เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน
ส่วนการขายอาหารในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าให้เปิดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มผ่านการให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ส่วนร้านขายยา เวชภัณฑ์ ซูเปอร์มาเก็ต เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ให้ปิดร้านเสริมสวย ร้าน นวด สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา และห้ามใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก
ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด เพื่อตรวจคัดกรองการเดินทาง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 20 คน บริโภคอาหารในร้านอาหารได้ เปิดไม่เกินเวลา 23.00 น.และงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ โดยจำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม เปิดบริการได้ตามปกติ และให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบตากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สำหรับสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดได้ทุกประเภท ไม่เกินเวลา 21.00 น. จัดแข่งขันโดยจำกัดผู้ชม
ส่วนพื้นที่ควบคุม ไม่จำกัดการเดินทาง ห้ามจัดกิจกรรม รวมคนมากกว่า 50 คน ร้านอาหารให้บริโภคในร้านได้และเปิดได้ตามปกติ ให้งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ศูนย์การค้าเปิดได้ตามปกติ ปิดส่วนเครื่องเกมส์ สวนสนุก ส่วนร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม เปิดได้ตามปกติ ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด และสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดได้ตามเวลาปกติทุกประเภท จัดการแข่งขันโดยจำกัดผู้ชม
ทั้งนี้ ให้ขยายมาตรการต่างๆ ออกไป 1 เดือน ตั้งแต่ 2-31 สิงหาคม นี้ โดยผู้ช่วยโฆษก ศบค. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 17.00 น. และจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NBT
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี