จ่อฟันสส.เพื่อไทย
บินพบ‘แม้ว-ปู’นักโทษหนีคดี
ส่อผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ศรีสุวรรณยื่นร้องปปช.11มี.ค.
สส.เพื่อไทยงานเข้า“ศรีสุวรรณ”เตรียมบุก ป.ป.ช. 11 มีนาคม ยื่นสอบจริยธรรม สส.เพื่อไทย หลังบินพบ“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”นักโทษหนีคดี ที่สิงคโปร์ ไต่สวนเอาผิดสส. ชี้ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำเกียรติสส.เสื่อมเสีย“เทพไท”จี้รัฐบาล
‘บิ๊กตู่’กล้าจัดการเด็ดขาด‘นช.แม้ว’โผล่สิงคโปร์ ชี้ช่องฟัน ส.ส.พท.ดอดพบนักโทษหนีคดี ส่อผิดกฎหมาย-ประมวลจริยธรรม แนะยื่นปปช. ‘เกรียง’ปัดพัลวัน แค่บังเอิญเจอ’ทักษิณ’ที่สิงคโปร์ แค่ถามสาระทุกข์สุขดิบ ไม่ได้คุยการเมือง
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่าจากที่ปรากฎข่าวตามที่สื่อมวลชนได้รายงานว่ามีแกนนำ และส.ส.พรรคเพื่อไทย ราว 6-7 คนในพื้นที่อีสาน นำโดย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำภาคอีสาน,นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และประธาน ส.ส.อีสาน และ นางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เป็นต้น เดินทางจากประเทศไทยไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่เดินทางมาพบแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีที่ประเทศสิงคโปร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการไปพบปะกันดังกล่าว เนื่องจากนายทักษิณนั้น ถูกศาลฎีกาฯพิพากษาสั่งจำคุกแล้ว 6 คดี รวมโทษ 12 ปี ยกฟ้อง 2 คดีและยังเหลือไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. อีก 2 คดี ขณะนี้ ถือว่า เป็นผู้ต้องหา หรือ นักโทษหนีคดี อยู่ในต่างประเทศ
ศรีฯจ่อร้องปปช.เอาผิดสส.พบนช.แม้ว
ดังนั้น การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนด้านนิติบัญญัติ เดินทางไปพบปะหรือ คบค้าสมาคมด้วยนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากเป็นการคบหาสมาคมกับ ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือ ผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.นนทบุรี ในวันศุกร์ที่11มี.ค.65 เวลา 10.00 น.เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดส.ส.ทั้งหมดที่เดินทางไปพบปะนายทักษิณดังกล่าวตามครรลองของกฎหมายต่อไป
เทพไทเชื่อสส.พท.พบแม้วโยงการเมือง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่า“คุณทักษิณ เป็นนักโทษหนีคดี อยู่ที่สิงคโปร์ แต่รัฐบาลไทยกลับเฉยเมย ไม่บังคับใช้กฎหมาย ผมได้เห็นข่าวคุณทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาพำนักอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน เดินทางไปพบกับคุณทักษิณ ผมในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งจึงให้ความสำคัญและได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดเพราะเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับการเมืองภายในประเทศ อย่างปฎิเสธไม่ได้ ตนกับคุณทักษิณไม่มีอะไร เป็นการส่วนตัว หรือ มีความเกี่ยวข้องกัน ก็เป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องและมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงของการบังคับใช้กฎหมาย จะต้องบังคับใช้กฎหมายกับคุณทักษิณ ให้เหมือนกับประชาชนคนไทยทุกคน
รัฐบาลต้องไม่ลืมว่า สถานะของคุณทักษิณ คือนักโทษหนีคดี ที่รัฐบาลไทยจะต้องนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลทุกชุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาล คสช. ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่พลเอกประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ก็ยังไม่เห็นท่าทีของพลเอกประยุทธ์ ในการเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายกับคุณทักษิณเลย ทั้งที่ประกาศมาโดยตลอดว่า รัฐบาลชุดนี้จะยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างเคร่งครัด
ชี้ช่องฟันส.ส.ดอดพบนักโทษหนีคดี
การที่คุณทักษิณ เดินทางมาพำนักอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศไทย รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ น่าจะรับทราบข้อมูลข่าวสารได้ดีกว่า ประชาชนคนไทยทั่วไปเพราะเป็นกระแสข่าวมาก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน แต่ก็ยังไม่เห็นรัฐบาล สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจสากล ประสานงานจับกุม ดำเนินการใดๆให้เป็นไปตามกฎหมายเลย จะเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ของรัฐบาลหรือไม่
และการที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปพบกับคุณทักษิณซึ่งนักโทษหนีคดีนั้นจะมีความผิดต่อกฎหมายหรือประมวลจริยธรรมหรือไม่ น่าจะเป็นประเด็นที่กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่เคลื่อนไหวทางการเมือง สามารถยื่นต่อ ปปช.ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ได้
จี้รบ.-บิ๊กตู่’จัดการเด็ดขาด‘นช.แม้ว’
ทั้งนี้ นายเทพไท ยังระบุทิ้งท้ายว่า“ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าการแสดงความเห็นในครั้งนี้เพื่อต้องการกระตุ้นเตือนรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนกลุ่มหนึ่ง อยากเห็นพลเอกประยุทธ์ใช้ความเด็ดขาดเข้ามาสะสางปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณให้สำเร็จจนถึงบัดนี้ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆตามที่สังคมคาดหวังได้เลย”
‘เกรียง’ปัดพัลวันแค่บังเอิญเจอทักษิณ
ด้านนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยหนึ่งส.ส.ที่มีภาพปรากฏนั่งรับประทานอาหารร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ประเทศสิงคโปร์ ชี้แจงว่าตนจองทัวร์เพื่อไปสิงคโปร์ตั้งแต่ปี2563 แต่ติดปัญหาโควิด ทัวร์เพิ่งแจ้งว่าเดินทางไปได้ช่วงนี้ ตนและผู้แทน ในพื้นที่อีสานประมาณ10 กว่าคนพร้อมด้วยลูกเมียรวมแล้ว 20กว่าคน จึงเดินทางไปพักผ่อน
“และไปทานข้าวตามที่ทัวร์เขาจัดให้ปกติซึ่งได้พบนายทักษิณที่ไปพร้อมกับน้องชาย ที่ห้องอาหารแห่งนั้น โดยบังเอิญ ต่างคนต่างนั่งโต๊ะตัวเองเพราะทางร้านอาหารให้นั่งโต๊ะละไม่กี่คนแต่ก็ได้มีโอกาสไปนั่งร่วมโต๊ะพุดคุยกันนิดหน่อย เนื้อหา ที่พูดคุยก็เป็นเรื่องทั่วไปถามสารทุกข์สุขดิบ สัพเพเหระ เพราะนานๆจะเจอกันสักครั้ง ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเมืองแต่อย่างใด”
‘บิ๊กตู่’งดตอบสื่อ แค่ทักทายสวัสดี
วันเดียวกัน เวลา15.00น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2565 ซึ่งใช้เวลาประชุมประมาณ30นาที ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยมีด้วยสีหน้าและท่าทางที่อ่อนเพลียและกล่าวเพียงสั้นๆว่า”สวัสดีนะจ๊ะ ระวังโควิดเด้อ”
‘ไผ่’ยัน‘ลุงป้อม’ไม่ได้พูดศกท.มีปัญหา
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงที่มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 8 มี.ค.ว่าเสียงพรรคเศรษฐกิจไทยจะยังสนับสนุนรัฐบาลต่อไปยกเว้นเสียงเดียวที่อาจจะมีปัญหาคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทยว่าทางพรรคได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรแล้ว พล.อ. ประวิตรยืนยัน ไม่ได้พูดอย่างที่เป็นข่าว ส่วนหากครั้งต่อไป จะมีการเชิญพรรคเศรษฐกิจไทยจะเข้าร่วมงานเลี้ยงหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ยังไม่รู้เขาจะเชิญหรือไม่ เป็นเรื่องของวันข้างหน้า
ย้ำจุดยืนซักฟอกพรรคทำเพื่อปชช.
นายไผ่ กล่าวว่าส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ไม่ต้องไปกลัวฝ่ายค้านจะพูดอะไร หากไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ฝ่ายค้านพูด สำหรับพรรคเศรษฐกิจไทย ยังย้ำจุดยืนเดิมคือยึดประโยชน์และความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี65พรรคเศรษฐกิจไทย วันที่ 18 มี.ค.จะมีการปรับเปลี่บนกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้มีการหารือวางนโยบายพรรคให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเปิดโลโก้พรรค จากนั้นจะมีการวางยุทธศาสตร์พรรค หลังจากบ้านหลังนี้ รีโนเวทเสร็จ วันข้างหน้าจะเห็นผู้มาร่วมงานพรรคอีกเยอะแน่
คาดเลือกผู้ว่าฯกทม.-พัทยาตามไทม์ไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ตอบคำถามผู้สื่อข่าวผ่านแอปพลิเคชันไลน์ถึงความคืบหน้าการกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา ภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยานั้นว่ากกต.จะมีการหารือกันในเร็วๆนี้เพื่อพิจารณากำหนดวันที่จะประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งกทม.และพัทยา โดยสัปดาห์หน้า ทางสำนักงานกกต.จะเสนอเรื่องให้กกต. พิจารณาประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง โดยในการเลือกตั้งท้องถิ่นแต่ละครั้งที่ผ่านมาจะประชุมกันไว้ก่อนล่วงหน้าว่าจะประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันใด ส่วนวันเลือกตั้งจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ทั้งนี้ ในส่วนของการกำหนดวันเลือกตั้งนั้น จะเป็นอำนาจของ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง(กทม.และพัทยา)โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดซึ่งสามารถกำหนดให้เป็นวันเดียวกันได้
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่าสำหรับการพิจารณาเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และนายกเมืองพัทยา จะเสนอเข้าที่ประชุม กกต.ช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 14 มี.ค.นี้ โดยคาดว่า กกต.จะออกประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองทัพยา ในวันที่ 28 มี.ค. และกำหนดให้มีการรับสมัครเลือกตั้งช่วงระหว่างวันที่ 7-11 เม.ย. และเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ แต่ทั้งนี้อาจจะสามารถเลื่อนไทม์ไลน์ให้เร็วกว่านี้ได้ แต่อาจจะติดช่วงวันหยุดยาววันวิสาขบูชา ต้องรอผลการพิจารณาวันที่14 มี.ค.นี้ แต่ไทม์ไลน์ดังกล่าว ไม่สามารถขยายให้ช้ากว่านี้ได้ เนื่องจากหากเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่29พ.ค.จะกระชั้นชิดกับวันสุดท้ายของกรอบเวลาในการจัดการเลือกตั้งจนเกินไป
ส่อร้าวลึก‘ไพบูลย์’โดดถกกมธ.2วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ฉบับที่.. พ.ศ. ...มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นประธานได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ามี กมธ.ลาประชุมคือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) , นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร., พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ส.ว. และ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ ส.ว. ทั้งนี้น่าสนใจตั้งแต่มีการประชุม กมธ.เมื่อวันที่9มี.ค.เป็นต้นมา นายไพบูลย์ ที่พลาดเก้าอี้ประธานกมธ.ยังไม่เคยเข้าประชุมเลย
กมธ.กม.พรรคการเมืองไร้ข้อสรุป
ต่อมาเวลา13.30น.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ…..แถลงผลการประชุมว่ามาตรา1 และมาตรา2 ไม่มีการแก้ไข แต่แก้ไขมาตรา 2/1 เกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง กมธ.ส่วนใหญ่พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องเป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไป และคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา9 ของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 กำหนดไว้ว่าต้องพิจารณาให้รอบคอบ รอบด้าน ว่าควรกำหนดไว้เพียงใด โดยพิจารณามาตรา96 และมาตรา98 ของรัฐธรรมนูญปี60ประกอบด้วย จึงได้มอบหมายให้ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการ กมธ.ฯ ไปพิจารณาในประเด็นนี้ แล้วนำกลับมาเสนอต่อกมธ.ฯ
เสนอรื้อค่าสมาชิกตลอดชีพ
โฆษกกมธ.ฯกล่าวต่อว่าส่วนมาตรา3 เกี่ยวกับค่าบำรุงพรรคการเมือง ที่เรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมือง โดยกมธ.ฯ ส่วนหนึ่งเห็นว่า กำหนดจากจำนวนค่าบำรุงไว้ในอนุมาตรา 15 ของมาตรา15 ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่ง กมธ.ฯ ส่วนหนึ่ง เห็นด้วยให้กำหนดไว้ในข้อบังคับพรรคการเมือง ไม่ควรกำหนดไว้ในร่างฯ นอกจากนี้กมธ.ฯ ส่วนหนึ่งเห็นว่า อาจกำหนดให้พรรคการเมืองพิจารณาเรียกเก็บค่าบำรุงพรรคจากสมาชิกหรือไม่ก็ได้ตามดุลยพินิจของพรรคการเมืองนั้นๆ เดิมทีค่าสมัครสมาชิกพรรคการเมืองเป็นแบบรายปี จำนวน100บาท และแบบตลอดชีพจำนวน 2,000 บาท ถือเป็นอัตราที่สูง ที่ประชุมจึงมีข้อถกเถียงกันว่า ค่าสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ เป็นอุปสรรคในการหาสมาชิกพรรค และการทำภารกิจของพรรค จึงเสนอให้เอาไว้ในข้อบังคับพรรคฯ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงมีการพักการประชุม และจะพิจารณาในประเด็นดังกล่าวในสัปดาห์ต่อไป
“ไทยภักดี”ยื่น3ข้อให้กมธ.กฎหมายลูก
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายวสันต์ มีวงษ์ รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วยทีมกฎหมาย เข้ายื่นเรื่องข้อเสนอของพรรคไทยภักดีต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมี นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการฯรับเรื่อง
โดยนายวสันต์กล่าวว่าพรรคไทยภักดีเสนอแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ให้กรรมาธิการยังคงยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในการคำนวณจำนวน ส.ส. เพื่อให้คะแนนเสียงของประชาชนทุกคนมีความหมาย คะแนนของประชาชนต้องไม่สูญเปล่า ไม่ตกน้ำ เพื่อไม่ให้ภายหลังการแก้ไขต้องมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง พร้อมเสนอให้กรรมาธิการคุ้มครองประชาชน โดยไม่ให้ประชาชนที่ถูกนักการเมืองซื้อเสียงมีความผิด และให้มีรางวัลนำจับสำหรับประชาชนที่ให้เบาะแสการซื้อสิทธิขายเสียงด้วย เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตโปร่งใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสนอให้พิจารณาระบบดิจิตอลบาท ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณช่วงหาเสียงของผู้สมัครผ่านการโอนจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารเท่านั้น ห้ามไม่ให้ใช้จ่ายด้วยเงินสดเพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี