‘ปชป.’ทำบุญวันเกิดครบ 76 ปี ก้าวสู่ปีที่ 77 ‘จุรินทร์’ลั่นจะนำพาพรรคสู่ความสำเร็จ ขอบคุณบรรพบุรุษ -กก.บห.-สมาชิกพรรค ที่จับมือกันเดินถึงวันนี้ ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมือง ไม่ตั้งเป้าที่นั่งส.ส. ยันยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องเงื่อนไขร่วมรัฐบาลครั้งหน้า อยู่ที่ใครรวมเสียงข้างมากได้
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 เมษายน 2565 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดงานวันครบรอบการก่อตั้งพรรค 76 ปี ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ โดยผู้ที่จะเข้าร่วมงานทั้งหมดต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้วยชุดเอทีเค (ATK) ซึ่งตั้งอยู่หน้าที่ทำการพรรค ถึงจะเข้าร่วมงานได้ ขณะที่ภายในงานมีการประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนา อิสลาม พราหมณ์ และพุทธโดยมีแกนนำพรรค ส.ส. อดีตส.ส. สาขาพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค , นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค , นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานที่ปรึกษาพรรค , นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เป็นต้น อย่างไรก็ตามนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.และผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50เขต ไม่ได้เข้าร่วมงานด้วย เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
ทั้งนี้ มีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำแจกันดอกไม้มาร่วมอวยพร อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย , นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย , นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา , ตัวแทนนายสุวัจน์ ลิปพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นำแจกันดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณ
นอกจากนี้ยังมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตไทย มาร่วมแสดงความยินดีด้วย พร้อมกล่าวว่า มาแสดงความยินดีเพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันเก่าแก่ เป็นที่น่ายกย่อง เราในฐานะคนที่อยู่ในการเมืองก็ชื่นชมที่เป็นพรรคที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีของการเมืองไทย จากนั้นทั้งนายจุรินทร์ และนายสนธิรัตน์ ได้สวมกอดกัน
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครอบรอบ 76 ปีของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาต่อเนื่องยาวนาน และยังจะอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะประชาธิปัตย์ประกอบด้วยคนทุกรุ่น ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนร่นใดรุ่นหนึ่ง ผู้อาวุโสของพรรคก็จะทำหน้าที่เป็นหางเสือ สำหรับคนรุ่นปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนพรรคไปสู่ทิศทางและเป้าหมาย และคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นคนที่มาสืบทอดอุดมการณ์พรรคต่อไปในวันข้าหน้า พรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น เรามีทั้งอดีต ปัจจุบันและมีอนาคต
“ในฐานะเป็นหน้าพรรค ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมืองที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ซึ่งผมมั่นใจว่าก็เป็นเช่นเดียวกันสมาชิกพรรคทุกคน ที่อยู่ร่วมอุดมการณ์มาจนถึงวันนี้และจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้าในฐานะหัวหน้าพรรค ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณบรรพบุรุษของพรรคฯ เพื่อนร่วมงาน กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคทุกคน ที่จับมือร่วมกันในการทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินมาจนกระทั่งถึงวันนี้ และจะเดินต่อไปในวันข้างหน้าในฐานะหัวหน้าพรรคผมยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรคทุกคน ที่จะนำประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จต่อไป และนำอุดมการณ์ของพรรคฯไปสู่การทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้สำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวถึงทางเดินในวันข้างหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนว่าเราอยู่ได้มายาวนานเพราะมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำหน้าที่เพื่อประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะทำวันนี้และทำต่อไปในวันข้างหน้า ส่วนรายละเอียดอื่นๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะตัวบุคคลหรือนโยบายและทิศทางในการดำเนินการทางการเมือง โดยจะต้องทำให้สอดคล้องกัน เพื่อให้เหมาะสมกับกาลเวลา เพราะสโลแกนของพรรคมีความชัดเจนอยู่แล้วคืออุดมการณ์ที่สอดคล้องกับโลก สถานการณ์ และความเป็นไปของสังคมที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้พรรคสนองตอบได้อย่างตรงประเด็น และเป็นที่พอใจของประชาชน ซึ่งตั้งแต่ช่วง2-3 ปีที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคยืนยันว่าเราทำหน้าที่อย่างครบถ้วนและทำได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าจากผลงานของพรรคที่ผ่านมามีความคาดหวังว่าจะได้รับการเลือกตั้งส.ส.มากขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องตัวเลข แต่การทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ได้นำพาพรรคเดินหน้าไปสู่การยอมรับของประชาชนยิ่งขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับที่เราได้ตั้งเป้าไว้แต่ต้นคือการได้รับการยอมรับ และเราก็รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการยอมรับและไปนั่งในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้ง สิ่งที่เราต้องทำให้ชัดเจนคือการทำหน้าที่ เพราะสถาบันการเมืองต้องรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องรู้หน้าที่ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร หากไม่รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไรก็จะพากันถอยหลัง
“ผมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนว่าทิศทางทางการเมืองจะพารัฐบาลไปทางไหน ซึ่งวันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และผลงานที่ทำได้เร็วทำได้จริง ดังนั้น 2 เรื่องนี้จึงมีความสำคัญ” นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลต้องมีการกำหนดเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลขึ้นมาอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลา ประชาชนจะเป็นคนแรกที่จะให้คำตอบ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้คำตอบ หากเป็นอย่างนั้นนับหนึ่งแบบนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบ ที่เหลือก็เป็นไปตามระบบรัฐสภาคือใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นกติกาสากล
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี