‘ขอโทษครับ ผมรักพี่แหม่มเหมือนพี่สาว’
‘ท็อป’เคลียร์‘มนัญญา’
‘อนุทิน’ยันทุกอย่างจบแล้ว-รบ.ทำงานต่อ
ภท.พร้อมส่งสส.ครบทุกเขตทั่วปท.
‘จุรินทร์’ลั่นนำปชป.สู่ความสำเร็จ
ประกาศพรรคจะอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย
‘สุดารัตน์’ยกเสาเอกที่ทำการพรรค
‘หมอระวี’ยื่นศาลรธน.ตีความปมบัตร2ใบ
“อนุทิน” หย่าศึก “มนัญญา-วราวุธ”ย้ำทุกอย่างจบแล้ว ให้มองไปข้างหน้า ชี้เห็นต่างเรื่องงานไร้ขัดแย้งส่วนตัว “มนัญญา” ย้ำจบก็คือจบ “ท็อป”ติดต่อมาแล้วบอก“ขอโทษครับ ผมรักพี่แหม่มเหมือนพี่สาว” “อนุทิน” ยันทุกอย่างก็จบ รัฐบาลทำงานต่อ พรรคภูมิใจไทยทำบุญก้าวสู่ปีที่ 14 ชื่นมื่น พรรคร่วมแห่ยินดีไร้เงา พปชร.พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส่งครบทุกพื้นที่-พ่วง สก. 4 เขต ด้าน“ปชป.” ทำบุญวันเกิดครบ 76 ปีคึกคัก พรรคร่วมอวยพรชื่นมื่น“จุรินทร์”ลั่นปชป.ก้าวขึ้นปีที่ 77 จะอยู่ตราบชั่วฟ้าดินสลาย ระบุจะนำพรรคสู่ความสำเร็จขอบคุณบรรพบุรุษ-กก.บห.-สมาชิกพรรคจับมือกันเดินมาถึงวันนี้ ปัดตั้งเป้าที่นั่งส.ส.ยังไม่ถึงเวลาพูด เรื่องเงื่อนไขร่วมรบ.สมัยหน้า
เมื่อเวลา 09.40น.วันที่ 6เมษายน ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงปัญหาข้อถกเถียงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ระหว่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรวิวาทเลย เมื่อถามว่า นายวราวุธได้โทรศัพท์ติดต่อมาอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ส่งข้อความทางไลน์ มีการขอโทษจากข่าวที่ออกไป นายวราวุธ บอกว่า ตนเองอายุน้อย ทุกอย่างโอเคเคลียร์กันหมดแล้ว ถือเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องงาน เวลามีความเห็นขัดแย้งเรื่องงานไม่เป็นอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องประโยชน์ส่วนตัว หรือขัดอะไรกัน แต่เป็นเรื่องที่ต่างคนต่างตั้งใจทำงาน
‘อนุทิน’ยัน’มนัญญา-ท็อป’จบแล้ว
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ น.ส.มนัญญาหรือยัง หลัง นายวราวุธ ระบุว่า ติดต่อ น.ส.มนัญญาไม่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คุยกันแล้ว ไม่มีปัญหา เมื่อถามอีกเห็น น.ส.มนัญญา มีการโพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งหลายคนมองว่าปัญหาอาจจะไม่จบ นายอนุทิน กล่าวว่า เอาน่า มันจบแล้วล่ะ หัวหน้าพรรคบอกจบก็จบ ไม่ต้องไปย้อนกลับไป ให้มองไปข้างหน้า เมื่อถามว่า ได้บอก น.ส.มนัญญา ว่าอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า โอเค จบ เมื่อถามว่าด้าน น.ส.มนัญญา บอกกับ นายอนุทินว่า อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า “แหม่มก็จบ โอเค”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00น.วันเดียวกัน น.ส.มนัญญา ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า”2วันแทบจะไม่ได้นอนเพื่อรวบรวมเอกสารของสหกรณ์ ยอดทะลุเกิน 5ร้อยล้าน วันนี้บ่ายโมงที่กระทรวงเกษตร ซึ่งเอกสารการผันเงิน เล่นแร่แปรธาตุอยู่ในมือหมดแล้ว อย่าคิดว่าหนีไปแล้วจะรอด กลับเอาเงินมาคืนประชาชนจะดีกว่า (เมื่อวานท่าน ส.ส.ชาดา โทรมา 3รอบ 4รอบ เรื่องที่ทุกคนพูดก็พูดไม่สุด แต่ถ้าเราพูดแล้วจะหนาวกันหมด จบก็คือจบ) ค่ะ”
‘นิกร’เผยยกหูเคลียร์ผ่าน‘เสี่ยหนู’
นายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เป็นตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา นำช่อดอกไม้เดินทางมามอบเพื่อแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยก้าวสู่ปีที่14
นายนิกร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีปัญหาเกิดขึ้นในการประชุม ครม.ระหว่าง นายวราวุธ กับน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า มีการพูดคุยกันแล้ว โดย นายวราวุธ ได้โทรศัพท์หานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค๓?.แต่วันนี้ นายวราวุธ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีที่พรรคภูมิใจไทย คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้มีการขอโทษไปแล้ว ส่วนที่ยังติดต่อ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและน.ส.นมัญญาไม่ได้นั้น เดี๋ยวก็คงติดต่อกันเอง แต่ยืนยันว่า นายวราวุธ ได้โทรศัพท์คุยกับนายอนุทิน แล้วเมื่อกี้นี้เอง
เคลียชัด‘มนัญญา’หย่าศึก‘ท็อป’จบแล้ว
เวลา11.45น.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงข่าวงาน “ก้าวเข้าสู่ปีที่14พรรคภูมิใจไทย”ถึงกรณีมีปัญหาเกิดขึ้นช่วงประชุม ครม.ระหว่าง นายวราวุธกับน.ส.มนัญญา โดย น.ส.มนัญญา กล่าวว่า นายวราวุธ ติดต่อมาแล้ว แต่ตนไม่ได้รับโทรศัพท์ เนื่องจากช่วงเช้ากำลังยุ่งเรื่องรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการที่จะไปทำเรื่องโกงสหกรณ์ตอน 13.00น.โดยเลขาฯได้รับโทรศัพท์ และบอกว่า นายวราวุธ โทรศัพท์มา
‘ขอโทษครับรักพี่แหม่มเหมือนพี่สาว’
จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวขึ้นมาว่า ขอใช้สิทธิ์ความเป็นหัวหน้าพรรค เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ถามไปก็ทำให้เกิดความสงสัยเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ขอยืนยันว่าเคลียร์หมดแล้ว ทั้ง นายวราวุธ ที่เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)และตนนำความแจ้งกับ น.ส.มนัญญา ท่านก็บอกว่าทุกอย่างจบ แหม่มก็จบ ท็อปก็จบ หนูก็จบ ทุกอย่างก็จบ รัฐบาลก็ทำงานต่อไป เมื่อถามว่า ประชาชนอยากได้ยินเสียงน.ส.มนัญญา นายอนุทินและน.ส.มนัญญา กล่าวพร้อมกันว่า “นี่ไงได้ยินแล้ว/ได้ยินแล้วค่ะ”ก่อนจะหัวเราะพร้อมกัน เมื่อถามต่อว่า ได้คุยกับ นายวราวุธ โดยตรงหรือไม่ หรือนายวราวุธ ฝากไว้กับเลขาฯน.ส.มนัญญา กล่าวว่า เดี๋ยวจะโทรกลับ ยืนยันทุกอย่างจบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันที ที่นายอนุทินและน.ส.มนัญญา ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายอนุทิน ได้ต่อสายโทรศัพท์ไปหา นายวราวุธ พร้อมส่งโทรศัพท์ให้ น.ส.มนัญญา คุยกับ นายวราวุธ โดยใช้เวลาไม่นานากนั้น น.ส.มนัญญา เปิดเผยว่า นายวราวุธ ได้กล่าวว่า “ขอโทษครับ รักพี่แหม่มเหมือนพี่สาว”
‘เสี่ยหนู’นำภท.ทำบุญขึ้นปีที่14ชื่นมื่น
เวลา10.00น.ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภท.เป็นประธานจัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย”ก้าวสู่ปีที่14”โดยมีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รัฐมนตรีและสส.รวมถึงสมาชิกพรรค เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียงแต่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรค ภท.โดยมีการจัดพิธีทางศาสนาทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีทางศาสนาอิสลาม เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด ทั้งนี้ ผู้มาร่วมงานทุกคนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยเอทีเคก่อนเข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนพรรคการเมือง อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายดล เหตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย อีกทั้งยังมีตัวแทนภาคเอกชนนักธุรกิจ นำกระเช้าดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งนี้ไม่พบตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มาร่วมแสดงความยินดี
จากนั้นเวลา 11.00น.นายอนุทิน ได้เป็นประธานคิกออฟการเปิดรับสมัครผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.ผ่านทางเว็บไซต์ระบบออนไลน์ของพรรค
เดินหน้านโยบายเพื่อปากท้องปชช.
โดย นายอนุทิน แถลงว่า พรรค ภท.เริ่มเข้าสู่วัยทีนเอจในปีที่13 เข้าสู่ปีที่14 ซึ่งเราเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ชาติและประชาชน ท่ามกลางเหตุการณ์มากมายและคำสบประมาท คำปรามาท ด้อยค่ามากมายในช่วงที่เราตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ๆ แต่ทุกคนในพรรคก็ร่วมต่อสู้ไม่ท้อถอย สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอยู่ไหนเราจะต้องเพื่อประโยชน์ให้บ้านเมือง ประชาชน สุดความสามารถ เราเริ่มจากเจตนารมณ์แรกคือ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เราก็ยังมุ่งมั่นในเจตนารมย์นี้อยู่ เราจะไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ จาบจ้วงสถาบันฯจากนั้นมาที่เจตนารมย์ประชานิยมสังคมเป็นสุข ต่อด้วยสงบสันติสามัคคี ที่ทุกคนเห็นว่าไม่มีวินาทีไหนที่พรรคจะแปรผันไปจากเจตนารมย์ หรือนโยบายพรรคที่เราร่วมกันทำมา จนการเลือกตั้งล่าสุดปี2562 เราเดินหน้านโยบาย เพื่อปากท้องประชาชน ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชนและได้รับความไว้ใจเชื่อมั่นจากประชาชน เลือกให้พรรคมีสส.ในจำนวนที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้
ปชป.ทำบุญครบ76ปี/อวยพรคึกคัก
เวลา 08.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดงานวันครบรอบการก่อตั้งพรรค 76 ปี ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ โดยผู้ที่จะเข้าร่วมงานทั้งหมดต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้วยชุดเอทีเค ซึ่งตั้งอยู่หน้าที่ทำการพรรค ถึงจะเข้าร่วมงานได้ ขณะที่ภายในงานมีการประกอบพิธีทางศาสนา 3ศาสนา ได้แก่ ศาสนา อิสลาม พราหมณ์ และพุทธโดยมีแกนนำพรรค ส.ส. อดีตส.ส. สาขาพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคปชป.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานที่ปรึกษาพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.และผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50เขต ไม่ได้เข้าร่วมงานด้วย เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
ตัวแทนหลายพรรคร่วมยินดีชื่นมื่น
ทั้งนี้ มีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำแจกันดอกไม้มาร่วมอวยพร อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ตัวแทนนายสุวัจน์ ลิปพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นำแจกันดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณ
นอกจากนี้ยังมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตไทย มาร่วมแสดงความยินดีด้วย พร้อมกล่าวว่า มาแสดงความยินดีเพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันเก่าแก่ เป็นที่น่ายกย่อง เราในฐานะคนที่อยู่ในการเมืองก็ชื่นชมที่เป็นพรรคที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีของการเมืองไทย จากนั้นทั้งนายจุรินทร์และนายสนธิรัตน์ก็สวมกอดกัน
‘จุรินทร์’ลั่นปชป.จะอยู่ตราบชั่วฟ้าดินสลาย
เวลา 11.00น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครอบรออง76ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะก้าวเข้าสู่ปีที่77 ปชป.ไม่ใช่เป็นแค่พรรคที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศ แต่เป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาต่อเนื่องยาวนานและยังจะอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะปชป.ประกอบด้วยคนทุกรุ่นไม่ใช่พรรคการเมืองของคนร่นใดรุ่นหนึ่ง ผู้อาวุโสของพรรคก็จะทำหน้าที่เป็นหางเสือ สำหรับคนรุ่นปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนพรรคไปสู่ทิศทางและเป้าหมาย และคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นคนที่มาสืบทอดอุดมการณ์ต่อไป ปชป.จึงเป็นพรรคของคนทุกรุ่น เรามีทั้งอดีต ปัจจุบันและมีอนาคต
จะนำพาพรรคก้าวสู่ความสำเร็จต่อไป
“ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมืองที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ผมมั่นใจว่าก็เป็นเช่นเดียวกันสมาชิกพรรคทุกคนที่อยู่ร่วมอุดมการณ์มาจนถึงวันนี้และจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้าในฐานะหัวหน้าพรรคขอถือโอกาสนี้ขอบคุณบรรพบุรุษของพรรคฯเพื่อนร่วมงาน กก.บห.และสมาชิกรพรคทุกคน ที่จับมือร่วมกันในการทำให้พรรคก้าวเดินมาจนกระทั่งถึงวันนี้และจะเดินต่อไปในวันข้างหน้าในฐานะหัวหน้าพรรคผมยืนยันว่า จะทำงานร่วมกับกก.บห.สมาชิกพรรคทุกคน จะนำประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จต่อไปและนำอุดมการณ์ของพรรคฯไปสู่การทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้สำเร็จยิ่งๆขึ้นต่อไป’นายจุรินทร์ กล่าว
อุดมการณ์ต้องสอดรับสภาพปัจจุบัน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ถึงทางเดินในวันข้างหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนว่าเราอยู่ได้มายาวนานเพราะมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำหน้าที่เพื่อประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะทำวันนี้และทำต่อไปในวันข้างหน้า ส่วนรายละเอียดอื่นๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะตัวบุคคล หรือนโยบายและทิศทางในการดำเนินการทางการเมือง โดยจะต้องทำให้สอดคล้องกัน เพื่อให้เหมาะสมกับกาลเวลา เพราะสโลแกนของพรรคมีความชัดเจนอยู่แล้วคือ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับโลก สถานการณ์และความเป็นไปของสังคมที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้พรรคสนองตอบได้อย่างตรงประเด็นและเป็นที่พอใจของประชาชน ซึ่งตั้งแต่ช่วง2-3 ปีที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคยืนยันว่า เราทำหน้าที่อย่างครบถ้วนและทำได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่า จากผลงานของพรรคที่ผ่านมามีความคาดหวังว่าจะได้รับการเลือกตั้งส.ส.มากขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องตัวเลข แต่การทำงานของ กก.บห.ช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ได้นำพาพรรคเดินหน้าไปสู่การยอมรับของประชาชนยิ่งขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับที่เราได้ตั้งเป้าไว้แต่ต้นคือการได้รับการยอมรับ และเราก็รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการยอมรับและไปนั่งในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้ง สิ่งที่เราต้องทำให้ชัดเจนคือการทำหน้าที่ เพราะสถาบันการเมืองต้องรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องรู้หน้าที่ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร หากไม่รู้หน้าที่ว่า ต้องทำอะไรก็จะพากันถอยหลัง
ใครรวมเสียงได้มากเป็นผู้จัดตั้งรบ.
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลต้องวางเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลา ประชาชนจะเป็นคนแรกที่จะให้คำตอบ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้คำตอบ หากเป็นอย่างนั้นนับหนึ่งแบบนี้ มันไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบ ที่เหลือเป็นไปตามระบบรัฐสภาคือ ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นกติกาสากล
7เม.ย.โหวตผู้จัดตั้งพรรค-ไพรมารีโหวต
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยมั่นใจ กมธ.วิสามัญฯ สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับได้ทันก่อนเปิดสมัยประชุมรัฐสภา 22 พ.ค. แน่นอน โดยวันที่ 7 เม.ย. กมธ.วิสามัญฯ มีกำหนดลงมติประเด็นคุณสมบัติผู้จัดตั้งพรรคการเมืองและเรื่องการจัดทำไพรมารีโหวต
มั่นใจ2ฉบับ เสร็จทันเปิดประชุมสภา
“ผมมั่นใจว่าทุกพรรคต้องการที่จะให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ เสร็จรวดเร็ว จึงคิดว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกพรรคการเมืองในการพิจารณาจากชั้นกรรมาธิการฯ” นายชินวรณ์ กล่าว
เมื่อถามว่าฝ่ายค้าน มีการเสนอให้ตัดข้อความทิ้งในเนื้อหาที่เกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของผู้ก่อตั้งพรรคที่อาจเปิดช่องให้อดีตแกนนำ กปปส.หรือ นปช.เข้ามา นายชินวรณ์ กล่าวว่า การร่างกฎหมายจะยึดตัวบุคคลบางกลุ่มมาเป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจไม่ได้ ต้องยึดกฎหมายที่ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ดังนั้นพรรคการเมืองต้องไม่ถูกครอบงำหรือชี้นำด้วยบุคคลภายนอก
‘หมอระวี’ยื่นศาลรธน.8เม.ย.ล้มบัตร2ใบ
ขณะที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่ตนยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบเป็นโมฆะ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้ตรวจฯ ได้แจ้งการยุติการวินิจฉัยเรื่องนี้ ทำให้ตนสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเองได้ โดยตนจะไปยื่นในวันศุกร์ที่ 8 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น.ตนในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.และสมาชิกพรรคการเมืองที่ถูกรัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบ ละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่งจึงใช้สิทธิยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบ ขัดและแย้งต่อเจตนารมณ์หลัก 3 ประการของรัฐธรรมนูญ 2560 คือ เจตนารมณ์ ส.ส.พึงมี,คะแนนเสียงไม่ตกน้ำ และ ระบบจัดสรรปันส่วนผสม และขัดและแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 หลายมาตรา
“ในขั้นต้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากยื่น จะทราบคำตอบว่าศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยหรือไม่ ถ้ารับวินิจฉัยคาดว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 30 วันจะทราบผลการวินิจฉัย ถ้าผลการวินิจฉัยศาลยกคำร้องก็เป็นอันว่าจบ ประเทศเข้าสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบ แต่ถ้าผลการวินิจฉัยของศาลเห็นด้วยกับคำร้องของผม ประเทศก็จะกลับมาใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เหมือนเดิม และจะถือเป็นปรากฏการณ์แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ในการเมืองไทย” นพ.ระวี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี