‘เพื่อไทย’ตีปีกพร้อมร่วมงาน

รอรับ‘ธรรมนัส’

เสริมทัพฝ่ายค้านซักฟอกรบ.

เจ้าตัวยันเคลียร์ใจ‘บิ๊กป้อม’แล้ว

นัดเข้ากราบลาออกพ้นรบ.15ก.ค.

กลุ่ม16โวมีอำนาจต่อรองมากขึ้น

อ้างเสียงชี้เป็นชี้ตายรัฐมนตรีได้

ปธ.วิปรัฐบาลรับห่วงเสียงโหวต

“ธรรมนัส” ประกาศชัด เลือกเป็น“ฝ่ายค้าน”เต็มตัวชี้ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ไม่เอารัฐบาล แจงเคลียร์“ประวิตร” แล้วเข้าใจ มีรั้งบ้าง แต่ไม่ได้ขอให้โหวตช่วยใครในศึกซักฟอก ไม่ปิดทางหวนร่วมงาน พท. เตรียมเข้ากราบลา“บิ๊กป้อม”ศุกร์นี้ ด้าน“เพื่อไทย”อ้าแขนรับเข้าร่วมงานหวัง ศ.ท.ลงมติหนุนฝ่ายค้าน เตือนพรรคร่วมรบ.มองถึงวันเลือกตั้ง มีตัวอย่างให้เห็นแล้วที่ลำปางแพ้หลุดลุ่ย ขณะที่ “พิเชษฐ” แกนนำกลุ่ม 16 ขอดูศึกซักฟอก รมต.ชี้แจงเคลียร์หรือไม่ ค่อยตัดสินใจถอนตัวจากรบ.เผย“บิ๊กป้อม” เรียกถก

17ก.ค.นี้ ด้าน‘นิโรธ’ปธ.วิปรบ.เผย’ไผ่’ยกคุยหลังลาออกวิปฯมอง ลต.ซ่อมลำปาง ได้คะแนนเท่านี้เก่งแล้ว รับกังวลนิดหน่อย เหตุเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำแต่ยังเกินกึ่งหนึ่ง

เมื่อวันที่ 13กรกฎาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศ.ท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ถึงความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมลำปาง เขต4 ก่อนนำมาซึ่งการถอนตัวร่วมรัฐบาล ว่า ตนรู้ตัวเองดีว่าการเลือกตั้งซ่อมลำปางเกิดอะไรขึ้น ผลที่ออกมาเราไม่คาดคิดว่าจะออกมาอย่างนี้ ทำให้ตนกับคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องมานั่งทบทวน ซึ่งเราย้อนไปดูปัจจัยเมื่อปี 2562 เราทราบข้อมูลว่าฐานคะแนนของเราอยู่ที่ 30,368คะแนน แต่ภาพรวมคะแนนของพรรคพลังประชารัฐใน จ.ลำปาง จะได้ 140,000กว่าคะแนน ทำให้รู้ว่าฐานเรามีเท่านี้ มันขายไม่ได้

“ประชาชนเขาบ่นว่าไม่ค่อยสบายใจในเรื่องความไม่ชัดเจนของพรรคศ.ท.โดยเฉพาะตัวของผมเอง ว่าสรุปแล้วอยู่ฝ่ายใดกันแน่ ส่วนพรรคเสรีรวมไทยเขาหาเสียงประเด็นเดียวคือ จุดยืนที่ไม่แน่นอนของพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งทำให้เราพ่ายแพ้ แต่สิ่งที่ทำให้เราสบายใจอยู่คือ ฐานคะแนนเสียงของเรายังเท่าเดิม”

‘ธรรมนัส’แจงชิ่งรบ.-ปชช.ไม่เอาแล้ว

เมื่อถามว่า ประชาชนบ่นว่าพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไหน แสดงว่าประชาชนในพื้นที่ไม่เอารัฐบาลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ประชาชนภาคเหนือตอนบน อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง เขาไม่เอารัฐบาล”เมื่อถามว่า เมื่อประชาชนภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาล ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยต้องไปร่วมงานฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ตนถูกขับออกจากรัฐมนตรี ตนประกาศชัดเจนว่า อยู่ข้างประชาชน แต่ประชาชนไม่เข้าใจหรอกว่าอยู่ข้างประชาชน เพราะยังเห็นการโหวตเรื่องงบประมาณปี2566 ดังนั้นจึงต้องประกาศให้ชัดเจนว่า จะมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ยุคนี้การปกครองระบบประชาธิปไตยของไทยมันไม่ชัดเจน ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติเป็นกลุ่มเดียวกัน ยังเว้นฝ่ายค้านที่แสดงตัวออกมาชัดเจน ฉะนั้นพรรคเศรษฐกิจไทยต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนเลยว่า เราควรจะทำให้หน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเลย”

เบื่อหน่ายหลายเรื่องโดยเฉพาะพิษศก.

เมื่อถามว่า เมื่อประกาศจุดยืนอยู่กับฝ่ายค้านเพื่อตรึงมวลชนทางภาคเหนือ แต่จะทำให้เสียมวลชนในภาคอื่นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า“ผมไม่ได้ว่าผมดี ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี จนออกจากรัฐมนตรี ผมเป็นนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะภาคเหนือ ภาคอีสาน ผมเดินทางทุกจังหวัดทั้ง 76จังหวัด เราจึงรับทราบความรู้สึกของประชาชนดี วันนี้ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งว่าที่ผู้สมัครของพรรคเศรษฐกิจไทยทั้ง76จังหวัดสะท้อนมาว่า เราควรแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน เพราะประชาชนเบื่อหน่ายหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ”ร.อ.ธรรมนัส ย้ำ

ถอนตัวแล้ว ก็ต้องไปอยู่กับฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า การประกาศร่วมทำงานกับฝ่ายค้านหมายถึงการทำงานกับพรรคเพื่อไทย (พท.) หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราให้ นายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ สส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจากวิปรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาเราเป็นต่อเนื่องมาตั้งแต่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อเราออกมาแล้วก็ควรให้มันชัดเจน ตามมารยาททางการเมือง วันนี้ผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกับเรา เราจึงยังไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน แต่มันอยู่ในขั้นตอนต่อไปที่ต้องคุยกันต่อ”

อยู่กลางเขาควายไม่ได้ประโยชน์อะไร

เมื่อถามว่า ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงจะทำงานร่วมกับฝ่ายค้านเลยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เราประกาศว่าเราทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ มันก็คงทำงานในทิศทางเดียวกันกับฝ่ายค้านผมเรียน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯชัดเจนแล้วว่า ขออนุญาตประกาศจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจน ซึ่งได้ชี้แจงแล้ว ผมเล่าให้ฟังว่าผลการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ว่า เกิดอะไรขึ้น เราเหมือนพรรคอยู่ตรงกันของเขาควายสองข้าง มันไม่ชัดเจน ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ได้สนับสนุนเรา เราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งยังถูกกระทำหลายเรื่อง ผมไม่อยากพูดตรงนี้ อีกข้างของเขาควายเขาก็ไม่ได้สนับสนุนเรา ดังนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมานั่งตรงกลางของเขาควาย ผมก็ได้เรียน พล.อ.ประวิตร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร มีความเข้าใจ”

อนาคตร่วมงาน’พท.’เป็นไปได้หมด

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร รั้งให้อยู่กับพรรคร่วมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า“ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ตัดพ้ออะไร ผมเรียนข้อเท็จจริงด้วยเหตุผล”เมื่อถามว่า การโหวตซักฟอก พล.อ.ประวิตร ขอให้โหวตใครบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่ได้ขอ แม้แต่ตัว พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้ขอ”เมื่อถามว่า ตัวของ พล.อ.ประวิตร พรรคเศรษฐกิจไทยคงไม่แตะ แต่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีการขอไว้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่ได้พูดถึงการโหวตการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พูดถึงเหตุผลการออกมาเป็นฝ่ายค้าน”เมื่อถามว่า ตัว ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทยมีโอกาสย้อนไปร่วมงานกับพรรคพท.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด

กราบลา’บิ๊กป้อม’ออกจากรบ.15ก.ค.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า วันที่ 15ก.ค.ตนจะเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อกราบลาการออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร ถือเป็นผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพ

เพื่อไทย หวังศ.ท.ลงมติร่วมฝ่ายค้าน

ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคเศรษฐกิจไทย ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีความหวังล้มรัฐบาลได้มากขึ้นหรือไม่ ว่า เรื่องล้มรัฐบาลได้หรือไม่ คงไม่ไปถึงขั้นนั้น แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เมื่อพรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลก็หวังว่า เขาจะมาร่วมลงมติกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่หากจะให้รัฐบาลล้มก็ต้องหวังมือจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ หรือสส.พรรคเล็กบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลให้มาร่วมกับฝ่ายค้าน

ยังหนุนรบ.ระวังเลือกตั้งลำบากแน่

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านกังวลเรื่องงูเห่าหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่กังวล เราเห็นชัดเจนว่าใครจะโหวตหนุนรัฐบาลบ้างคงไม่มีเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เมื่อถามว่า การถอนตัวของพรรคเศรษฐกิจไทยสะท้อนให้เห็นอะไร นายสมคิด กล่าวว่า สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มอ่อนแอทุกวัน หากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีเหตุผลที่ดีก็หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคอาจยกมือร่วมกับฝ่ายค้านก็ได้ เนื่องจากรัฐบาลอยู่เกิน 3ปีแล้วรู้เห็นตลอดว่า อะไรถูก ไม่ถูก ทุกพรรคต้องระมัดระวังเรื่องชื่อเสียงตัวเอง เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง อีกทั้งการเลือกตั้งซ่อมที่ลำปางสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลอย่างไร เป็นตัวเลขที่ทุกพรรคต้องสนใจว่า คะแนนแพ้ชนะเด็ดขาดแบบนี้มาได้อย่างไร อีกทั้งยังสะท้อนไปถึงสูตรคำนวณสส.หาร500 ที่ประชาชนเขาไม่เห็นด้วย จึงสะท้อนให้รัฐบาลได้เห็นในทันที

กลุ่ม16ยังกั๊ก ใช้ซักฟอกวัดผลถอนตัว

ด้าน นายพิเชษฐ สถิรชวาล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศถอนตัวจาการร่วมรัฐบาลว่า กลุ่ม16 พร้อมจับมือทำงานกับ ร.อ.ธรรมนัส วันที่18หรือ19ก.ค.นี้ ร.อ.ธรรมนัส จะหารือกับกลุ่ม16ถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน เบื้องต้นจะเน้นหารือการอภิปรายไม่ไว้วางใจสัปดาห์หน้า เพราะถ้ากลุ่ม16และพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีเสียงรวมกัน32เสียง ยกมือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนใด จะสะเทือนถึงขั้นหลุดจากเก้าอี้ พวกตนจะสอบถาม ร.อ.ธรรมนัส จะเข้าร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ แนวโน้มกลุ่ม16กับร.อ.ธรรมนัส น่าจะยกมือไปทางเดียวกัน ส่วนการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคเล็กนั้น จะไปหารือกันในวันที่ 19ก.ค.นี้ โดยจะดูจากผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีก่อน แล้วค่อยมาวัดผลกัน

“จู่ๆจะให้ประกาศถอนตัวคงไม่ได้ แต่หากผลอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีรัฐมนตรีตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ พรรคเล็กจึงค่อยนำเรื่องถอนตัวมาพิจารณาว่า จะถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่ กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า พปชร.นัดพรรคเล็กหารือที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ในวันที่ 17ก.ค.คงเรียกมาสอบถามเรื่องลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเล็กจะเป็นตัวแปรสำคัญในการลงมติ ขณะนี้พรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวจากรัฐบาลแล้ว หากได้เสียงพรรคเล็กไปรวมด้วยยิ่งยุ่งไปใหญ่ ดังนั้นพล.อ.ประวิตร น่าจะเรียกพรรคเล็กมาพบเพื่อเช็กเสียงฝั่งรัฐบาล เพื่อความมั่นใจในการลงมติ’นายพิเชษฐ กล่าว

‘นิโรธ’เผย’ไผ่’ยกหูหาหลังลาออกวิป

นายนิโรธ สุนทรเลขา สส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณี2สส.พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ลาออกจากวิปรัฐบาล ว่า วิปรัฐบาลยังมีกรรมการอีกเยอะไม่มีผลกระทบ โดย นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคศท.ก็โทรมาแจ้งให้ทราบว่า ลาออก เพื่อความสบายใจในการทำหน้าที่นิติบัญญัติ แต่เรื่องอื่นไม่มีอะไร ทั้งนี้ เวลาทำงานในวิปรัฐบาล เมื่อมีมติอะไรวิปแต่ละพรรคต้องนำความไปบอกกล่าวในพรรคตัวเอง บางทีเขาอาจคิดว่าไม่เป็นอิสระในการทำหน้าที่นิติบัญญัติ อย่างกรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะดูว่า รัฐมนตรีคนไหนอภิปรายอย่างไรและจะนำมาพิจารณาในพรรคว่า ใครจะควรรับหรือไม่รับ ซึ่งตอนนี้จะมีอิสระมากขึ้น

รับเสียงรบ.ปริ่มน้ำ-แต่ยังเกินกึ่งหนึ่ง

เมื่อถามว่า มองการลาออกจากวิปรัฐบาลของพรรคศท.เล่นเกมการเมืองหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่ พรรคศท.ไม่ต่อรองอะไรและจากที่ฟังข่าวเขาอาจคิดว่า ผลเลือกตั้งซ่อมลำปางนั้น พวกเขาพ่ายแพ้ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่แพ้ เพราะลำปางเป็นพื้นที่ไข่แดงของพรรคเพื่อไทย มีบ้านใหญ่ถึง2บ้าน การที่ ศ.ท.ได้คะแนนเสียง3หมื่น ไม่ใช่เรื่องง่าย ตนมองว่าเก่ง ทำเสียงได้ขนาดนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะคุมเสียงในสภาได้หรือไม่หลัง ศ.ท.ไม่อยู่กับรัฐบาล นายนิโรธ กล่าวว่า สส.มีหน้าที่ต้องมาประชุม ทั้งนี้ นายไผ่ บอกตนว่า ไม่มีอะไร หากมีเรื่องจำเป็นหรือสำคัญอะไรสามารถโทรประสานมาได้ เมื่อถามย้ำว่า ห่วงหรือไม่ว่าเสียงพรรคศ.ท.จะไม่ยกมือโหวตให้รัฐบาล นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าไม่ห่วงเลยเสียทีเดียว เพราะเสียงพรรคศ.ท.มีตั้ง10กว่าเสียง ก็กังวล อย่างไรก็ตาม เสียงรัฐบาลอาจจะมีปริ่มหน่อย แต่ก็ยังเกินกึ่งหนึ่ง

กลยุทธ์ซักฟอกไม่มีอะไรแปลกใหม่

นายนิโรธ ยังให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านจะปรับกลยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมถูกอภิปรายเป็นคนสุดท้าย มีกลยุทธ์หรือหมัดเด็ดอะไรหรือไม่ ว่า ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนอื่นนายกฯก็ถูกโยงไปหาอยู่แล้ว ส่วนทีมปราบมารกับเจ้ายุทธ ก็ไม่ได้ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ การเตรียมตัวรับมือซักฟอกนั้น หากเราอ่านหนังสือทั้งปี ก็ไม่ต้องทำการบ้าน หรือดูหนังสือสอบ และเวลาสอบก็ชิว ฉะนั้น ฝ่ายรัฐบาลอ่านหนังสือทั้งปี ขยันเรียนทำงาน จึงไม่ต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ

“ตอนที่คุยกันในวิป3ฝ่าย ฝ่ายค้าน ก็นำเสนอว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายๆไป โดยจะแจ้งให้ประธานทราบก่อนการอภิปรายเพื่อให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายได้มาฟังและตอบ นี้เป็นการจัดระเบียบการอภิปรายเพื่อไม่ให้วกไปวนมา”ประธานวิปรัฐบาล ย้ำ