‘กรุงศรีวิไล’เชียร์สุดๆหนุนนั่ง มท.1

กราบเท้า‘บิ๊กป้อม’

จวก‘บิ๊กป๊อก’ไม่เคยสนองอะไรเลย

6 สส.ปากน้ำรุมขย่มปรับครม.

‘แรมโบ้’ท้า‘แม้ว’ไม่ได้กลับไทย

มาจริงต้องเข้าคุกตามกฎหมาย

‘ธรรมนัส’ขู่อีก 3 วันเชือดงูเห่า

สส.ปากน้ำพปชร.ต้อนรับ “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ “กรุงศรีวิไล” ก้มกราบเท้า ก่อนปิดห้องเคลียร์ใจ “ประวิตร” รับ เขาแค่น้อยเนื้อต่ำใจ เหตุโหวตสวนมติพรรค ด้าน “กรุงศรีวิไล” ย้ำมท.1 ไม่ดูแลอะไรเลย ลั่นอยากให้หัวหน้า“พปชร.”เป็นมท.1 “แรมโบ้” ท้า “ทักษิณ” ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว ปีหน้าไม่ได้กลับไทย ยกเว้นกลับมาติดคุก “ศรีสุวรรณ”ยื่นป.ป.ช.สอบสส.พรรคเล็ก กินกล้วย 26 กรกฎาคมนี้ ยันรวบรวมพยานหลักฐานชัดแล้ว ส่อฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี “ธรรมนัส”เผยรอ 3 วัน ได้ข้อสรุปจัดการงูเห่า ลั่นตัดขาดพรรคเล็ก เบื่อพวกต่อรองผลประโยชน์

เมื่อวันที่ 25กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินในงานครบรอบวันเกิดที่ นายพายัพ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงจัดให้ที่อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดย นายทักษิณ ได้วีดีโอคอลบอกคนเสื้อแดงว่า ตนเองยืนยันจะกลับประเทศในปีหน้า โดย นายเสกสกล ได้โพสต์ในเฟสบุ้คว่า ที่ผ่านมาเห็น นายทักษิณ พูดไม่หยุดว่าจะกลับประเทศไทยหลายครั้งหลายคราว ซึ่งตนมองว่า นายทักษิณ สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา แต่หากต้องมารับโทษตามกฎหมายและเข้าคุกเท่านั้น ทั้งนี้อย่าหวังว่าจะได้กลับมาโดยไม่ได้รับโทษใดๆ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

‘ทักษิณ’ทำเพื่อตัวเอง-แลนด์สไลด์ยาก

ส่วนที่ นายทักษิณ บอกว่ามั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะชนะการเลือกตั้งได้ ตนเองมองว่า นายทักษิณ อย่าไปหวังลมๆแล้งๆกับคนในพรรค พท.เลย เพราะตนเองมองว่า คงเป็นไปได้ยาก เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วประชาชนเห็นว่า ใครทำอะไรเพื่อประเทศ ทำประโยชน์เพื่อประชาชนบ้าง ซึ่งพรรค พท.ทำได้น้อยมาก ที่ทำมากคือ ทำเพื่อ นายทักษิณ ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ก็มั่นใจได้เลยว่า การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เป็นไปได้ยาก

ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียวไม่ได้กลับไทย

‘ตนขอท้าเลยว่า ร้อยบาทบาทเอาขี้หมากองเดียว ปีหน้า นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กลับไทยอย่างแน่นอน ยกเว้นกลับมาติดคุก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายและเห็นว่าการที่ นายทักษิณ หวังให้พรรค พท.ชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ก็เพราะจะได้ช่วยให้ตนเองและน้องสาวพ้นผิด กลับประเทศไทยได้ แบบนี้ก็ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่า พรรค พท.ทำตามคำสั่งใครและอยากชนะการเลือกตั้ง เพราะจะช่วยนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมา เพื่อให้พ้นคดีโกง ไม่ต้องติดคุก ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ยอมไม่ได้แน่นอน’นายเสกสกล กล่าว

‘ทักษิณ’กลับได้-แต่ต้องทำตามกฎหมาย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “#ทักษิณจะกลับบ้านอีกแล้ว” มีเนื้อหาดังนี้ #ทักษิณจะกลับบ้านอีกแล้ว วันที่ 4ม.ค.2565 นายทักษิณ เคยพูดว่า

“หวังว่าปี65 ผมจะเป็นของขวัญ ให้คนไทย ไปทำงาน รับใช้คนไทยและประเทศไทย แล้วไปช่วงไหนเมื่อไหร่ ผมจะกระซิบน้องอุ๊งอิ๊งคนเดียว น้องอุ๊งอิ๊งจะเป็นคนบอกคนเดียว คนอื่นไม่บอก ไม่ได้ มันเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ ไม่เป็นภาระคนไทยแน่นอนและเคยบอกว่า จะกลับมาเลี้ยงหลาน วันที่ 23ก.ค.2565 นายทักษิณ ก็โฟนอินบอกน้องชายและมวลชนตนเอง โดยไม่บอกลูกสาวตามที่เคยพูด ปีนี้เป็นปีสุดท้ายนะ ปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทยก็แล้วกัน เมื่อกลับไปจะกลับไปเยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ทุกอำเภอ”

เลยสับสนว่า จะกลับเมืองไทยปี2565หรือปีหน้า2566 ตกลงจะบอกลูกสาวหรือบอกน้องชาย จะกลับมาเลี้ยงหลาน หรือเดินสายทุกอำเภอ แต่ที่แน่ๆ การกลับเมืองไทย ไม่มีใครห้ามเลย จะกลับพรุ่งนี้เลยก็ได้ เพียงแต่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย การไม่เคารพกฎหมาย ถือว่าใช้อภิสิทธิ์เอาเปรียบประชาชน ไม่เท่าเทียม ทำลายประชาธิปไตย คนไทยส่วนใหญ่ต้องการความเท่าเทียม เขาคงไม่ยอมครับ’

‘ศรีฯ’ยื่นปปช.สอบพรรคเล็ก‘กินกล้วย’

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้รวบรวมพยานหลักฐานจากแหล่งที่ปรากฏในสื่อสำนักต่างๆในโซเชียลมีเดีย กลุ่มไลน์ต่างๆและแหล่งข่าวได้ชัดเจนเพียงพอแล้ว วันที่ 26ก.ค.เวลา 10.00น.จึงพร้อมเดินทางไปมอบให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) ประกอบพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา28 (1) เพื่อไต่สวนและมีความเห็น กรณีปรากฏในสื่อว่า มี สส.ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหรือหัวหน้ากลุ่มการเมืองจำนวนหนึ่ง รับโอนเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้ประมาณ 100,000บาทต่อเดือนหรือต่อครั้งจากผู้อื่น นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งมิได้เข้าข่ายในข้อยกเว้นเกี่ยวกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ปปช.กําหนด คือ ต้องไม่เกิน 3,000บาทต่อครั้ง

โทษหนักตัดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง10ปี

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวอาจถือได้ว่า ฝ่าฝืนมาตรา128 วรรคแรก แห่ง พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งอาจถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน10ปี ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ปปช.จะต้องดำเนินการสอบสวนเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด

ฝ่ายค้านเล็งยื่นเช็กบิลรมต.เรียงตัว

นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องถึง ปปช.เพื่อตรวจสอบรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อหรือไม่ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านคงดำเนินการยุทธการโรยเกลือในประเด็นที่มองแล้วเข้าองค์ประกอบที่จะยื่นต่อ ปปช.ในบางส่วนจะยื่นต่อองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวที่จะร่างเป็นเสร็จ จะทยอยยื่นเรื่องไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมกันเมื่อใด นายธีรัจชัย กล่าวว่า ปกติแล้วพรรคร่วมฝ่ายค้านจะพูดคุยกันวันที่ 25กรกฎาคม แต่สัปดาห์นี้มีการประชุมกฎหมายลูก ซึ่งเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา ที่เราเคยตกลงหลักการกันว่า จะเอาอย่างไรไว้อยู่แล้ว แต่หากจะประชุมในสัปดาห์นี้ก็จะต้องหารือกันก่อน เมื่อถามว่าจะยื่นเรื่องให้ ปปช.พิจารณากี่คน นายธีรัจชัย กล่าวว่า ตัวเลขยังไม่ชัดเจน เนื่องจากสัปดาห์นี้มีการพิจารณากฎหมายลูก คงต้องให้ผ่านการพิจารณากฎหมายลูกไปก่อนถึงจะมีการหารือกัน แต่ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นให้ ปปช.หลายคนแน่นอน

‘ธรรมนัส’เผย3วันได้ข้อสรุปฟันงูเห่า

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) เปิดเผยถึงกรณี 4สส.พรรค ลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวนทางกับมติของพรรค ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยมอบหมายให้ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชรและเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย รวมถึงฝ่ายกฎหมายของพรรค เป็นคนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นรายบุคคล เพื่อพิจารณาบทลงโทษ ซึ่งภายใน 3วันนี้น่าจะมีความชัดเจนเกิดขึ้น ในส่วนของตนและสส.ที่เหลือของพรรค ยังเป็นเลือดแท้ของเศรษฐกิจไทย จากนี้ไปจะเดินหน้าเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยจะมีบุคคลทางการเมืองที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมงานกับพรรคอย่างแน่นอน ขอให้ติดตามกันต่อไป ส่วนสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย ถ้าใครจะออกไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น ตนก็ไม่ได้ห้าม ใครจะออกก็เป็นเรื่องของเขา ใครจะอยู่ก็อยู่ด้วยใจและต้องเป็นเลือดแท้ของพรรค

เลิกยุ่งพรรคเล็ก-มีแต่ต่อรองผลประโยชน์

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคเล็กๆ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ตนตัดขาด ไม่ต้องมีการติดต่อกันอีก เพราะตนเบื่อกับการเมือง การต่อรองและผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อถามถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 26กรกฎาคม เพื่อพิจารณาร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ในวาระสอง ซึ่งยังมีความขัดแย้งสูตรคำนวณสส.บัญชีรายชื่อที่อาจกลับไปใช้จำนวนหาร100ในการหาค่าเฉลี่ย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเคยพูดสนับสนุนการหาร100 มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่คงต้องไปรอความชัดเจนเมื่อทางสภาส่งร่างไปยัง กกต.ก่อน

‘บิ๊กป้อม’ปิดห้องเคลียร์ใจ6สส.ปากน้ำ

วันเดียวกัน เวลา 13.00น.ที่ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร.ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการแก้ปัญหาน้ำแล้งและป้องกันน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและบางปะกง จ.สมุทรปราการ โดยมีตัวแทนหน่วยราชการท้องถิ่นมาต้อนรับ อาทิ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.พร้อมสส.สมุทรปราการ พรรค พปชร.คือ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายยงยุทธ สุวรรณบุตร นางสาวภริม พูลเจริญ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณและนายต่อศักดิ์ อัศวเหม สส.บัญชีรายชื่อ มารอต้อนรับ

แค่น้อยเนื้อต่ำใจ-เขาขอโทษตนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงที่เทศบาลตำบลบางเมือง นายกรุงศรีวิไล ที่มารอต้อนรับได้รีบเข้าไปก้มกราบเท้า พล.อ.ประวิตร ที่เพิ่งลงจากรถยนต์ ทำให้ พล.อ.ประวิตรพูดว่า “ลุกขึ้นๆ เดี๋ยวลุกไม่ขึ้น ก็แก่พอกัน”จากนั้นได้ทักทายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสส.ที่มารอต้อนรับ ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับฟังรายงาน พล.อ.ประวิตรได้ปิดห้องเคลียร์ใจกับ 6สส.สมุทรปราการ โดยใช้เวลาประมาณ 10นาที จากนั้นพล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังปิดห้องเคลียร์ใจ 6สส.สมุทรปราการ ว่า ให้ไปถามเขาดูเอง

เมื่อถามว่า ติดใจหรือไม่กับการโหวต พล.อ.ประวิตร ส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า“ก็ต้องแล้วแต่ที่เขาโหวตไป” เมื่อถามว่า ไม่โกรธใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องน้อยเนื้อต่ำใจ เขาไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อถามย้ำว่า ได้เคลียร์ใจกันแล้วหรือไม่และได้ขอโทษแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตร พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า เขาขอโทษ ต่อข้อถามว่า ให้อภัยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องเอาเข้า กก.บห.เมื่อถามว่า จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องสอบ เพราะมันทำไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่า จะมีบทลงโทษอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ก็มีอยู่แล้ว

กราบเท้าขอโทษ-เพราะน้อยใจไม่ได้งบ

ขณะที่ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ให้สัมภาษณ์หลังปิดห้องเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประวิตร ถึงกรณีโหวตสวน พล.อ.อนุพงษ์และนายสุชาติ พล.อ.ประวิตรว่าอย่างไรบ้าง ว่า ตนได้ไปกราบที่เท้าของ พล.อ.ประวิตรและบอกว่าได้ทำตามหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่า การกราบเท้า พล.อ.ประวิตร หมายถึงการขอโทษใช่หรือไม่ นายกรุงศรีวิไล พยักหน้าพร้อมกับบอกว่า ขอโทษ เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นการเคลียร์ใจกันหรือไม่หลังจากปิดห้องคุยกันแล้ว นายกรุงศรีวิไล กล่าวว่า ก็ดี ตนไม่มีใครจะมาว่าอะไรตนเลย เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะเป็นประเด็นปัญหาและสนิมเกิดแต่เนื้อในตนหรือไม่ นายกรุงศรีวิไล กล่าวว่า ตนคิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องและความจริงคือ มท.1ไม่ได้ดูแลอะไรเราเลย ชัดๆคือเรื่องงบประมาณ

สส.ปากน้ำแจงโหวตสวนคว่ำ’บิ๊กป๊อก’

นายอัครวัฒน์ อัศวเหม สส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสาเหตุ 6สส.สมุทรปราการ โหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยและนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและผู้อำนวยการพรรค พปชร.ว่า เป็นเหตุผลบางอย่างของผู้ใหญ่ ส่วนตัวไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ และหลังจากโหวตไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้เรียก ส.ส.ในกลุ่มให้เข้าไปหา หรือพูดคุย หรือตำหนิ ซึ่งหัวหน้า พปชร.เป็นบุคคลน่ารักและพวกตนเคารพนับถือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวอาจถูกมองว่า สส.ในพรรคไม่เชื่อฟัง พล.อ.ประวิตร นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า พวกตนทั้งกลุ่มเคารพหัวหน้าพรรค แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงความคิดผู้ใหญ่ในกลุ่มและไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ยืนยันว่า เหตุผลที่ทำไปทั้งหมด เพราะอยากให้ จ.สมุทรปราการ พัฒนาไปในทางที่ดี ไม่มีการเรียกร้องเรื่องตำแหน่งแต่อย่างใดและย้ำว่า ไม่มีความน้อยใจ

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มไลน์ สส.ที่มีร้อยกว่าคนไม่พอใจการโหวตของ6สส.สมุทรปราการ นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเลยและยังโทรศัพท์มาให้กำลังใจอีกด้วย มีเพียงแค่ 3-4คนที่มีปัญหา เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครรับเลือกตั้งนาม พปชร.หรือไม่ โดยนายอัครวัฒน์ไม่ได้ยืนยัน

นายยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ พปชร.กล่าวว่า ความคิดอาจจะแตกต่าง แต่พวกตนไม่ได้แตกแยก พวกตนมองว่า สมุทรปราการควรไปไกลกว่านี้และมั่นใจว่า หาก พปชร.ตั้งกรรมการสอบก็สามารถชี้แจงได้ ไม่น่ามีปัญหา

‘กรุงศรีวิไล’หนุน’ลุงป้อม’นั่งมท.1

ด้าน นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก สส.สมุทรปราการ พปชร.กล่าวว่า โจทย์ใหญ่คือ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นแม่บ้านรัฐบาลและเคยสัญญาว่า ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มีอะไรให้แจ้ง แต่พอแจ้งกับเจ้าตัวก็ไม่ได้รับการตอบสนอง กระทรวงไม่ส่งมาที่จังหวัด เลยทำอะไรไม่ได้“นี่เรียกว่า กระตุกหนวดเสือ เสือหลับจึงเรียกให้ตื่นว่า มาดูลูกๆบ้างว่า เป็นยังไง อย่าว่าแต่ลุงป๊อกเลย ลุงตู่ถ้าไม่ถูกผมก็ขึ้นเวทีอภิปราย” ทั้งนี้’พวกเราตรงๆ แบบลูกทุ่งไม่มีชั้นเชิง ดีลไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ อย่าว่าแต่ลุงป๊อกเลย ถ้าลุงตู่ทำไม่ถูก ผมก็ขึ้นเวทีอภิปราย ถ้าลุงตู่ทำไม่ถูกก็ต้องโดน และเคยบอกลุงตู่ว่า จะรีโนเวทตลาดบางบ่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นายกฯ ก็บอกให้ทำแผนมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร ก็ไม่ได้แล้วอย่างนี้พวกเราจะอยู่อย่างไร’เมื่อถามว่า อยากให้ใครเป็น รมว.มหาดไทย กรุงศรีวิไล หันมาตะโกนให้สื่อว่า ‘ลุงป้อม’

คว่ำ’สุชาติ’ทำการเมืองพื้นที่ทับซ้อนกัน

นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวว่า ที่ผ่านมา 3ปี จ.สมุทรปราการ ไม่ได้รับการประสานดูแลเรื่องท้องถิ่น โดยเฉพาะการเสนอโครงการผ่านกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ได้รับการอนุมัติและรับแรงเสียดทานจากประชาชน ยืนยันการตัดสินใจโหวตอยู่บนพื้นฐานการเป็นสส.และความถูกต้องและถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว เมื่อถามถึงโหวตคว่ำ นายสุชาติ นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเพราะปัญหาทำการเมืองท้องถิ่นทับซ้อนพื้นที่กัน ยืนยันว่า สส.สมุทรปราการก้าวหน้า ทำงานครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดและสมุทรปราการรักกันดี ไม่มีแตกแยก ซึ่งนายสุชาติ มีพื้นที่การเมืองตัวเองที่ จ.ชลบุรี ซึ่งก็มีปัญหาหนักให้ไปดูแลพื้นที่ตัวเอง ส่วนวันข้างหน้าผู้ใหญ่จะว่าอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตามและจะไม่มีแรงกดดันให้ผู้ใหญ่ยกโทษให้ นี่จะเป็นการแสดงออกทางการเมืองครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในครั้งหน้า

“บิ๊กตู่”นิ่ง ไม่ตอบประเด็นการเมือง

เมื่อเวลา 14.50 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2565 โดยภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกรณีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่เบื้องหลังผลโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่มี 6 ส.ส. สมุทรปราการของพรรคพลังประชารัฐ โหวตสวนมติพรรค โดยนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงหันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงสงวนท่าทีและเลี่ยงที่จะตอบคำถามประเด็นการเมืองต่อสื่อมวลชน