“กรณ์” เตรียมเทพรรคกล้า’ ซบอกพรรคชาติพัฒนา’ขณะที่ “สุวัจน์” ยังไม่กล้าแย้ม ‘กรณ์’ จะมานั่งหัวหน้าพรรค หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค บอกขึ้นอยู่กับจังหวะการเมือง เปิดกว้างร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง หวังกวนคืนกลับมาเป็นพรรคใหญ่

เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 เวลา10.30 น.  ที่บ้านเลขที่ 333 ซอย ราชวิถี 20 เขตดุสิต กทม.  นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า  ร่วมกันแถลงข่าวทางการเมืองสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า โดยนายกรณ์เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนาเพื่ออาสาทำหน้าที่กอบกู้และแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การพูดคุยกับนายกรณ์ คือ เชิญนายกรณ์ และเปิดตัวเป็นทีมเศรษฐกิจเพื่อร่วมแก้ปัญหาวิกฤต ทั้งนี้พรรคชาติพัฒนา จะหารือถึงการนัดการประชุมใหญ่ประจำปีเพื่อพิจารณาเลือกกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งปัจจุบันว่างลง 7 ตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์ 4 ตำแหน่ง คือยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ, ด้านการเมือง, ด้านมั่นคง และด้านเทคโนโลยี ส่วนนายกรณ์ จะนั่งตำแหน่งอะไรนั้น ขณะนี้ตนยังตอบไม่ได้

“ผมยืนยันว่า ไม่ใช่การรวมพรรค พรรคชาติพัฒนายังคงอยู่ส่วนการ ส่วนพรรคกล้ามีขั้นตอนของพรรคกล้า สำหรับการเชิญนายกรณ์ มาร่วมงาน เพราะมีประสบการณ์ และความต้องการเดียวกันในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวตอบคำถามถึงการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อร่วมมือการเมือง เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย , นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยว่า วันนี้การเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่า จะเชิญใครหรือไม่ร่วมกันใคร ดังนั้นวันนี้ได้เชิญนายกรณ์ ก่อน และในอนาคตนั้นเปิดกว้างรับคนที่มีความรู้ความสามารถ

เมื่อถามถึงการตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนต้องการให้พรรคชาติพัฒนา มีบทบาทเหมือนยุคของพล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ที่ตั้งพรรคชาติพัฒนา 60 วันได้ส.ส.มา 60 คน ทั้งนี้จำนวนนั้นคงตอบไม่ได้ แต่ต้องการให้บทบาทของพรรคชาติพัฒนาไปสู่จุดเดิม

“สำหรับกติกาเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งนั้น ผมมองว่า ทำให้พรรคการเมืองต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง เมื่อกติกาเลือกตั้งเปลี่ยนทุกพรรคต้องปรับกลยุทธ์ และปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม วันนี้พรรคชาติพัฒนาได้เชิญนายกรณ์ คือการปรับยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชน ส่วนกติกานั้นขอให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับไม่เกิดเดดล็อค” นายสุวัจน์ กล่าว

ขณะที่นายกรณ์ กล่าวว่า ตนมาพูดคุยกับนายสุวัจน์ มาในฐานะส่วนตัวไม่ใช่หัวหน้าพรรคกล้า ทั้งนี้เพื่อจะร่วมทำงานกันในอนาคตต่อไป ส่วนกรณีที่จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกล้า หรือยุบพรรคกล้าหรือไม่นั้น ตนตอบได้ว่า วันนี้พรรคกล้ายังอยู่ ส่วนความชัดเจนของตนนั้นมีรายละเอียดและเงื่อนไขทางกฎหมายที่ต้องพิจารณา แต่เบื้องต้นนั้นตนได้หารือกับพรรคพวกในพรรคกล้าแล้ว ทุกคนเห็นตรงกันในยุทธศาสตร์ทางการเมืองและการเดินยุทธศาสตร์ใหม่ ส่วนขั้นตอนที่จะนำไปสู่รูปแบบสู่การแข่งขันเลือกตั้งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องพิจารณา

เมื่อถามย้ำว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคกล้าจะเข้าร่วมพรรคทีมพรรคชาติพัฒนาหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพรรคพวกในพรรคกล้าเห็นตรงกันในแนวทางปรับยุทธศาสตร์ ทั้งนี้ยอมรับว่ากติกาเลือกตั้งที่ปรับสูตรการคำนวณส.ส. เป็น 100 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น มีผลต่อยุทธศาสตร์ทางการเมืองของพรรคตั้งใหม่ ดังนั้นการจับมือกันจึงมีผลทางบวกและสร้างโอกาสทำงานให้ประชาชน ทั้งนี้การการพูดคุยการทำงานร่วมกันหลักการสำคัญคือประชาชนได้ประโยชน์

ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า สำหรับการประชุมใหญ่ของพรรค คาดว่า จะจัดในช่วงปลายเดือนกันยายน ส่วนสถานที่นั้นอยู่ระหว่างพิจารณาจะจัดที่ จ.นครราชสีมา หรือ ที่กรุงเทพ ส่วนกรณีที่ได้นายกรณ์ มาร่วมงานการเมืองกับพรรคชาติพัฒนาถือว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้ภาพลักษณ์เป็นไปในทิศทางที่ดี