‘บิ๊กป้อม’สั่งทุกหน่วยรับมือเอเปก
คุมเข้มขันสูงสุด
รักษาความปลอดภัยผู้นำประเทศ
‘บิ๊กตู่’ขอคนไทยรัก-สามัคคีกัน
เปิดประชุมทางวิชาการAPEC
พร้อมรับมือโรคระบาดครั้งต่อไป
เผยคนไทยตื่นตัวร่วมเป็นเจ้าภาพ
“บิ๊กตู่” โชว์รอยยิ้มสยาม กล่าวเปิดประชุมทางวิชาการงาน APEC University Leaders’ Forum 2022 เตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดครั้งต่อไป ย้ำความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตได้ ขอคนไทยรักและสามัคคีกันขณะที่“บิ๊กป้อม” สั่งเข้ม ติดตามการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยรักษาความปลอดภัยสูงสุดผู้นำประเทศ เข้าร่วมประชุมเอเปกด้านรองโฆษกรัฐบาล เผย ประชาชนตื่นตัวเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานกล่าวเปิดงาน APEC University Leaders’ Forum: “Preventing the Next Pandemic (AULF) ภายใต้หัวข้อการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดครั้งต่อไป โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมทางวิชาการ APEC University Leaders Forum 2022 ในวันนี้ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิกกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งสอดรับกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้ APEC โดยเป็นโอกาสให้เครือข่ายการศึกษาทั่วโลกได้พัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในระดับนานาชาติ และเป็นเวทีในการแบ่งปันประสบการณ์ในมิติต่าง ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่และอาจต้องเผชิญอีกในอนาคต โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนั้น เป็นพื้นฐานสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันจากความท้าทายดังกล่าว อีกทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการฟื้นฟูและเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ต่อไป
ผลักดันความร่วมมือสู่การฟื้นฟู ศก.
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ เรามุ่งผลักดันการสร้างความร่วมมือภายใต้แนวคิด “Open. Connect. Balance.” เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในยุคหลังโควิด - 19 โดยในส่วนของเรื่อง Open เน้นการผลักดันให้เอเปคนำเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก มาหารือใหม่ เพื่อให้เอเปคสามารถรับมือกับความท้าทายและใช้โอกาสจากบริบทโลกแบบใหม่ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล การค้ากับโรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในส่วนของ Connect ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความเชื่อมโยงของภูมิภาคในทุกมิติ ทั้งการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างสะดวกปลอดภัย และ
ความเชื่อมโยงทางดิจิทัล เพื่อให้เอเปกมีแนวทางการรับมือกับวิกฤตโรคระบาดในอนาคต โดยยังสามารถรักษาการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากที่สุด
และสุดท้าย Balance เน้นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล ยั่งยืนและครอบคลุมโดยส่งเสริมโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจBCG ที่สร้างผลกำไรควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกันทั้งสังคม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งผลลัพธ์สำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปกในครั้งนี้คือไทยจะเสนอให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกรับรองเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG เพื่อนำแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ของไทยมาเร่งกระบวนการทำงานในเอเปกและวางบรรทัดฐานใหม่ให้เอเปกมุ่งเน้นการสร้างเสริมการค้าการลงทุนควบคู่ไปกับการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน
ชี้เวลาเหมาะทำแผนสอดรับนิวนอร์มอล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้ที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมุ่งขยายความสำคัญไปถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยเพื่อยกระดับองค์ความรู้ใหม่ในการพัฒนาสังคมและสร้างความปลอดภัยในชีวิตให้แก่ประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตนเชื่อว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ผู้วางนโยบาย และผู้นำธุรกิจจะได้มาร่วมมือกันสร้างสรรค์นโยบาย ออกแบบทิศทางและแผนการบริหารประเทศที่สอดรับกับวิถีความปกติใหม่ของโลก โดยเฉพาะความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ที่แม้ว่าเราจะก้าวผ่านการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 มาแล้ว แต่องค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุขยังต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นเร่งด่วนของทั่วโลกในขณะนี้คือการทำวิจัยที่เกี่ยวกับชีวการแพทย์ การบำบัดโรค และการพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ที่พร้อมต่อการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือนวตกรรมเชิงป้องกัน และการนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลเป็นรูปธรรมสำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง
ชูข่าวสารที่ถูกต้องช่วยสร้างความเชื่อมั่น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวิกฤตสาธารณสุขที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าความถูกต้องของข้อมูลและการเผยแพร่ รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในการบริหารสถานการณ์วิกฤตของรัฐบาล การเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่สาธารณชน ต้องอาศัยความถูกต้องทางวิชาการ ทั้งจากการศึกษา ค้นคว้า ซึ่งภาคการศึกษา มหาวิทยาลัย นักวิชาการ เป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องแก่สังคม เพื่อขจัดข้อมูลเท็จ โฆษณาชวนเชื่อ และข่าวปลอมที่แพร่กระจายและเป็นภัยอยู่ในสังคม ยกตัวอย่างเช่นในช่วงต้นของการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ที่ประชาชนบางส่วนมีความกังวลใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนจากข้อมูลข่าวสารที่อาจไม่ถูกต้อง แต่ในภายหลัง ความหวาดกลัวได้คลายลงเมื่อข้อมูลทางวิชาการที่เชื่อถือได้เริ่มปรากฏออกมามากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้อย่างน่าพอใจ และในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ การสร้างความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้
ปลื้มWHOยกไทยต้นแบบสู้โควิด
โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก และนานาประเทศถึงนโยบายและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการดูแลประชาชน ทั้งการป้องกัน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และด้วยความสำเร็จนี้ องค์การอนามัยโลกได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบในโครงการนำร่องการทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า เมื่อเดือนเม.ย.2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคการศึกษา ทั้งสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยต่างๆตลอดจนอาสาสมัครและประชาชนทุกคน และมิตรประเทศ รวมถึงความม่งมั่นในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี ยารักษาโรค วัคซีนและเครื่องมือทางการแพทย์กับประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่องด้วย
ชื่นชมทุกฝ่ายช่วยสังคมในช่วงวิกฤต
“ผมขอชื่นชมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาคการศึกษาทั้งหมดที่ได้ร่วมมือกับ ศบค.ในการช่วยเหลือประเทศภายใต้รูปแบบ นวัตกรรมเพื่อสังคมโดยได้นำผลการศึกษาวิจัยมาพัฒนาให้สามารถใช้งานได้จริง และนำมาช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤต เช่น CU-RoboCOVID (ซี-ยู-โรโบ-โควิด)
ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ภายในโรงพยาบาลสนาม และ Chula COVID-19 Strip Test (จุฬา-โควิด-19-สตริป-เทสต์) รวมถึงนวัตกรรมการรักษา “วัคซีนใบยา” ที่เป็นวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA (เอ็ม-อาร์-เอ็น-เอ) ที่ทางมหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้น โดยนวัตกรรมต่าง ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากการร่วมมือพัฒนาของนักวิชาการและนักวิจัยสหสาขา ในขณะเดียวกันเรายังมีผลงานยอดเยี่ยมของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หลายแห่ง ที่สามารถพัฒนาชุดตรวจ และการตรวจชนิดที่ทันเหตุการณ์ หรือการตรวจทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดอีกด้วย”นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวันนี้ ได้ทบทวนบทเรียนจากการรับมือสภาวะฉุกเฉินในการระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับโรค คือ นโยบายในการวางรากฐานระบบหลักประกันสุขภาพ และความพร้อมของเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขกับนานาประเทศ รวมไปถึงองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี การค้นคว้า วิจัย และการใช้นวัตกรรมดิจิทัลทางการแพทย์ รัฐบาลไทยได้ส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาและยกระดับศักยภาพของบุคลากรให้มีความสามารถสูงขึ้นและมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยใช้งาน
ขอให้รักสามัคคีให้กำลังใจกันและกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมเชิงวิชาการในวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นเวทีแห่งความสำเร็จ เพื่อหารือแนวทางการรับมือกับความท้าทายต่างๆ โดยการศึกษาและการวิจัยร่วมกันจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในทุกมิติ โดยมีเทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นรากฐานสำคัญ นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศในภูมิภาคอย่างสมดุลและยั่งยืนสืบต่อไป เราต้องรักและสามัคคีกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เผื่อแผ่ สิ่งสำคัญเราต้องการสันติสุขในประเทศไทย เป็นบ่อเกิดทุกเรื่อง ทั้งสังคม เศรษกิจเพราะฉะนั้นเราต้องรักกัน และต้อนรับด้วยยิ้มแห่งสยาม
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนด้วยรอยยิ้มว่า “ฝากด้วยนะจ๊ะ” ก่อนจะพูดคุยกับประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก กล่าวว่า “ I Like Your smile” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับถอดหน้ากากอนามัย พร้อมส่งรอยยิ้มและพูดว่ายิ้มสมาย ก่อนกล่าวว่า “Thank you มีความสุขๆ” และส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ และเดินทางกลับ
“บิ๊กป้อม”ประชุมติดตามเอเปก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและจราจร (กอร.รปภ.จร.) ในช่วงการประชุมเอเปก (APEC) เป็นประธานการประชุม กอร.รปภ.จร. ครั้งที่ 3/65 โดยมี พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รองประธาน ผบ.ทก.สน.ปฏิบัติการภายใต้ กอร.รปภ.จร. ประจำสถานที่ประชุม APEC ประจำโรงแรมที่พัก ประจำสถานที่จัดงานกาล่าดินเนอร์ และ ทก.สน.ปฏิบัติการเฉพาะด้าน เข้าร่วมประชุม ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และ กอร.รปภ.จร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ไปยังศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) และ ที่ทำการส่วนหน้าที่ (ทก.สน.) ปฏิบัติการประจำสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม เพื่อทราบสถานการณ์ความคืบหน้าในการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่เริ่มเดินทางเข้าประเทศเพื่อเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติของทุกหน่วยที่ต้องบูรณาการความร่วมมือกันให้สอดประสานสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น สมบูรณ์แบบ เป็นระบบ ไร้รอยต่อและข้อผิดพลาด ตรวจสอบความพร้อมของทุกชุดปฏิบัติการในทุกมิติเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความราบรื่น เป็นไปตามมาตรฐานสากล เป็นหน้าตาของประเทศไทย
โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณา การประสานการปฏิบัติและปัญหาข้อขัดข้อง (ศปก.สน./ทก.สน. ทุกหน่วย) รวมทั้ง การประสานการปฏิบัติของหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไทยเสิร์ท บริษัทโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล
สั่ง จนท.ปฏิบัติหน้าที่เข้มข้น
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การประชุมวันนี้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติโดยเฉพาะในโรงแรมที่มีผู้นำเขตเศรษฐกิจพำนัก ขอให้กำลังพลผู้ปฏิบัติงานทุกคนดูแลรักษาสุขภาพ และขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยหมั่นตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ กำกับดูแลการปฏิบัติของชุดปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ขอให้หน่วยร่วมปฏิบัติทุกหน่วย ให้การสนับสนับการปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เต็มขีดความสามารถ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังกำชับการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติต้องดำเนินงานตามระเบียบปฏิบัติและแนวทางที่ได้ซักซ้อมไว้แล้ว ยึดมั่นถือปฏิบัติตามมาตรฐานสากลให้ดำเนินงานไปด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง เข้มงวด ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
การข่าวยังไม่พบสิ่งบอกเหตุผิดปกติ
สำหรับเรื่องการปิดเส้นทางจราจรที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเอเปก อาจกระทบกับประชาชนผู้อยู่อาศัย ขอให้สร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ระบุว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามและขับเคลื่อนงานด้านการรักษาความปลอดภัยและจราจรช่วงที่ผ่านมา การปฏิบัติระหว่างการเดินทางของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในวันแรกของภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติแต่อย่างใด สถานการณ์ด้านการข่าวทั้งในและนอกกรุงเทพมหานครยังไม่มีสิ่งบอกเหตุ โดยหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามและเกาะติดสถานการณ์และบุคคลเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์กล่าวอีกว่า รับรายงานวันนี้สภาพอากาศอาจมีฝนในช่วงเย็นหรือค่ำ และในช่วงวันที่ 17-19 พ.ย. สภาพอากาศไม่มีฝนและไม่มีอุปสรรคต่อการประชุมแต่อย่างใด ด้านจราจรเบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการใน กทม.และปริมณฑล ตนและรอง ผบ.ตร.ได้ออกตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติประจำ ศปก./ทก.สน. ทุกแห่ง กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้แทนของรัฐบาล ขอขอบคุณ ผบ.ตร.และผู้บริหารทุกหน่วยงานทำงานกันอย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าปฏิบัติตามแผนและมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรของรัฐบาลทุกฝ่าย โดยเน้นย้ำว่าเป็นการปฏิบัติงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกคน
รบ.เผยปชช.ตื่นตัวเป็นเจ้าภาพเอเปก
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนและช่องทางสื่อสารในสังคมออนไลน์ ในช่วงสัปดาห์นี้มีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค 2022 ที่ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเสนอประเทศไทยในมิติต่างๆ รวมถึง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” เพื่อให้เอเปคมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจน สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
โมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาลได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยเฉพาะศักยภาพทางด้านการออกแบบสินค้าเชิงสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ในภาคอุตสาหกรรม การสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่หลายผลิตภัณฑ์ของไทยได้มาตรฐานสากลและวางจำหน่ายในยุโรปบางประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้ในชุมชนถึงรากหญ้า
ชี้โมเดล BCGกระจายรายได้สู่ฐานราก
“กระแสโมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังปลุกให้บรรดาสตาร์ตอัพในประเทศให้ความสนใจและเข้าใจโมเดล BCG มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูอาหารของผู้นำเอเปคที่นำวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศมาประกอบอาหาร กลายเป็นสินค้าขายดี นำเสนอซอฟต์พาวเวอร์อย่างเห็นผล สร้างรายได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่สำคัญการประชุมเอเปคยังเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ทำหน้าที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพหลัก จัดการประชุมสุดยอดซีอีโอแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 2022 หรือ “เอเปก ซีอีโอ ซัมมิท 2022” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. 2565 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่มีภาคเอกชน ผู้นำและซีอีโอระดับชั้นนำของภูมิภาคมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่จะมีการนำประเด็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามาแลกเปลี่ยนเพื่อต่อยอดกัน โดยเป้าหมายหลักจะเน้นในเรื่องของการส่งเสริมการเปิดเขตเสรีการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือด้านสังคมและการพัฒนาในทุกมิติ” น.ส.ทิพานัน กล่าว
‘จุรินทร์-ดอน’นำประชุม รมต.เอเปก
ด้าน นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ไม่อยากเห็นการด้อยค่าผู้นำประเทศในเวทีเอเปกและปิดโอกาสทองของไทย ดังนั้น จึงมีความเป็นห่วงว่าเวทีระดับโลกที่ปรากฏชื่อประเทศไทยบนแผนที่โลกครั้งนี้จะถูกทำลายเพียงคนไม่กี่คนนั้นย่อมมิได้ จึงอยากให้รัฐบาลทำความเข้าใจคนเหล่านั้นก่อนเวทีสุดยอดผู้นำจะเริ่ม
ทั้งนี้ รัฐมนตรีเอเปกของไทย คือ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กับรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย ส่วนผู้นำประเทศไทย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับชาติอื่นนั้น บทบาทของรัฐมนตรีเอเปค 2 คน คือ นายจุรินทร์ และนายดอน จะต้องทำหน้าที่จัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ ในวันที่ 17 พ.ย.2565 จากนั้นผู้นำจะประชุมกันวันที่ 18 และ 19 พ.ย. 2565 โดยสาระสำคัญของภารกิจวันที่ 17 คือ นายจุรินทร์ จะเป็นประธานร่วมกับ นายดอน ซึ่งจะนำประชุมในประเด็นเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล ซึ่งเป็นธีมของการประชุม โดยจะนำไปสู่แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีเอเปคหรือประธานก่อนที่ผู้นำจะมีการประชุมกัน
โดยหน้าที่ตรงนี้ทั้ง 2 คน จะเป็นผู้กุมบังเหียนการหารือ เจรจา หาข้อยุติ ตกลง ร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและมุ่งสู่เป้าหมายขยายการค้าขายระหว่างกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะรองรับสถานการณ์หลังโควิด-19 ซึ่งสาระตรงนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและศักยภาพ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนคนไทยและไม่ให้เสียเปรียบชาติใดในเวทีโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี