โหราจารย์”ภิญโญ พงศ์เจริญ” ทำนายชะตาบ้านเมืองปี 2566 มีดาวพระราหูทับลัคนาเมืองทับอาทิตย์ตนุเศษของดวงเมือง มักจะให้โทษ นำปัญหาต่างๆและทำให้เกิดเหตุเภทภัยมาสู่ดวงเมือง อุบัติภัยครั้งสำคัญๆ ซึ่งจะทับอยู่ถึงวันที่ 17 ตุลาคม  2566

1 ธ.ค.66 อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ  ผู้เชี่ยวชาญการทำนายพยากรณ์ดวงชะตาด้วยหลักโหราศาสตร์ไทย ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์มาอย่างยาวนาน  ได้พยากรณ์ดวงเมืองประเทศไทย ปี 2566 ที่กำลังจะมาถึงว่า ดวงเมืองประเทศไทย พระราหูทับลัคนาเมืองทับอาทิตย์ตนุเศษของดวงเมือง จะทับอยู่จนถึงวันที่ 17 ตุลาคม  2566

ความหมายของราหูทับลัคน์ หรือมาทับพระอาทิตย์ในดวงเมืองนั้น ราหูเป็นบาปพระเคราะห์ มักจะให้โทษ นำปัญหาต่างๆและทำให้เกิดเหตุเภทภัยมาสู่ดวงเมือง อย่างอุบัติภัยครั้งสำคัญๆ ที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน บุคคลสำคัญ โดยในปี 2547 เกิดภัยพิบัติ”สึนามิ”มีคนเสียชีวิตเฉพาะคนไทยเกือบ 7,000 คน ซี่งตราบใดที่ราหูกุมดวงเมืองอยู่ตรงราศีมีนนั้น  เรื่องผู้มีอิทธิพล กลุ่มอิทธิพลสีเทาหรืออบายมุข การหลอกลวงสร้างความหวังอย่างโน้น อย่างนี้ ก็จะก็ปกคลุมดวงบ้าน ดวงเมือง ก็จะทำให้เรื่องการพนัน เรื่องหวย การเสี่ยงโชค ยังคงระบาดไปทั่ว รวมทั้งเรื่องผู้มีอิทธิพลความเป็นธรรมในสังคมจะเบี่ยงเบน ซึ่งไม่ใช่เกิดปัญหาเฉพาะด้านสังคมเท่านั้น แต่จะรวมถึงการเมือง การปกครองด้วย

ซึ่งดาวราหูมีวงรอบทุก 18 ปีที่จะโคจรวนมาอยู่ตำแหน่งเดิมคือราศีเมษ เพราะฉะนั้นการจะดูดวงเมืองต้องเอา 18 ซึ่งช่วงวัฏฏะครั้งที่แล้ว เอา 18 ลบ พ.ศ. จะเท่ากับ 2547  ราหูมาทับลัคนาเมือง จึงทำให้ปี 2547, 2548 เกิดปัญหาทางการเมืองช่วงคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และเดินขบวนขับไล่ ประชาชนเรียกหาคุณธรรม

โดยวงรอบราหู 18 ปีถัดมา ราหูยกเข้าราศีเมษตั้งแต่ช่วงพฤษภาคม 2563 อยู่ในดาวเรือนการเงิน-เศรษฐกิจ-การคลังประเทศ เพราะฉะนั้นราหูค้นทรัพย์เมื่อปี 2563-2564   ต่อจากนั้นปี 2565 ราหูก็มาทับลัคนาเมือง รวมประมาณปีครึ่ง และจะอยู่จนกระทั่งถึงวันที่ 17 ตุลาคม ปี 2566 ราหูจึงจะออกจากดวงเมือง ทั้งนี้ จะเห็นว่าราหูทับลัคน์ดวงเมืองวงรอบใหม่ลีลาก็จะคล้ายๆกันช่วงปี 2547 และ 2548 ดังจะเห็นได้ว่าในช่วงนี้เกิดปัญหาอะไรขึ้นหลายๆเรื่อง อย่างเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยเจอคลื่นพายุทำให้เรืออัปปางจมลง ซึ่งวงรอบนี้จะครบ 18 ปี ในปี 2565 ต่อ 2566 ดาวพระราหูนี้ยังอยู่ในดวงเมืองจนถึงวันที่ 17 ตุลาคม ปี 2566

ดาวพระราหู คือ ความมัวเมา มืด อบายมุข เภทภัยต่างๆ ผู้มีอิทธิพล  เพราะฉะนั้นการที่ราหูครอบคลุมบ้านเมืองอยู่ จึงทำให้มีเรื่องความไม่เป็นธรรม ความไม่ชอบธรรมก็จะเกิดขึ้นเห็นได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นปี 2565 ต่อ 2566 จนกระทั่งราหูย้ายราศี โดยดาวราหูจะยกจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน ซึ่งเป็นภพที่ 12 ของดวงบ้าน ดวงเมือง เรียกว่า”ภพวินาศ” เปรียบเสมือนนักมวยขึ้นชกบนเวทีแล้วเมื่อครบยกแล้วลงจากเวทีก็ยังคงมีอาการเมาหมัดอยู่  ซึ่งพระราหูทับลัคนาเมือง(ราศีเมษ)อยู่ปีครึ่ง หลังจากนั้นย้ายเข้าสู่ราศีมีน แต่ถึงแม้จะย้ายแล้วแต่อิทธิพลของราหูก็ยังอยู่

ในตำราโหราศาสตร์บอกว่าราหูให้โทษ ในภพที่ 2,4,12 ดังนั้น การที่ราหูอยู่ในภพที่ 12 ยังต้องระมัด ระวัง โดยวงรอบที่แล้วราหูอยู่ในช่วงปี 2548,2549 มีการยึดอำนาจวันที่ 19 กันยายน 2549  จึงต้องระวัง แต่ก็เห็นว่ายังมีดาวอีกดวง คือดาวพระพฤหัสฯโคจรไปหลบมุมอยู่ตรงราศีมีนในภพวินาศ เพราะฉะนั้น พระพฤหัสฯไม่สามารถช่วยคุ้มชะตาบ้านเมืองได้ ปล่อยให้ดาวราหู- มฤตยู- อังคาร-เสาร์ กระทำย่ำยีดวงเมือง ซึ่งต้องให้พระพฤหัสฯย้ายจากราศีมีนตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2566 แล้วจะยกเข้าราศีเมษมาทับพระอาทิตย์ในลัคนาดวงเมือง ซึ่งดาวพระพฤหัสบดีปกติให้สรรพโชค ดังนั้นเข้าสู่ภพที่ 1 ก็จะให้คุณนำโชคดี ความสำเร็จมาสู่บ้าน สู่เมือง การที่พระพฤหัสฯกับพระอาทิตย์เป็นดาวคู่มิตรกันเมื่อมาทับกันก็จะให้ผลเป็นคุณ

ดาวพระพฤหัสกับดาวราหูเป็นดาวคนละขั้ว จะโคจรสวนกันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งราหูเป็นจอมมาร จอมอสูร  ส่วนพระพฤหัสฯนับถือว่าเป็นจอมเทพ คอยคุมชะตาบ้าน ชะตาเมือง ซึ่งการโคจรสวนกันก็เป็นการเปรียบบเทียบประชันกันระหว่างดาวเคราะห์ใหญ่ 2 ดวง คือพระพฤหัสฯซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์ ส่วนดาวราหูเป็นดาววบาปพระเคราะห์ก็เกิดการเปรียบบเทียบให้เห็นความแตกต่างกันระหว่างความดีกับความชั่ว น่าจะมีพรรคฝ่ายเทพ พรรคฝ่ายมารเกิดขึ้นอีก เพราะมี 2 ขั้ว 2 ด้าน ดาวมากุมกัน หมายถึงการผสมกลมกลืน ฉะนั้น การจัดตั้งรัฐบาลน่าจะมีความแตกต่างจากครั้งก่อนๆ  ซึ่ง 2 ฝ่ายทั้งพระพฤหัสกับฝ่ายราหูอาจจะจับมือกันก็ได้ โดยแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปในแนวทางแปลกๆ จากเดิมแยกขั้วกันชัดเจน พรรคนี้ไม่เอาพรรคนั้น พรรคนั้นไม่เอาพรรคนี้ แต่คราวนี้น่าจะเกิดการผสมผสานของต่างขั้วสามารถจับมือกันได้ มีพรรคการเมืองแปลกๆเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ราหูมีอิทธิพลการเมืองก็ยังเต็มไปด้วยอบายมุข ผู้มีอิทธิพล เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม เพราะฉะนั้นจะหาความยุติธรรมได้ยาก ซึ่งดาวราหู ยังหมายถึงคนจีน เกาหลี และคนโลกตะวันออก

โดยดาวมฤตยูโคจรอยู่ตรงราศีเมษ ตั้งแต่ปลายปี 2565 ไปจนถึงวันที่ 8 มีนาคม 2566 ทั้งนี้ ตราบใดที่ดาวบาปพระเคราะห์เข้มแข็ง ฝ่ายดาวศุภเคราะห์ที่เป็นฝั่งคุณธรรมก็จะอ่อนแอ หลังจากนั้นดาวมฤตยู ก็เข้าสู่เรือนการเงิน การคลัง เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นภพที่ 2 ของดวงมือง ซึ่งด้านดีจะทำให้ได้อะไรใหม่ๆขึ้นมาเกี่ยวกับการเงิน การจัดระเบียบ การจัดเก็บภาษีอากร การเงินของชาติอาจจะกระเตื้องขึ้น การบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการเงินก็จะได้ผล  ส่วนด้านร้ายนั้น การเงิน การคลัง จะเปิดปัญหาขลุกขลัก โดยเกิดการสูญเสียในตลาดหุ้น สถาบันการเงิน ธนาคาร การลงทุน ที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากลามไปถึงรัฐสภาด้วย ในการออกกฎหมายพรบ.การเงิน การคลัง  ดาวมฤตยูปกติปกครองราศีกุมภ์ซึ่งมฤตยูเป็นเกษตรในราศีกุมภ์แล้วราหูเป็นเกษตรในราศีกุมภ์ด้วย  โดยดาว 2 ดวงตอนนี้ทับลัคนาเมือง แต่หลังจากนี้ดาวมฤตยูจะเคลื่อนออกเข้าสู่ราศีพฤษภ(เรือนการเงิน การคลัง)ก็จะกระทบเศรษฐกิจ การเงิน การคลังประเทศ เพราะฉะนั้นจึงเกิดความขลุกขลักเกี่ยวกับเรื่องการเงิน

ซึ่งบ้านเมืองจะดีขึ้นต้องให้ดาวพระพฤหัสดีย้ายออกจากราศีมีนเข้ามาสู่ราศีเมษในภพที่ 1 ซึ่งเป็นภพตนุ ของดวงเมือง ซึ่งต้องเลยหลังวันที่ 19 เมษายน 2566 บ้านเมืองก็น่าจะกระเตื้องดี  โดยช่วงตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ตอนนี้ดาวมฤตยูถอยหลังอยู่ตรงราศีเมษไปกุมกับราหู เพราะฉะนั้นบาปพระเคราะห์ร้ายขนาดใหญ่ 2 องค์ เกิดทับลัคนาเมือง ย่อมนำภัยอาเพศมาสู่ดวงเมือง ดังนั้น ต้องเตรียมรับเหตุการณ์ทั้งดีและไม่ดี ซึ่งดาวมฤตยู เรียกว่าดาวขบถ หมายถึงไม่ชอบของเก่า หรือธรรมเนียม ระเบียบปฏิบัติ กฎหมายนั้น ให้คุณบางด้าน เพราะฉะนั้น เมื่อมฤตยูจรไปตรงไหน เข้าสู่ราศีใด ภพใดก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยรื้อระบบของเก่าไปสู่ระบบใหม่ จึงมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งการไม่ดีน่าจะทำลายของเก่า และทำให้เกิดความไม่แน่นอน ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ยังไงการรื้อระบบเป็นการสร้างสิ่งใหม่ๆด้วย ดังนั้น เราจะพบกับอะไรใหม่ๆที่เราไม่เคยพบ ใม่เคยเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวมฤตยู ที่มีความหมายถึงภัยอาเพศ อุบัติภัย โรคระบาด ภัยที่มองไม่เห็น ภัยจากเชื้อโรค

ทั้งนี้ ในดวงเมืองแม้จะมีดาวบาปพระเคราะห์รุมดวงเมืองอยู่ แต่ก็ยังมีดาวดีๆที่พึ่งได้มีอยู่ 2 องค์ คือ ดาวพระพฤหัสที่โยกเช้ามาทับลัคนาเมือง (โกมุทเกตุ)จะให้คุณประโยชน์เกิดความสำเร็จต่างๆ อย่างไรก็ตาม ดาวพระพฤหัสฯที่บอกว่าเป็นดาวที่ดีๆนั้น แต่เมื่อมีการไล่อายุเมือง ในวันที่ 21 เดือนเมษายน 2566 จะมีอายุย่าง 242 ปี ชะตาดวงเมืองทักษาจรตกภูมิราหู แล้วดาวพระพฤหัสฯก็เกิดกาลกิณีจรในราศีเมษขึ้นมาอีก ก็จะเกิดโทษ ดังนั้นที่ว่าดวงเมืองจะดีขึ้นก็ยังไม่ดีจริง ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะดีแต่มันก็ไม่ดี มันเหมือนกับมีปัญหาอุปสรรคที่ขวางกั้นอยู่ ถ้ามีความสำเร็จ จะเข้าทำนองถ้าเป็นทุกขลาภ สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น ความสำเร็จนั้น ว่าจะได้มาก็ลำบากและเมื่อได้มาแล้วก็เกิดปัญหาอุปสรรครักษาไว้ไม่ได้  หรือได้ผลประโยชน์อะไรมาก็เสียหายไป ต้องใช้หมดรักษาไว้ไม่ได้

ซึ่งปกติพระพฤหัสเป็นดาวที่ให้คุณประโยชน์ และพระพฤหัสฯหมายถึงสมณะ พรหมณาจารย์ เรื่องศาสนา นักบวช การศึกษา ต่างชาติ แต่อิทธิพลของดาวพระพฤหัสฯที่กลายเป็นกาลกิณีจรในราศีเมษ จึงอาจก่อให้ปัญหา อุปสรรค เกิดผลเสียหาย ความวุ่นวายในวงการศาสนา นักบวช วัดวาอาราม วงการแพทย์ วงการศึกษา วงการกฎหมาย  อาจรวมถึงวงการท่องเที่ยว ที่ดูในภาพรวมทำท่าจะดีขึ้น ขยายตัวได้ผลประโยชน์ตอบแทนในทางที่ดี แต่ก็เป็นปัญหาเพราะบ้านเมืองเป็นปัญหา ทำให้ต้องใช้จ่าย สูญเสียไป  ถ้าหากเป็นดวงคนธรรมดาก็จะเกิดอันตราย เกิดปัญหาเจ็บป่วย สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การเงิน แต่เมื่อเป็นดวงเมืองก็หมายถึงจะเกิดความเสียหาย เกิดภัยพิบัติต่างๆ

โดยพระราหูมีวงรอบโคจร 18 ปี ซึ่งมุมดาวครั้งนี้ค่อนข้างแรง ซึ่งครั้งปี 2547 ที่เกิดเหตุพิบัติ”สึนามิ”จะเห็นว่ามีพระราหูองค์เดียวอยู่ราศีเมษ ดาวเสาร์อยู่ราศีมิถุน และอาทิตย์อยู่ราศีธนูเล็งกับดวงจันทร์ ซึ่งมุมดาวมีลีลาที่คล้ายๆกันกับแต่ครั้งนี้ดาวหลายดวง มีดาวราหู ดาวมฤยูทับดวงเมือง และพระเสาร์ทำมุมฉาก ดังนั้น ความรุนแรงก็น่าจะพอๆกัน บอกไว้จะได้ทำใจ เพราะฉะนั้น อีกไม่นานจากนี้ช่วงก่อนที่ดาวพระพฤหัสจะย้าย คงจะเกิดเหตุการณ์อะไรกับบ้านเมืองที่มีความรุนแรงและสร้างความเสียหายมาก

จากการที่ดาวราหู มฤตยูทับลัคนาเมืองและพระพฤหัสไม่คุ้มครอง และการที่มีดาวพระเสาร์อยู่ที่ภพ 10 มันเป็นปัญหาทุกรอบ ซึ่งทุกวงรอบของดาวเสาร์ที่มาอยู่ตำแหน่งนี้  ทั้งนี้ การที่เราศึกษาเรื่องวัฏฏะของดาวเสาร์ หากเอาเลข 30 ลบพ.ศ. ก็จะได้วงรอบของดาวเสาร์ เพราะฉะนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตรงกับปี 2535 เกิดเหตุจลาจลพฤษภาทมิฬ ขึ้นกลางเมือง สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากถอยหลังไปอีกรอบจะตรงกับ ปี 2505,2506 ซึ่งรอบนั้นประเทศไทยเสียเขาพระวิหาร และประชาชนจัดตั้งกองทัพปลดแอกจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาล ช่วงชิงอำนาจรัฐจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ ใช้วีธีปราบปรามค่อนข้างรุนแรง ครั้งนั้นคนไทยรบกันเอง ประเทศไทยเสียเขาพระวิหารและเกิดกองทัพปลดแอกคนไทยรบกันเอง เกิดวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก รวมทั้งจอมพลสฤษดิ์ ถึงแก่อนิจกรรม  หากเอา 30 ลบอีกรอบ จะเจอปี 2475 ซึ่งปีนั้นจะยิ่งชัดเจนใหญ่เกิดการปฏิวัติสยาม 24มิถุนา 2475 และตามมาด้วยกบฏบวรเดช ในปีถัดมา

ดังนั้น วงรอบของพระเสาร์ค่อนข้างสำคัญ  แต่ดาวเสาร์ที่อยู่ตรงนี้ในช่วงที่ผ่านมา เกิดเรื่องราวมากมายจะเห็นได้ว่าใช่วง 1-2 ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แทบจจะเอาไม่อยู่ แต่ก็อยู่มาได้ ก็แสดงว่าดาวเสาร์ยังเข้มแข็งอยู่ ดาวเสาร์เป็นเกษตรในราศีมังกร แต่ดาวเสาร์จะย้ายเข้าไปอยู่ราศีกุมภ์ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งถ้าดูตามเรือนตามภพดาวเสาร์จะย้ายจากราศีมังกรเข้าสู่ราศีกุมภ์ คือย้ายจากภพที่ 10 เข้าสู่ภพที่ 11 (ลาภะ) ดังนั้น พระเสาร์ก็จะให้คุณ เพราะฉะนั้น โครงการใหญ่ๆ สำคัญๆน่าจะประสบความสำเร็จหลังจากที่ใช้เวลามานาน โดยดาวเสาร์อยู่ตำแหน่งนี้ 2 ปีครึ่ง หรือถึงปี 2569 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ดาวเสาร์ให้คุณประโยชน์ ซึ่งประชาชนน่าจะได้อนิสงฆ์รับประโยชน์จากการที่ดาวเสาร์โคจรอยู่ในราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นภพลาภะของดวงเมือง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเมื่อโครงการของรัฐประสบความสำเร็จ สาธารณูปโภคต่างๆดีขึ้น สิ่งต่างๆที่รัฐบาลได้ลงทุนในโครงการใหญ่ๆที่ใช้ระยะเวลายาวและกำลังเยอะ ในช่วงดาวเสาร์อยู่ตำแหน่งนี้ 2 ปีครึ่ง น่าจะประสบผลสำเร็จดี อย่างเช่น การคมนาคม การพัฒนาสังคมด้านต่างๆ

ส่วนดวงเมืองในเรื่องการเลือกตั้ง หากเกิดหลังวันที่ 19 เมษายนนั้น ดาวใหญ่ย้ายราศีหลายองค์  และดาวเสาร์ ดาวพระพฤหัสก็ย้าย ดาวราหู ดาวมฤตยูก็ย้าย แล้วอังคารก็ถอยหลังย้าย ในเมื่อดาวใหญ่ที่สำคัญๆย้ายก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น ทำให้การเมืองก็ค่อนข้างร้อนแรง ยุ่งยาก มีการต่อสู้แแข่งขันประชันโฉมกันระหว่าง 2 ขั้ว และในส่วนดาวพระพฤหัสฯและดาวราหูที่กุมกันสวนกัน ซึ่งดาวพระเคราะห์ 2 องค์ 2 ดวงนี้จะโคจรสวนกันสนิทในวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ดังนั้นช่วงพฤษภาคม อาจจะเป็นช่วงเวลาการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้

ทั้งนี้ ดาวพระราหูจะยังคงอยู่ตรงราศีเมษจนถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เพราะฉะนั้น บ้านเมืองจะให้โล่งใจปลอดภัยจริงๆก็ต้องวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ไปแล้ว