‘อุ๊งอิ๊ง’นำทัพเพื่อไทยบุกอีสาน
พร้อมเป็นนายกฯ
แทงกั๊กจับมืิอ‘บิ๊กป้อม’ตั้งรบ.
อ้างต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน
‘ประวิตร’ฟิตทัวร์เหนือ16มกราคม
จับตารับก๊วน‘ธรรมนัส’กลับพปชร.
‘จุรินทร์’เปิดตัว61ผู้สมัครสส.เหนือ
‘สุดารัตน์’ชูอีสานมั่งคั่ง/หายยากจน
“บิ๊กป้อม” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.สมุทรสาคร กระหึ่ม เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง วางโปรแกรมจันทร์นี้เยือนเหนือ พุ่งเป้าพะเยา แจกโฉนด-ขุดบ่อน้ำ ช่วยชาวบ้าน จับตา “ธรรมนัส” ขนลูกทีมมารอรับปูทางเข้าพปชร.ด้าน“อุ๊งอิ๊ง”นำทัพบุกถิ่นอุดรฯ มวลชนต้อนรับแน่น ประกาศพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในขณะ“เศรษฐา”ไม่ร่วมปราศรัยใหญ่ เพราะติดภารกิจ “ซูเปอร์โพล”เอือมระอา“สภาล่ม-แจกกล้วย” ส่วนประธานชวน ขับเคลื่อนการเลือกตั้งสุจริตปลอดซื้อเสียง
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาเป็นประธานเพื่อทำการเปิดศูนย์ประสานงานพรรค พปชร. ที่บริเวณถนนในซอยคลองมะเดื่อ (17) กม.ที่ 12 หมู่ 6 ต.คลองมะเดื่อ พร้อมด้วยบรรดาแกนนำพรรค พปชร. อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม และแกนนำในฐานะสมาชิกพรรค พปชร.มาเข้าร่วมเป็นที่ทำการประสานงานการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน พร้อมกันนี้ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้กล่าวแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร รวมครบทั้ง 4 เขตทั้งจังหวัด ได้แก่ เขต 1 คือ นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์, เขต 2 น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ซึ่งยังเป็น ส.ส.สมุทรสาคร, เขต 3 น.ส.ปัญฑารีย์ มั่งมี หรือลูกน้ำ ลูกสาวกำนันในตำบลคลองมะเดื่อ และเขต 4 คือ นายภัฎ สุริวงษ์ ลูกชายอดีต ส.อบจ.ก่อน พล.อ.ประวิตร จะเดินกลับไป
จับตา“บิ๊กป้อม”ขึ้นเหนือ”ธรรมนัส”รอรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประวิตร ยัง ที่มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 16 ม.ค. นี้ พล.อ.ประวิตร และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ลำปาง และจ.พะเยา ซึ่งจุดแรกเวลา 10.30 น. จะประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และมอบนโยบายให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมอาลัมภางศ์ ศาลากลางจังหวัดลำปาง ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปางและเยี่ยมชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ OTOP พร้อมพบปะประชาซน จากนั้นพล.อ.ประวิตร เดินทางต่อไปที่หอประชุมอ.แม่เมาะ (อาคารจำป่าแดด)เป็นประธานมอบเอกสารสิทธิ์ มอบเอกสารใบอนุญาตคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ(คทช.)รวมถึงเอกสาร สปก.4-01 ให้กับตัวแทนประชาชน พร้อมพบปะผู้นำชุมชนประชาชนในพื้นที่
ต่อมาในช่วงบ่ายพล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยาเพื่อชมวีดีทัศน์ผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และ การบริหารจัดการน้ำ ของ จ.พะเยา โดยมีผวจ.พะเยา ให้การต้อนรับ ก่อนมอบเอกสารสิทธิ์ เอกสาร คทช.จำนวน 1 แปลงให้ผวจ.พะเยา และมอบเอกสาร สปก.4-01ให้นายอำเภอ 9อำเภอ ส่งมอบต่อให้เกษตรกรในพื้นที่ จากนั้น พล.อ.ประวิตร เดินทางติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกกว้านพะเยา บ้านสันหนองเหนียว อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมพบประชาชนในพื้นที่ ก่อนเดินทางกลับกทม.ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าจับตามองว่าการลงพื้นที่จ.พะเยา ครั้งนี้ มีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมส.ส.บางส่วนของพรรค จะมาต้อนรับพล.อ.ประวิตร ท่ามกลางกระแสข่าวร.อ.ธรรมนัส จะกลับมาร่วมงานกับพรรค พปชร.
‘เศรษฐา’ไม่พร้อมขึ้นเวทีเพื่อไทย
เวลา 11.45น ที่ จ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ “ครอบครัวเพื่อไทย:อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น” และลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยทันทีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและคณะ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี มีมวลชนมารอต้อนรับและให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารกันอย่างคึกคัก โดยได้มอบดอกกุหลาบสีแดง และผูกผ้าขาวม้าที่เอวด้วย สำหรับกำหนดการครอบครัวเพื่อไทย จ.อุดรธานีในวันนี้ น.ส.แพทองธารและคณะ อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค, น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย จะลงพื้นที่ อ.เพ็ญ พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่และเกษตรกรชาวสวนยาง จากนั้น น.ส.แพทองธาร และคณะ จะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองอุดรธานี จากนั้นจะเป็นการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุดรธานี ในช่วงเย็นวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ไม่ได้มีนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มาร่วมเวทีด้วย ภายหลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะมาปราศรัยร่วมกับ น.ส.แพทองธารและคณะ เนี่องจากติดภารกิจไปร่วมงานศพและแข่งขันฟุตบอล
‘อิ๊งค์’พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
เวลา 14.40น.ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า เราเตรียมวางแผนเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ตอนนี้ก็มีหลายกระแสทั้งการยุบสภา ควบรวมพรรค และดูดส.ส. แต่เราก็ยังไม่ได้กำหนดวันที่ที่จัดเจน เมื่อถามถึง ความชัดเจนในตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อพรรค พท. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้นายเศรษฐา ก็เป็นสมาชิกพรรค พท.ถ้าจะมาช่วยหาเสียงก็ถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้นายเศรษฐาไม่ได้แพลนร่วมลงพื้นที่ด้วยกัน ถามย้ำว่า หลังจากนี้มีโอกาสที่นายเศรษฐา จะร่วมลงพื้นที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีโอกาสแน่นอน ทุกคนมีเป็นสมาชิกพรรค พท. สามารถมาช่วยหาเสียงได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งพรรค พท. แอบขอคำปรึกษานายเศรษฐาอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วทั้งเรื่องของนโยบายและเศรษฐกิจ เพราะนายเศรษฐา เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และยังปรึกษานักวิชาการ รวมทั้งคนที่มีความรู้ต่างๆ มากมาย เพื่อทำนโยบายของพรรค พท. ให้ตอบโจทย์พี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายเศรษฐา จะเป็นหนึ่งแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องรอก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ก็พูดแล้วว่ามีอยู่แถวๆ นี้อีกหนึ่งคน
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าอยู่แถวๆ นี้ คือน.ส.แพทองธาร เองใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยน้ำเสียงหัวเราะว่า ตนก็ไม่ทราบ และเป็นใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ถามอีกว่า ตัวน.ส.แพทองธาร มีความพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “อิ๊งค์ พร้อมนะคะ เพราะอิ๊งค์รู้สึกว่าเราลงมาจุดนี้ เราอยากให้พรรคแลนด์สไลด์เพื่ออะไร เพื่อนำนโยบายต่างๆ ที่สัญญากับประชาชนทุกจังหวัดผลักดันให้เกิดขึ้นจริงๆ ให้ได้ นี่คือสิ่งที่อิ๊งค์คิด แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของอิ๊งค์ คือนโยบายที่ผลักดันให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าสุดท้ายแล้วพรรคมีคนที่เหมาะสมกว่า อิ๊งค์ก็พร้อมเหมือนกัน”
ร่วมงานกับพรรคเป็นปชต.เท่านั้น
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกฯ ว่า หลักการของพรรคเพื่อไทย แน่นอนเราต้องหาเสียงให้แลนด์สไลด์ ทำนโยบายทุกอย่างที่สัญญาให้ได้สำเร็จ ถ้าจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ เราจะต้องจับมือกับคนที่ไม่ขัดกับประชาธิปไตย มีความคิดเห็นเรื่องนโยบายตรงกัน เพราะเราไม่สร้างนโยบายเพื่อให้ชนะเฉยๆ เราต้องการทำให้สำเร็จ “ถ้าคนที่จะมาจับมือไม่เห็นด้วยกับนโยบาย หรือไม่เห็นด้วยกับประชาธิปไตย อันนั้นคงไม่ใช่แนวทาง” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ปชป.เปิดตัวผู้สมัครสส.ภาคเหนือ
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำ“จุรินทร์ ออนทัวร์”ไป จ.เชียงใหม่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคเหนือ 61คน ใน 16จังหวัดภาคเหนือ โดยเมื่อนายจุรินทร์ เดินทางมาถึงบริเวณพื้นที่จัดงานก็ได้มีบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือ และการแสดงกลองสะบัดชัยมาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ได้มีประชาชนมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก
เปิดนโยบาย’เหนือเชื่อมโลก’
นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศัยบนเวที เปิดว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ถือโอกาสมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส ทั้งหมด 61 คนจาก 16 เขต โดยมีพี่น้องชาวภาคเหนือ ให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักอบอุ่นและยิ่งใหญ่เป็นที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยประชาธิปัตย์ไม่ทิ้งคนเหนือ คนเหนือต้องไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอุดมการณ์และผลงานตลอดระยะเวลาที่ทำงานให้ชาวเหนือมา4ปี ยืนยันว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในประเทศไทย ต้องได้รับสัญชาติคนไทย เพื่อที่จะได้รับสิทธิต่างๆการเรียน การรักษาพยาบาลอื่นๆ เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน นี่คือสิ่งที่เป็นนโยบายกับคนภาคเหนือ
นอกจากนี้ประชาธิปัตย์ยังมีนโยบายที่จะพาภาคเหนือของเราเดินหน้าไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไปด้วยโดยเฉพาะนโยบายสำคัญนั่นคือ นโยบายเหนือเชื่อมโลก ถ้าเหนือเชื่อมโลกได้เหนือจะรวยขึ้นมีเงินมากขึ้น ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าสร้างให้คนไทยและคนเหนือได้อย่างเป็นรูปธรรมนี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำ และเหนือเชื่อมโลกด้วยการคมนาคม การท่องเที่ยวการเกษตรอุตสาหกรรม การส่งออก และการค้าชายแดนสร้างเงินให้กับคนเหนือได้มากกว่าปัจจุบัน และสุดท้ายเหนือต้องเชื่อมโลกด้วยภาษาอังกฤษ ทุกจังหวัดในภาคเหนือ รวมไปถึง Soft Power วิถีชีวิตศิลปะวัฒนธรรมที่งดงามภาคเหยงงเราต้องเอา นี้มาแปลเป็นสินค้าแล้วขายให้กับคนทั้งโลกเมื่อเหนือเชื่อมโลกสำเร็จเป็นรูปธรรมจะช่วยสร้างเงินให้เป็นอย่างมาก
นั่งนายกฯได้เกิน8ปีก่อปัญหาไม่รู้จบ
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณี สว.เตรียมปลดล็อกรัฐธรรมนูญไม่จำกัดนายกฯ8ปี ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงและไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ฟังก็ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เพราะอาจจะนำไปสู่การสร้างปัญหาไม่รู้จบในอนาคตได้ แต่ต้องมาดูรายละเอียดในร่างแก้ไขว่าเป็นอย่างไร จะแก้จริงหรือไม่ หรือแค่โยนหินถามทาง จะไปด่วนวิจารณ์ก็ไม่ได้ สำหรับการแก้รัฐธรรมนูญในนามพรรคปชป.ยังคงเดินหน้าต่อ แต่ยังต้องเป็นรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่แตะหมวด1-2และต้องแก้เพื่อความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น นี่คือแนวการแก้ไขที่ชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง
ชาวขอนแก่นแห่รับ”สุดารัตน์”
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมคณะเดินทางถึงสนามบินขอนแก่น โดยมีทีมไทยสร้างไทย จังหวัดขอนแก่น เดินทางมารับ ซึ่งบรรยากาศก่อนการปราศรัยใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมเริ่มคึกคัก
คุณหญิงสุดารัตน์ จะเดินทางต่อไปยัง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 และเป็นจุดการเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นอีสาน ทยอยเดินทางไปยัง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังการปราศรัยใหญ่เย็นวันนี้ เช่นกัน คาดการณ์ว่ากิจกรรมในช่วงเย็นวันนี้ จะเป็นเวทีใหญ่ที่สุดของพรรคไทยสร้างไทยอีกครั้งหนึ่งก่อนจะถึงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณพื้นที่การจัดงานมีการเตรียมความพร้อม ทั้งสถานที่ และเวทีไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าในการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ จะมีพี่น้องเดินทางมาสนับสนุน และรับฟังคุณหญิงสุดารัตน์ให้เป็นนายกฯคนอีสาน และร่วมฟังนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยไม่ต่ำกว่า 20,000 คน
สำหรับการปราศรัยช่วงเย็น คุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศความพร้อมการเลือกตั้งที่จะมาถึง รวมถึงมาตรการ หรือนโยบายเร่งด่วน ที่จะใช้ในการดูและพี่น้องประชาชน หลังเลือกไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล รวมถึงนโยบาย “อีสานมั่งคั่ง” ให้คนอีสานบอกลาความแห้งแล้ง และความยากจน ที่สำคัญคือ นโยบายที่ได้ประกาศไปแล้ว เช่น บำนาญประชาชน เดือนละสามพันบาท หรือนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี อย่างมีคุณภาพ ซึ่งมั่นใจว่า ทุกนโยบายพูดจริง และทำได้
“กรณ์”ช่วยคนติดแบล็กลิสต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พรรคชาติพัฒนากล้า ปล่อยนโยบายเศรษฐกิจชุดแรกออกมา โดยการเสนอยกเลิกแบล็กลิสต์ และให้ปล่อยกู้ด้วยเครดิตสกอร์แทนนั้น ล่าสุด ได้ออกไอเดียใช้ใบปลิวเงินกู้นอกระบบ แจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อสื่อให้เห็นถึงดอกเบี้ยมหาโหด และแนวทางที่ประชาชนจะเข้าสู่ระบบเงินกู้ในระบบได้ รัฐบาลต้องยกเลิกระบบสินเชื่อโดยใช้เกณฑ์แบล็กลิสต์บูโร และใช้ระบบเครดิตสกอร์จากดาต้าแทน
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า นี่เป็นนโยบายแรกที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือด้านการเงินให้ประชาชนคนไทย โดยนโยบายจะทยอยออกมาทีละเรื่อง เพื่อให้คนไทยมี งานดี มีเงิน ของไม่แพง ซึ่งเป็นหัวใจของทุกเรื่อง เงินในกระเป๋าเขาต้องมีก่อน เรื่องอื่น ๆ ถึงจะตามมาได้ พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญกับตรงนี้ที่สุด ในทุกกลุ่มของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า SME หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการโอกาสในการสร้างตัวและวันที่16ม.ค.นี้ เวลา 10.00น.ผมจะนำคนที่ติดแบล็กลิสต์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วยว่า การติดแบล็กลิสต์ มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นการสะท้อนว่าคนอีก 5.5 ล้านคน ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ถึงเวลาแล้วครับที่ การแก้ปัญหาต้องเปลี่ยนวิธี และรัฐบาลจะต้องกล้าที่จะทำ” นายกรณ์ กล่าว
“ชวน”รณรงค์ไม่สูบบุหรี่
ที่ห้องประชุมโรงเรียนประทีปศาสน์ ปอเนาะบ้านตาล ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนโรงเรียนปอเนาะปลอดบุหรี่ 14 จังหวัดภาคใต้ รณรงค์ไม่สูบบุหรี่
การลงนามในวันนี้มีโรงเรียนปอเนาะทั้งหมด 70 แห่ง จาก 14 จังหวัดภาคใต้ ขณะนี้เริ่มใน 3 จังหวัดก่อน
นายชวน ยังกล่าวว่า ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้ทำโครงการบ้านเมืองสุจริตทั่วประเทศ โดยรณรงค์ให้ประชาชน นักเรียนนักศึกษา หวังให้เด็กไทยเชื่อเรื่องความสุจริต การทุจริตมีอยู่ทุกที่ในสังคม แต่จะถูกจับได้หรือไม่ ตนได้ทำหนังสือถึงคณะ กมธ. ทุกคณะในสภา ให้ระมัดระวังการแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กมธ. คณะทำงาน เพราะปรากฏว่า คณะทำงานและที่ปรึกษาของ คณะ กมธ. บางคณะ มีการเรียกหาผลประโยชน์จากผู้อื่น ต้องติดตามไม่ให้บุคคลเหล่านั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของสภา และนักการเมือง
เดินหน้าทำการเมืองสุจริต
สภาชุดปัจจุบันเหลือเวลา 1 เดือนเศษก็จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 แต่จะอยู่ได้ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 ในอนาคตก็จะมีการเลือกตั้งตามมา ในฐานะที่เป็นผู้แทนมา 16 สมัย สิ่งที่เป็นห่วงคือระบบธุรกิจการเมือง คือการเมืองใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ซื้อเสียง ซื้อพรรคการเมือง ซื้อ ส.ส. ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อหน่วยงาน ซื้อข้าราชการ ซื้อสื่อมวลชน ตนเป็นนักการเมืองที่เข้ามาทำงานการเมืองโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ และไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง แต่อยากเป็นนักการเมืองเพราะอยากให้คนยากจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการกำหนดนโยบายที่ประชาชนได้ประโยชน์ เมื่อมีโอกาสจึงตั้งกองทุน กยศ. ขึ้น เพื่อให้คนยากจนมีโอกาสเข้าถึงเงินทุนเพื่อใช้ในการศึกษา การเป็นนักการเมืองอย่าหวังความร่ำรวย แต่ต้องทำเพื่อประชาชน เพราะเราเป็นหนี้ประชาชนที่เลือกเรามาเป็นผู้แทน ขอให้ทุกคน ทุกอาชีพยึดหลักความซื่อตรงความสุจริต การทำบ้านเมืองสุจริตไม่ได้หวังเรื่องคะแนนเสียง แต่อนาคตประเทศต้องมีคนดี ส่งเสริมคนดีให้มีโอกาสเป็นผู้นำ หรือเป็นอะไรก็ตามที่เชื่อเรื่องความสุจริต เพราะคนดีเมื่ออยู่ที่ใดก็จะเป็นคนดี และจะเลือกคนดีมาเป็นพวกพ้อง ก็จะทำให้สังคมนั้นมีแต่คนดี อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในความสุจริต
โพลชำแหละผลงานสภาผู้แทนราษฎร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อํานวยการสํานักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสํารวจ เรื่อง ผู้แทนราษฎร กับ ความหวังใหม่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดําเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จํานวน 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 – 13 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึง ความเข้าใจของประชาชนต่อ หน้าที่ของ ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พบว่า ร้อยละ 51.0 ระบุ ผู้แทนราษฎร หรือ สส.มีหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ร้อยละ 44.9 ระบุ เห็นชอบกฎหมาย ร้อยละ 32.7 ระบุ พิจารณา กฎหมาย ร้อยละ 30.3 ระบุพิจารณา งบประมาณรายจ่ายประจําปี และร้อยละ 28.7 ระบุเสนอ กฎหมาย ร้อยละ 23.7 ระบุ ช่วยเหลือ งานศพ งานบวช พบปะประชาชน ในงานต่าง ๆ ร้อยละ 21.6 ระบุ ตั้งคณะกรรมาธิการ ชุดต่างๆและร้อยละ 14.8 ระบุ เห็นชอบ ตั้ง คน เป็น นายกรัฐมนตรี
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนเข้าใจว่า หน้าที่ของผู้แทนราษฎร คือ ช่วยเหลือ งานศพ งานบวช พบปะประชาชนในงานต่าง ๆ มีสัดส่วนมากกว่า หน้าที่ในการเห็นชอบตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีเสียด้วยซ้ํา อาจเป็นผลมาจากข่าวสารที่ออกมาไปเน้นอํานาจการตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีในมือของวุฒิสภามากกว่าหน้าที่ของผู้แทนราษฎรหรือไม่เป็นประเด็นที่น่ามีการพิจารณาเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
เอือมระอาสภาล่ม-แจกกล้วย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 ระบุ ความเสื่อมของ ส.ส. หรือผู้แทนราษฎร คือ สภาล่ม ซ้ําซาก แจกกล้วย พฤติกรรมไม่เหมาะสม ดูหนังโป๊ในสภา เสียบบัตรแทนกัน รองลงมา คือร้อยละ 91.9 ระบุ รัฐสภา ไม่เป็น ต้นแบบ ของความรักความสามัคคีของคนในชาติ แบ่งขั้ว แบ่งข้าง มุ่งแต่หาผลประโยชน์ ร้อยละ 91.0 ระบุ ผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ต้นตอ ทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ จาก การประมูลโครงการต่าง ๆ และร้อยละ 90.5 ระบุ ความเป็น ส.ส. หรือ ผู้แทนราษฎร เป็น สมบัติประจําตระกูล สืบทอดต่อ ๆ กันได้
หวังสส.ใหม่ต้องทำหน้าที่ให้ดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนคาดหวังทําหน้าที่ ส.ส.ที่ดีในสภาผู้แทนราษฎร พบว่าร้อยละ 54.9 ระบุ นาย เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล นาย ธนกร วังบุญคงชนะ นาง วลัยพร รัตนเศรษฐ จากพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 54.0 ระบุ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ นาย อิสรพงษ์ มากอําไพ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 53.6 ระบุ นายเดชทวี ศรีวิชัย จากพรรค เสรีรวมไทย ร้อยละ 50.6 ระบุ นาย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ จาก พรรค รวมพลัง ร้อยละ 50.3 ระบุ นางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันน์ จาก พรรค เพื่อชาติ และร้อยละ 48.0 ระบุ นายรองรักษ์ บุญศิริ จาก พรรคประชาภิวัฒน์ เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.3 ยังหวังมาก ถึง มากที่สุด ต่อ ผู้แทนราษฎรคนใหม่ ทําหน้าที่ที่ดี ในสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่ ร้อยละ 25.0 หวังปานกลาง และร้อยละ 7.7 หวังน้อยถึงไม่หวังเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี