‘มัลลิกา’ สะท้อนต่อสภาฯ อุ้มช่วย ‘ผู้พิการ’ ชงตั้ง ‘ฌาปนกิจเพื่อคนตาบอด’ ทั่วไทย พ่วงสางปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกร แนะแก้ปมออกที่ทับที่ทำกินราษฎร
26 มกราคม 2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นหารือกรณีการช่วยผู้พิการทั่วประเทศว่า ต้องการหารือผ่านประธานสภาไปถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม. ) ซึ่งได้รับเรื่องร้องทุกข์จากสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย นำโดยนายพัฒนชัย สระกระวี และนายกานต์ ปิงเมือง ประธานสมาคมตาบอดจังหวัดพะเยา ผู้ดำเนินงานประชาคมคนตาบอดภาคเหนือประสานงานโดยนายสุรพล เต็มสวัสดิ์ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดพะเยา เรื่องคือกลุ่มผู้พิการตาบอดอยากจะตั้งฌาปนกิจเพื่อคนตาบอดทั่วประเทศทุกจังหวัดตอนนี้ตั้งไปแล้ว 4 จังหวัดตัวอย่าง แต่ต้อง ทำการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมซึ่งต้องของบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคม เพื่อฝึกกอบรมคนพิการทุกจังหวัดเพื่อเตรียมการ แบบเดียวกับจังหวัดตัวอย่าง
“ที่จังหวัดพะเยาก็ต้องการทำและมีสมาคมประชาคมคนตาบอดไทยช่วยสนับสนุนจึงขอให้คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทบทวนมติเกี่ยวกับการพิจารณาสนับสนุนการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมนี้เสียใหม่ ให้มันสามารถเกิดขึ้นได้จริง คือให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบโดยสมาคมประชาคมคนตาบอดไทยเห็นว่ามติของอนุไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของกรรมการส่วนใหญ่ที่ทางกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวและกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้พิจารณาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเพื่อใช้ประกอบการสนับสนุนด้านงบประมาณอบรมจากกองทุนส่งเสริมฯ จึงฝากประธานสภาไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยทบทวนและทำให้เกิดขึ้นจริงได้ก็จะเป็นอานิสงส์ต่อผู้พิการทั่วประเทศ” นางมัลลิกา กล่าว
จากนั้น นางมัลลิกา ได้อภิปรายหารือเรื่องที่2 ระบุว่ารับเรื่องประสานงานจากคุณจำรัส สักลอ อดีตนายกเทศมนตรีหงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดพะเยา ได้ยื่นเรื่องที่ร้องทุกข์ไว้กับรัฐบาลแต่ไม่คืบหน้าจึงขอช่วยเหลือเรื่องที่ดินในพื้นที่ตำบลหงส์หิน จังหวัดพะเยา โดยขอให้มีการพิจารณาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรให้สำเร็จ
ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน สปก 4-01 จำนวน 1,129 ไร่ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวออกหนังสือสำคัญสำหรับหลวงหรือ นสล. ไปทับซ้อนกับที่ดินของราษฎรทำให้ราษฎรเดือดร้อนแล้วทางราชการแต่ละส่วนมีหนังสือตอบกลับกันไปมาแต่ไม่มีข้อยุติ ซึ่งหนังสือเหล่านั้นเรียนตั้งแต่นายอำเภอถึงอธิบดีรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่เรียบร้อย ราษฎรก็ถูกรุกไล่และเดือดร้อนอยู่นั่นเอง สรุปคือต้องการให้ยกเลิกนสล. ปี 2529 เพราะหนังสือนั้นออกมาทีหลังใบเอกสารสิทธิ์ทำกิน 2527 ของราษฎร แนวทางที่ทำได้คือคืนพื้นที่ให้ สปก. เพื่อนำไปจัดสรรให้กับประชาชนจำนวนร่วม 100 ราย ในเขต 2 ตำบล นี้เสียตามแนวท่งของ สปก.4-01 แบบนี้จะเป็นการบูรณาการและเป็นทางออกที่ดีได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี