จัดกำลัง 9 หมื่นนาย/ดูแลคุมการเลือกตั้ง
ตำรวจตังวอร์รูม
สตช.กำชับตร.วางตัวเป็นกลางยึดหลักก.ม.
ปธ.กกต.ตั้ง 30 อนุก.ก.ชี้ขาดข้อโต้แย้งรับลต.
ปชป.มอบธง 33 ผู้สมัครสส.ปักทั่วกทม.
พปชร.ฟิตจัดเดินสายปราศรัยทั้งเดือน
พท.ส่ง‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม’ชิงนายกฯ
“บิ๊กตู่”สะดุ้ง บวงสรวง เจ้าพ่อหอกลอง ธูปจี้แขน ระหว่างเป็นประธานพิธี ครบ 136 ปีกระทรวงกลาโหม-ผบ.เหล่าทัพตบเท้าร่วมพิธี กวักมือเรียกสื่อยกบทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 6 “ไร้รักไร้ผล” ฝากให้ช่วยคิด อย่าให้เกิดวิกฤตการณ์ ทำชาติเสียหาย
ปัดตอบส่งสัญญาณหลังเลือกตั้งวุ่น ย้ำเพลง‘ไร้รักไร้ผล’ปลุกใจคนไทย อย่าลืม‘ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’วอนรัฐ-เอกชน-ปชช.ช่วยดูแลบ้านเมือง ให้เกิดความสงบปรองดอง สามัคคี ยอมรับหลายคนความคิดต่าง แต่อย่าทำคนในชาติแตกแยก’เฉลิมชัย-ตั๊น’นำทัพปักธงชัย ปชป.ทั่วกทม.ลั่นได้ สส.แน่นอน100% จะไม่ทำให้ผิดหวัง ด้าน’พปชร.’วางโปรแกรมเดินสายปราศรัยตลอดเดือน เมษายน แน่นเอี้ยด หวังปักธง ส.ส.ตามเป้า ด้าน’พท.’เสนอชื่อ’อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม’ชิงนายกฯ
เมื่อเวลา 07.40น.วันที่ 5เมษายน2566 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 136 ปี โดยมี พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ยกเว้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งติดภารกิจ มอบ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เสนาธิการทหารบก เข้าร่วมพิธีแทน
‘บิ๊กตู่’มีสะดุ้งถูกปลายธูปร้อนจิ้มมือ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำสักการะเจ้าพ่อหอกลองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญภายในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนจะร่วมพิธีสงฆ์ ที่ห้องพินิตประชานาถ ในศาลาว่าการกลาโหม ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ ปักธูปบวงสรวงลงบนเครื่องเซ่นในพิธีสักการะเจ้าพ่อหอกลอง มีบางจังหวะที่ไม่ถนัด เนื่องจากมือขวายังคงมีอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งบางช่วงมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมือถูกปลายธูปร้อน ก่อนยกมือซ้ายขึ่นมาปัดอยู่หลายครั้ง สำหรับวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ตรงกับวันที่ 8เมษายน ของทุกปี เพื่อให้กำลังพลทุกนายของกระทรวงกลาโหมได้ระลึก ยึดมั่นและธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมกันกับทุกภาคส่วน อันจะนำมาซึ่งความผาสุกของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยปณิธาน“กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง
ฝากช่วยคิดอย่าเกิดวิกฤต-ชาติเสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงวาระวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ136ปี กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ว่า ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงก่อตั้งมา เราในฐานะเป็นลูกเป็นหลาน ก็ต้องช่วยกันรักษาธำรงไว้ ความเข้มแข็ง เกียรติยศเกียรติศักดิ์ของเหล่าทัพและของกระทรวงกลาโหม พวกเราต้องรักบ้านรักเมืองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อบ่อเกิดของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตนเคยพูดไปแล้วว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีปัญหามากๆจะทำให้โอกาสหลายๆอย่างหายไปทันที ในมุมมองของต่างประเทศ พร้อมฝากบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6”ไร้รักไร้ผล”จำได้ไหม ให้ลองไปเปิดฟังดู”อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล หากชาติย่อยยับและอับจน ประชาชนจะสุขอยู่ได้อย่างไร”ไปคิดดู ฝากทุกคนด้วย ฝากประชาชนทุกคนช่วยกันคิดด้วยก็แล้วกัน ทำให้บ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เพื่อเราจะก้าวเข้าสู่เวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรีและสง่างาม
เพราะวันนี้มุมมองต่างๆของหลายประเทศและขอให้ติดตามพัฒนาการด้านความมั่นคงของทุกประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน หากบ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยเราจะสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ในทุกมิติทั้งความมั่นคง สิ่งแวดล้อม สังคม สุขภาพ ช่วยกันก็แล้วกัน ขอให้ช่วยกันนำพาบ้านเมืองไปสู่ความปลอดภัยสันติสุข อย่าให้เกิดวิกฤตการณ์อะไรต่างๆ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายก็แล้วกัน ในช่วงนี้เราช่วงต่อๆไป
สัญญาณวุ่นวายหรือไม่ไปคิดเอาเอง
เมื่อถามย้ำว่า มองว่าจะมีสัญญาณถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกฯระบุว่า”ขอให้ไปคิดเอาเอง”เมื่อถามว่าส่วนสัญญาณความวุ่นวายเกิดมาจากพรรคขั้วตรงข้ามรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ไม่เกี่ยวๆ หลายๆอย่างก็รู้อยู่แล้ว ถามแบบไม่รู้เรื่องได้อย่างไร บ้านเมืองมันจะสงบได้ด้วยอะไรล่ะ เมื่อย้ำว่าบางเรื่องพูดไม่ได้ใช่หรือไม่ นายกฯระบุเพียงสั้นๆว่า”ไปคิดเอาเอง” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ควักมือเรียกผู้สื่อข่าวเพื่อให้มาสัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าว
วอนทุกฝ่ายช่วยดูแลบ้านเมืองให้สงบ
เวลา10.00น.ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม2550 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันครอบครัวและพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณประจำปี2566 โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้ไปงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 136ปี กระทรวงกลาโหม ทุกรัฐบาลมีการพัฒนา ในที่สุดคือความเข้าใจ ว่าเราจะนำพาประเทศไปในทิศทางใด ให้มีรายได้มากขึ้นเพื่อดูแลประชาชนที่มีความยากลำบาก ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรักความสมัครสมานสามัคคีที่เราจะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง วันนี้ต้องขอบคุณภาคเอกชนองค์กรต่างๆที่ออกมาช่วยกัน หลายปีที่อยู่ร่วมกันมาต้องขอบคุณทุกท่านที่มาวันนี้และประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าก็ด้วยคนไทยทุกคนร่วมกันช่วยกัน ฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมของเรารองรับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด โดยการติดตามข่าวสารรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์
โลกเปลี่ยนไป-ปชช.ย่อมมีคิดเห็นต่าง
“ผมอยากจะกล่าวถึงถ้าทุกคนจำได้ มีบทพระราชนิพนธ์บทหนึ่งรู้สึกจะเป็นเพลงด้วย พึ่งนึกออกเมื่อตอนเช้า รัชกาลที่6 ชื่อเพลงไร้รักไร้ผล อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน ประชาชนจะสุขอยู่ได้อย่างไรทุกอย่าง ถ้าเราไม่รักกัน ไม่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยบ้านเมืองเราเดินหน้าไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเรายังมีปัญหาอยู่ ผมคิดว่าก็ยังมีอยู่บ้าง แต่วันนี้ทุกอย่างเป็นธรรมดาโลกเจริญแล้ว หลายอย่างเปิดกว้างมากขึ้น หลายคนมีความคิดที่แตกต่าง ผมไม่ว่าอะไรตรงนี้ แต่ทำอย่างไรจะกลับมาร่วมกันทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ครอบครัวมีคุณภาพ-สังคมไม่แตกแยก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้นี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ ขอพรขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ เพราะเป็นปีใหม่ของไทย อีกประการหนึ่งทำบุญแล้วก็ต้องทำกุศล การทำกุศลทำอะไรก็ได้ให้บ้านเมืองให้ประชาชน ให้คนได้กุศล ทำบุญให้พระ ให้วัด สิ่งต่างๆจะตอบสนองให้ทุกคนมีความสุข สิ่งสำคัญวันนี้เราต้องให้ความสำคัญกับสังคมครอบครัวให้มากที่สุด อย่าลืมว่าบ้านเมืองเราไม่อยู่ได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง เราอยู่ได้ด้วยพวกเราทุกคน70ล้านคนจะต้องช่วยกันดูแลสังคม ภาคเอกชนที่มีกำไรก็ต้องช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ทำให้บ้านเมืองสมัครสมานสามัคคีกันให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมของเราอย่าให้เป็นสังคมที่มีความแตกแยก สังคมที่สำคัญคือ สังคมครอบครัวจะต้องเป็นครอบครัวที่มีคุณภาพ ยากดีมีจนอย่างไรก็เป็นครอบครัวที่มีคุณภาพ รัฐบาลก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
นายกฯกล่าวอีกว่า วันนี้พูดตั้งแต่เช้าก็พยายามพูดทุกวันในฐานะเป็นนายกฯจะไม่พูดได้อย่างไรก็ต้องพูดให้เข้าใจว่านายกฯคิดอย่างไรรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไร ถ้าไม่พูดก็ไม่รู้จะร่วมมือกันได้อย่างไร วันนี้ดีใจได้เจอผู้สูงอายุและขอชื่นชมปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินแห่งชาติ โนรา ทุกคนมีความหมาย ทุกคนเป็นคนไทย แล้วอย่าลืมชาติศาสน์ กษัตริย์ 3สถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ นี่คือพื้นฐานของประเทศไทย
ไม่มีนัย-การข่าวยังไม่มี-มีแค่ใช้ปากกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเยี่ยมชมนิทรรศการงานวันผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ว่า วันนี้เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำเพื่อประเทศชาติ นายกฯ ต้องคิดแบบนี้ ทำสิ่งดีๆ มันก็ต้องอดทน เหนื่อยก็ต้องยอม เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯ ระวังเรื่องการแสดงสัญลักษณ์หมายเลข22 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”ต้องระวังเขาไม่อยากให้มีปัญหา บางคนหวังดีก็ดี บางคนหวังไม่ดีมันก็ไม่ดี เราก็ไม่อยากทำให้วุ่นวาย”
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีการหยิบยกบทเพลงพระราชนิพนธ์ของ รัชกาลที่6ชื่อเพลง ไร้รักไร้ผล มาพูดในวันเดียวกันถึง 2ครั้ง มีนัยยะอะไรหรือไม่ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไปที่ศาลากระทรวงกลาโหมมา ก็ได้พูดกับข้าราชการของกระทรวงกลาโหมว่าพวกเราต้องช่วยกันรักษาและสานต่อ สิ่งที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ซึ่งเพลงๆนี้ก็มีความหมายว่าคนในชาติจะต้องร่วมมือกัน ไม่ได้ปะปนอย่างอื่น
จากนั้นนายกฯย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า แล้วมันเสียหายอะไรมากล่ะเพลงนี้ โดยผู้สื่อข่าวกล่าวตอบว่า เป็นเพลงปลุกใจให้คนรักชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่า”ก็ให้ไปคิดกันเอาเองว่าประเทศชาติจะอยู่กันอย่างไร ก็เป็นเรื่องของพวกเรา และเป็นเรื่องกระบวนการประชาธิปไตยของพวกเธอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันให้กองทัพไปคิดแบบนี้”เมื่อถามต่อว่า ในทางการข่าว ในเรื่องของความสงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไรในช่วงนี้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า”ก็ไม่มีอะไร ยังไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่ใช้ปากอะไรกันหน่อย เราก็ไม่ไปต่อสู้อะไรกับใครอยู่แล้ว เพียงแต่มันจะทำให้เหตุการณ์บานปลายอะไรหรือเปล่าเราไม่รู้ แล้วมันก็จะไปเดือดร้อนคนอื่น เจ้าหน้าที่ก็จะต้องทำงาน มันก็จะมีปัญหาต่อไปอีก ถ้ามันไม่มีคนที่จะคิดทำอะไรที่ไม่ดี มันก็เรียบร้อย แล้วเขาทำเพื่อมุ่งหวังอะไรกันล่ะ ก็ไม่รู้”
ยอมรับเหนื่อยเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวก็หาย
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อ8ปีที่ผ่านมา นายกฯ สามารถทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยลงได้ หลังจากนี้คิดว่าจะทำได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวเลี่ยงโดยตอบเพียงว่า”จ้าๆๆ”ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า รับสมัครเลือกตั้งแล้วเป็นอย่างไรนายกฯ กล่าวว่า ก็ดูดี ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า เหนื่อยไหม นายกฯกล่าวว่า”ถามว่าเหนื่อยไหม ก็มันมีกำลังใจที่จะทำเพื่อคนอื่นไง มันไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยเดี๋ยวมันก็ฟื้นเดี๋ยวมันก็หาย แต่ถ้าไม่ทำมันก็เหนื่อยพูด พูดอย่างเดียวไง” เมื่อถามว่า กำหนดการลงพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวก็มีแหละ เมื่อถามถึงการเตรียมตัวปราศรัยใหญ่วันที่ 7เม.ย.นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ต้องเตรียมหรอก ถ้าฉันไป ก็รู้เองแหละ”
พท.ยื่น‘อิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม’ชิงนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคาร อราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรับแจ้งรายชื่อบุคคล ที่พรรคการเมืองมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน2566 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่2 ของการสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ เวลา 14.55น.นายประเสริฐ จันทรรวงทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 2.นายเศรษฐา ทวีสินและ3.นายชัยเกษม นิติสิริ
ปราศรัยใหญ่พร้อมเปิดตัว 3 แคนดิเดต
ในเย็นวันเดียวกัน ทางพรรคเพื่อไทยได้จัดงานปราศรัยใหญ่ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais :หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน”ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 คนจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการด้วย
‘เฉลิมชัย-ตั๊น’นำทัพปักธงชัยทั่วกทม.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 10 ร่วมงาน”ปักธงชัยประชาธิปัตย์ นำชัยชนะทั่ว กทม.”โดยมี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคทั้ง 33เขต เข้าร่วมกิจกรรมที่ลานแม่พระธรณี
โดย น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า เมื่อ13ปีที่แล้ว ตนได้มีโอกาสลงรับสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.เขตดุสิต-ราชเทวี ครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นทางการเมืองของตนครั้งแรกที่ไม่เคยลืมและได้เข้ามาทำงานให้ ปชป.จนถึงปัจจุบัน สังกัดพรรคการเมืองเดียว วันนี้ขอให้กำลังใจผู้สมัครสส.กทม.ทุกคน ในการลงพื้นที่รณรงค์หาเสียง เพื่อนำนโยบายด้านต่างๆ ของพรรคไปบอกกล่าวให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา และการมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมทั้งขอโอกาสจากพี่น้องชาว กทม.ให้เลือกพรรค ปชป.มารับใช้ มาเป็นปากเป็นเสียงให้ชาว กทม.ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆให้ชาว กทม.อีกครั้ง ขอย้ำว่า พรรค ปชป.ไม่เคยทิ้งพื้นที่ ไม่ทิ้งปัญหา ไม่ทิ้งประชาชน
ปชป.พร้อมลั่นกลองรบลุยทั้ง33เขต
ด้าน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้พรรค ปชป.พร้อมแล้ว เราจะลั่นกลองรบสำหรับพื้นที่ กทม.พรรคมอบธงชัยให้ผู้สมัครของพรรคแต่ละคนเพื่อนำไปปักในพื้นที่ทั้ง 33เขตในกทม.ในฐานะเลขาธิการพรรค ขอเป็นตัวแทนผู้สมัคร สส.ของพรรคทุกคนในการขอแรงใจจากสมาชิกพรรคและผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรค ปชป.ทั้งในอดีตและปัจจุบันว่า วันนี้เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ยืนยันว่า เราจะปักธงปชป.ในพื้นที่กรุงเทพได้อย่างแน่นอน100% สิ่งต่างๆ ที่ผมพูดคือความรับผิดชอบ จึงขอฝากไปถึงแฟนคลับ ผู้ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดว่า วันนี้พรรค ปชป.พร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พร้อมที่จะเป็นตัวแทน เป็นปากเสียง และพรรคได้คัดบุคลากรที่จะมาเป็นผู้แทนที่มีคุณภาพ จึงมั่นใจว่าถ้าเลือกคนของเราเข้าไปเป็น ส.ส.ก็ทำงานได้ทันที วันนี้ถือเป็นวันที่ฤกษ์งามยามดีที่จะได้ลั่นกลองรบสำหรับ กทม.ในการมอบธงชัยให้ผู้สมัครนำไปปักในพื้นที่ทั้ง 33เขต ผมจึงขอแรงใจจากสมาชิกพรรค ผู้ให้การสนับสนุนทุกท่าน และเราจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง
พปชร.คิวแน่นเอี้ยดแผนปราศรัยเม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เพื่อติดตามการดำเนินการของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในเรื่องกิจกรรมการปราศรัยหาเสียง การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ และการจัดทำนโยบาย เมื่อที่วันที่ 4เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ได้หารือถึงเรื่องของการวางแผนหาเสียงและกำหนดยุทธศาสตร์เจาะลึกลงไปในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่พรรคต้องการปักธง ส.ส.ทางผู้บริหารจึงใช้เวลานานในการพูดคุยและวางแผนให้รัดกุม
สำหรับกำหนดการเตรียมเดินสายปราศรัยของหัวหน้าและแกนนำพรรคตลอดเดือน เม.ย.ได้มอบหมายให้หัวหน้าภาคแต่ละภาค และแกนนำพรรค เป็นตัวหลักรับผิดชอบในการช่วยเวทีปราศรัยหาเสียง โดยกำหนดการเบื้องต้น เริ่มจากภาคเหนือ วันที่ 6 เม.ย. จ.สุโขทัย วันที่ 7 เม.ย. จ.ตาก วันที่ 8เม.ย. จ.สมุทรสาคร วันที่ 9 เม.ย. จ.ปทุมธานี วันที่ 10 เม.ย. จ.นครปฐม และเว้นในช่วงวันหยุดสงกรานต์ จากนั้นวันที่ 19เม.ย.ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ภาคอีสาน วันที่ 22เม.ย.ที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นจะลงใต้ วันที่ 28 เม.ย. จ.สงขลา วันที่ 29 เม.ย. จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 30 เม.ย.จ.ขอนแก่น วันที่ 1 พ.ค. จ.ร้อยเอ็ด โดยภาคอีสาน และภาคใต้ คาดว่า พล.อ.ประวิตร จะนำหัวหน้าทีม นำแกนนำ และผู้บริหารปราศรัยหาเสียง และเวทีปราศรัยปิด วันที่ 12 พ.ค.นี้ ที่ กทม.
ตร.ตั้งวอร์รูมคุมลต.-ใช้กำลัง9หมื่นนาย
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษกตร.)กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวมก่อนการเลือกตั้งว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือศลต.ตร.โดยได้ลงนามเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 จะมีการเปิดศูนย์ระหว่างวันที่ 20 เมษายน-17พฤษภาคมนี้ โดยศูนย์ดังกล่าวจะมีมิติในเรื่องของการให้ความรู้ของตำรวจที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การดูแลเรื่องความปลอดภัยความเรียบร้อย และมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ซึ่งจะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามปกติก่อนการเลือกตั้งอยู่แล้วซึ่งไม่อยากให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ศลต.ตร.จะสามารถประสานงานไปได้ทั้งระดับกองบัญชาการ และกองบังคับการ รวมถึงดูแลประเมินสถานการณ์ และจัดกำลังตำรวจเข้าไปอยู่บริเวณคูหาเลือกตั้งซึ่งจะต้องมีการพูดคุยประชุมกันอย่างต่อเนื่องในเรื่องการปฏิบัติให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้คาดว่าจะใช้กำลังตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยมากกว่า 90,000คน
ต้องวางตัวเป็นกลาง-ยึดหลักกฎหมาย
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการกำชับและมีการดำเนินการมาโดยตลอดในห้วงที่มีการเลือกตั้งในทุกสมัยว่าข้าราชการตำรวจจะต้องวางตัวเป็นกลางและการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆจะต้องอยู่ภายใต้กฎ ระเบียบและต้องศึกษาในเรื่องของกติกา กฎการเลือกตั้งในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงนี้ด้วย เมื่อถามถึงกรณีตำรวจสามารถแสดงความคิดเห็นหรือแสดงความชอบในพรรคการเมืองได้หรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจหรือประชาชนทุกคนจะเป็นเหมือนกันในส่วนของความชอบเรื่องพรรคไหนหรือนโยบายอย่างไรเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างการไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องรักษาความเป็นกลางและดูแลความปลอดภัยดูแลทุกข์สุขของประชาชนทุกคนทุกพรรคเท่าเทียมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี