เจาะฐานเมือง‘ร้อยเอ็ด’ 8 เขตเลือกตั้ง ‘เพื่อไทย’ยังเป็นต่อ แต่ประมาท ‘หน้าใหม่’ ไม่ได้ วัดศรัทธาประชาชน ‘คนเมืองเกินร้อย’ ไว้ใจใครให้เข้าสภาฯ
เจาะสนามเลือกตั้งวันนี้ ขยับมาทาง “ภาคอีสาน”อย่าง...
ร้อยเอ็ด!!!
ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 “ร้อยเอ็ด” มีประชากรประมาณถึง 1.3 ล้านคน นับเป็น “จังหวัดใหญ่” มี 20 อำเภอ การแบ่งเขตเลือกตั้งล่าสุด ได้เพิ่มมาเป็นทั้งหมด “8 เขตเลือกตั้ง” จากเดิมมี 7 เขตเลือกตั้ง ที่สำคัญร้อยเอ็ดเป็นฐานเสียงของ “พรรคเพื่อไทย” ครองพื้นที่อย่าง “เหนียวแน่น” มาตลอด มาเริ่มเจาะกันเลยที่...
#เขต 1
ถือเป็นเขตที่น่าจับตามากที่สุด เพราะเขตนี้คือ “บ้านใหญ่” ของตระกูล “จุรีมาศ” ที่ยึดตำแหน่ง ส.ส.มาแล้วถึง “8 สมัย” ตั้งแต่ปี2529 อย่าง “อนุรักษ์ จุรีมาศ” จาก “พรรคชาติไทยพัฒนา”
“อนุรักษ์” มีดีกรีเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นรองหัวหน้าพรรค มี “ประสบการณ์ทางการเมืองสูง-เทคนิคแพรวพราว” มาพร้อมกับสโลแกน “รับฟัง ทำจริง ยืนหยัดชัดเจน”
ถือได้ว่าเป็น “บ้านใหญ่” ตัวจริงของ จ.ร้อยเอ็ด มีกลุ่มการเมืองท้องถิ่น กลุ่ม อบจ.ร้อยเอ็ด นับ 10 คน และมีฐานเสียงใหญ่ในเขต อ.เมืองร้อยเอ็ด โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมือง อนุรักษ์ มี “สหายเกลอ” คือ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดให้การสนับสนุนเหนียวแน่น
ทว่า...ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่า “บ้านใหญ่จุรีมาศ” จะ “เหนื่อย” แบบ “หืดขึ้นคอ” กว่าทุกครั้งแน่นอน เพราะคู่แข่งที่เคยต่อสู้กันมาตั้งแต่ “รุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก” ถึงขนาด “พ่อเคยชนะลูก” ก็เคยชนะมาแล้ว
ปัจจุบันย้ายขั้วมาสังกัด “พรรคเพื่อไทย” คือ “สถาพร ว่องสัธนพงษ์” คนรุ่นใหม่ไฟแรง ลูกชายคนเล็กของ “สานิต ว่องสัธนพงษ์” อดีต ส.อบจ. 6 สมัย อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พ.ศ. 2544 ซึ่งชนะอนุรักษ์ จุรีมาศ เป็น ส.ส. 1 สมัย
ครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสดีที่สุด ถือเป็น “นัดล้างตา ลบรอยแค้น” ก็ว่าได้ เพราะกระแสพรรคเพื่อไทยกำลังมาแรง และดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนผู้สมัครรายอื่นที่เริ่มเคลื่อนไหวในพื้นที่ อย่างเช่น “นภาพร พวงช้อย” จาก “พรรคประชาธิปัตย์” , “เกียรติศักดิ์ ไคนุ่นกา” จาก “พรรคก้าวไกล” , “พงศกรณ์ ตั้งกิตติ์ตระกูล” จาก “พรรคพลังประชารัฐ“ และ “สมศรี แสงใสรัตน์” จาก “พรรคเสรีรวมไทย” เป็นต้น
#เขต 2
“ฉลาด ขามช่วง” จากพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. หลายสมัย ยังคงเจ้าของพื้นที่มี “ฐานคะแนนเหนียวแน่น” ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาตลอด เชื่อว่าจะได้ใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่เหมือนเดิม
คู่แข่งที่มาท้าชิงในครั้งนี้มี “เอกรัฐ พลซื่อ” จากพรรคพลังประชารัฐ บุตรชาย “เอกภาพ พลซื่อ” ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ส. และอดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ถือเป็นคู่แข่งคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอยู่เหมือนกันสำหรับเวลานี้
นอกจากนี้ยังมี “ทินกร อ่อนประทุม” อดีต ส.อบจ.อำเภอเชียงขวัญ เคยร่วมต่อสู้ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ มายาวนาน แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ครั้งนี้ย้ายค่ายมาอยู่ “พรรคก้าวไกล” และยังมีจาก “เสรีรวมไทย” อย่าง “นิวัฒนวัฒน์ หงส์ศรีเมือง” ด้วย แต่ถึงจะมีลุ้น ก็คง “สู้เหนื่อย” กับ “ตัวตึง” ในพื้นที่เหมือนกัน
#เขต 3
“นิรมิต สุจารี” จากพรรคเพื่อไทยอีกคน เจ้าของพื้นที่มี “ภาษีดีที่สุด” ต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง “รัชนี พลซื่อ” อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ภรรยา “เอกภาพ พลซื่อ” อดีต ส.ส. และอดีต นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกใบแดงและตัดสิทธิทางการเมืองเมื่อเร็ว ๆ นี้ ลงสนามต่อสู้ในนามพลังประชารัฐ
#เขต 4
เดิม “นิรันดร์ นาเมืองรักษ์” จากเพื่อไทย ที่ยึดเก้าอี้มาตลอด แต่คราวนี้เจ้าตัวขอขยับขอไปเป็น “บัญชีรายชื่อ” จึงส่ง “นรากร นาเมืองรักษ์” หรือส.จ.ตั้น อดีต ส.อบจ.เขตอำเภอเสลภูมิ ลงสู้ศึกแทนผู้เป็นพ่อ ก็จะได้ลูกขยัน ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้านต่าง ๆ มาตลอด เพราะ นิรันดร์ ถือว่าเก๋าเกมแพรวพราว และเป็น “หัวหน้าทีมเพื่อไทยร้อยเอ็ด” เชื่อว่าไม่มีปัญหาถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่มีพลิก
ขณะที่คู่แข่งคือ “อินทร์แปลง แก้วบุรี” จากพรรคเสรีรวมไทย คนขยันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่เป็นนิจหนึ่งในผู้อาสามา...
“ล้มยักษ์”!!!
ขณะที่ “กัญจน์พร วงศ์เวไนย” อดีต ส.อบจ.อำเภอเสลภูมิ จากพลังประชารัฐ , “ชัยชนะ รัตนชัยฤทธิ์” จากพรรคไทยสร้างไทย และ “เอกชัย พลซื่อ” จากพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ท้าชิงในเขต แต่คงสู้เหนื่อย เมื่อเทียบกับคู่ท้าชิงก่อนหน้า
#เขต 5
เป็นฐานที่มั่นเดิมของ “คนเสื้อแดง นปช.” ที่มี “นิสิต สินธุไพร” อดีต ส.ส.เพื่อไทย หลายสมัย แกนนำ นปช. “ชักธงรบ ปักธงชัย” ไว้ที่นี่มาอย่างยาวนาน
แต่หลังมีปัญหาทางการเมือง นิสิต จึงส่ง “ศรีภรรยา” อย่าง “เอมอร สินธุไพร” ลงแทน แต่ผู้เป็นแม่อยากเปิดโอกาสให้ “ลูก” เนื่องจากอายุมากแล้ว จึงส่ง “จิราพร สินธุไพร” ที่ถือเป็นดาวสภาดวงใหม่ ฝีปากกล้า มักจะอภิปรายในสภาด้วยข้อมูล “แน่นเป๊ะ”
“จิราพร” เป็นที่ยอมรับของบรรดา ส.ส.ทั้งเก่า-ใหม่มาแล้ว มีแฟนคลับเป็นกลุ่มวัยรุ่น-เยาวชนจำนวนมาก เขตนี้นับว่ายากที่จะมีใครสู้ได้ เพราะ “แข็งโป๊ก” ขณะที่คู่แข่งมาจาก “เสรีรวมไทย” อย่าง “อภินันท์ ศรีปัญญา” ชื่อชั้นถือว่ายัง “ห่างกันไกล” หลายขุม
#เขต 6
เพื่อไทยยังคง “ยึดหัวหาด” กับ “กิตติ สมทรัพย์” อดีตส.ส.หลายสมัย ยากที่จะมีใครคว่ำได้ ขณะที่คู่แข่งเป็นอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล ที่ย้ายไปซบ “พรรคภูมิใจไทย” เพื่อลงสู้ศึกครั้งนี้คือ “คารม พลพรกลาง”
ขณะที่ “นายธนชัย สินธุไพร” ลูกชาย “จุรีพร สินธุไพร” ลงเลือกตั้งครั้งนี้สวมเสื้อ “ไทยสร้างไทย”และ “กฤษณะ แสนสำโรง” อดีต ส.อบจ.เขตอำเภอสุวรรณภูมิ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหินกอง จากพรรคเสรีรวมไทย ก็เตรียมลงชิงชัยด้วย
#เขต 7
“ศักดา คงเพชร” อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในยุค “รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร” อดีตส.ส. 7 สมัย จากพรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่ แม้การเลือกตั้ง “ส.อบจ.” ที่ผ่านมาล่าสุด ทั้งภรรยา-ลูกชาย จะแพ้การเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งสนามใหญ่ มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนยังไว้วางใจผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม
ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ขยันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ทำกิจกรรมทางการเมือง เตรียมความพร้อมมานานคือ “เมธี พรมสิงห์“ จากพรรคเสรีรวมไทย และ “ชัชวาล แพทย์ยาไทย“ จากพรรคไทยสร้างไทย ถือว่ามีโอกาสไม่น้อยเช่นกัน
#เขต 8
“เวียง วรเชษฐ์” อดีต ส.ส.หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม เป็นนักปราศรัย “ขวัญใจชาวบ้าน” หลังจากสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าสู่สภาและทำงานกับเพื่อไทยมาช่วงหนึ่ง และห่างสนามไปนาน
ล่าสุดได้ย้ายไปลงสมัครรับเลือกตั้งในนาม “พรรคภูมิใจไทย” การลงชิงชัยครั้งนี้ ต้องต่อสู้กับ “ชญาภา สินธุไพร” รองโฆษกเพื่อไทย นักปราศรัย “ฝีปากกล้า” อีกคน น้องสาวน้ำ จิราพร ลูกสาวคนโต นิสิต สินธุไพร
ขณะเดียวกัน “จุรีพร สินธุไพร” น้องสาวนิสิต สินธุไพร ก็ลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคไทยสร้างไทย ด้วย ถือเป็นการ “ฝ่ากระแส” คนในครอบครัวสินธุไพร ที่หนุน “เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์” ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด จนชาวร้อยเอ็ด “อึ้งกิมกี่” ว่า เกิดอะไรขึ้นในตระกูลนี้ พี่น้องต้องมาต่อสู้กับคู่แข่งที่พี่ชายสนับสนุนในนามพรรคเพื่อไทย และท้ายที่สุดก็สู้ไม่ได้
เขต 8 ถือว่า “เดือด” พอสมควร เพราะอาต้องมาต่อสู้กับหลานอีก และถือว่าใหม่ “ทั้งคู่” ระหว่างเพื่อไทย-ไทยสร้างไทย
จึงต้องลุ้นกันหนักถึงนาทีสุดท้าย ว่าใครคือตัวจริงใครคือคนที่ถูกพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจมากที่สุดคนนั้นคือ “ผู้ชนะ” ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ที่จะมาถึงอีกไม่ช้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี