เลขาฯกกต.ยืนยัน “ECT REPORT” รู้ผลทันเหตุการณ์แม่นยำ ย้ำรู้ผลคะแนนเลือกตั้ง 4 ทุ่ม เกือบ 100% ยันไม่ใช้แอปพลิเคชั่นรายงานผลเลือกตั้ง ชี้แก้ไขข้อมูลไม่ได้หากรายงานตัวเลขผิด พร้อมตั้งเป้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 80 สรุปยอดลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2.1ล้านคน ใกล้เคียงปี’62
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ที่โรงแรมทีเคพาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเสริมสร้างความรู้และความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสื่อมวลชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 โดยกล่าวว่าสำนักงาน กกต.มีภารกิจที่สำคัญในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสื่อมวลชนเพื่อช่วยรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงและเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง กระบวนการ และชั้นตอนการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและส่งเสริมการปฏิบัติงานของสำนักงาน กกต.
ความร่วมมือของสื่อมวลชนและเครือข่าย ถือเป็นกลไกสำคัญเพราะการจัดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ย่อมเกิดจากการที่ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและมีความเชื่อถือในการปฏิบัติงานของกกต.หวังว่าสื่อมวลชนและเครือข่ายจะนำความรู้ไปใช้ประกอบการปฏิบัติงานและช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลการเลือกตั้ง14 พ.ค. 66พร้อมขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดสัมมนาเป็นอย่างดี
ส่วนการรายงานผลการเลือกตั้งจะมีทั้งแบบทางการ และไม่ทางการ โดยผลแบบไม่ทางการเป็นการอำนวยความสะดวกสื่อมวลชนให้ทราบว่า พรรคการเมืองใดได้คะแนนเท่าไร แต่ไม่ใช่แบบเรียลไทม์ เพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมาก จึงเป็นผลแบบใบรายงานผลการนับคะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งโดยจะแปะที่หน้าหน่วยเลือกตั้งนั้นๆ คาดว่าไม่เกินหนึ่งทุ่ม จะรายผลคะแนนแรกหลังปิดหีบ17.00น.จากนั้นจะทยอยป้อนข้อมูลเข้าระบบ คาดว่าจะทราบผลไม่เป็นทางการได้ ไม่เกิน22.00น.เกือบ100%และคะแนนจะอัพเดททุกครึ่งชั่วโมง หลังการเริ่มนับคะแนน
ทั้งนี้ การที่ กกต.ไม่ใช้แอพพลิเคชันในการรายงานผลคะแนน เพราะแอพพลิเคชัน ไม่สามารถแก้ไขความถูกต้องได้ หากมีการใส่ผลคะแนนผิดพลาด แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ผลคะแนนจะทราบเร็วขึ้นแน่นอนกว่าเดิม และขอให้ประชาชนติดตามช่องทางจากสื่อมวลชนเพื่อความรวดเร็ว หลังจากนี้ จะมีการซักซ้อมกับสื่อมวลชนอีกครั้งว่าจะเข้ามาใช้ระบบของ กกต.อย่างไรซึ่งขณะนี้จัดทำระบบเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องความโปร่งใส ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องบัตรทำไมไม่เอื้ออำนวยให้มีสัญลักษณ์พรรคนั้น นายแสวง ขอชี้แจงว่า ตามกฎหมายกำหนดไว้ทั้งสีของบัตร หมายเลขผู้สมัคร กฎหมายเขียนว่า ต้องแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งสองแบบ แต่ถ้าอยากทำให้มีชื่อสัญลักษณ์พรรคมันก็จะไม่เป็นไปตามกฎหมาย และเกิดความสับสนได้ เป็นเหตุให้คนไปร้องว่ากกต.ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ส่วนหมายเลขที่อยากให้เป็นหมายเลขเดียวกัน กกต. สนับสนุนและเสนอให้เป็นหมายเลขเดียวกันแต่ทางสภาฯเป็นคนแก้ไขซึ่งเราก็ต้องทำตามกฎหมาย
ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง กกต.จะอำนวยความสะดวก ในเรื่องข้อมูลผู้สมัครที่ปกติมีอยู่หน้าหน่วย แต่แต่ครั้งนี้จะจัดทำป้ายไวนิลให้ข้อมูลผู้กับผู้ไปใช้สิทธิ ที่สามารถเงยหน้าดูจากคูหาและมองเห็นได้ ซึ่งการอำนวยความสะดวกนี้ เชื่อว่าจะสามารถลดจำนวนบัตรเสียให้น้อยลง ซึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ตั้งเป้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 80
นายแสวง กล่าวถึงกรณีประชาชนแห่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าถึงเมื่อวันที่9เม.ย.เป็นวันสุดท้ายจนระบบล่มว่าเมื่อคืนทางสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่าเหตุที่ระบบล่ม เพราะประชาชนเข้าไปลงทะเบียนจำนวนมากในช่วงเวลา21.00น.ทางสำนักบริหารการทะเบียน ชี้แจงว่าศักยภาพของระบบสามารถรองรับคนละลงทะเบียนได้4,000คนต่อวินาที ส่วนจะมีการขยายระยะเวลาลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่นั้น ขอให้ทางสำนักบริหารการทะเบียนพิจารณาแก้ไขปัญหาก่อนว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน
โดย กกต.สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 25 มี.ค.ถึง9เม.ย. 66 รวมทั้งสิ้น 2,153,450 คน แบ่งเป็นผู้ต้องการใช้สิทธิลงคะแนนนอกและในเขตเลือกตั้ง 2,042,381 คน นอกราชอาณาจักร 111,069 คน ขณะนี้ใกล้เคียงกับปี2562 คือกว่า 2ล้านคนซึ่งก็บ่งชี้ว่าคนกลุ่มนี้ไม่สะดวกที่จะไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี