เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 10 เขต ที่จะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 14 พ.ค.2566 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้นขึ้นทุกพื้นที่ อย่างไรก็ดี ที่น่าสนใจ คือ นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ หรือ “รองปุย” อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งนับว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม และยังมีนายวุฒิพงษ์ เหลืองอุดมชัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ นายธนายุทธ ยืนยั่ง จากพรรคก้าวไกล นายพีรภัทร ทองธีรสกุล จากพรรคเพื่อไทย ล้วนเป็นคู่แข่งคนสำคัญด้วย ส่วนผู้สมัครรายอื่นก็เป็นตัวสอดแทรก ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 1 นี้มีผู้สมัคร 11 คน จึงทำให้เป็นอีกเขตพื้นที่เลือกตั้งที่มีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นอีกเขตหนึ่งของสนามเลือกตั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ในครั้งนี้

โดย นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ หรือ “รองปุย” ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำรถหาเสียง พร้อมทีมงานลงพื้นที่ติดป้ายหาเสียงตามหมู่บ้าน ชุมชน และตามถนนสองข้างทาง ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองบุรีรัมย์ (เฉพาะตำบลในเมือง ตำบลบ้านบัว ตำบลพระครู ตำบลถลุงเหล็ก ตำบลหนองตาด ตำบลบ้านยาง ตำบลบัวทอง ตำบลชุมเห็ด ตำบลกลันทา ตำบลกระสัง ตำบลสะแกโพรง และ ตำบลลุมปุ๊ก) อำเภอบ้านด่าน (เฉพาะ ตำบลปราสาท และ ตำบลบ้านด่าน)

นายเจษฎากร กล่าวว่า วันนี้ พี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้ง มีกระแสตอบรับในส่วนของนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่สามารถขับเคลื่อนได้ ไม่เป็นนโยบายที่อยู่ในฝันมาตลอด วันนี้สิ่งหนึ่งที่ในพื้นที่กระแสตอบรับดีมากก็คือ บัตรประชารัฐ 700 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000  - 4,000  - 5,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายที่เข้าถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี ประชาชนได้รับผลประโยชน์ในการดำรงชีวิตดูแลเรื่องสวัสดิการ

นายเจษฎากร กล่าวต่อว่า อีกนโยบายหนึ่งที่เป็นที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจมากในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ก็คือ นโยบายแปลง สปก.ให้เป็นโฉนด ซึ่งก็ยังมีปัญหาในเขต จ.บุรีรัมย์ ในเรื่องของที่ดินทำกิน การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนยังมีปัญหามาก เนื่องจากไม่สามารถมีเอกสารสิทธิ์ในการทำกินได้

“วันนี้ ผมเองในฐานะเป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ ขออาสารับใช้พี่น้องประชาชน ให้การสนับสนุน เปลี่ยน เพื่อปรับปรุงในสิ่งที่ดีขึ้น เป็นนโยบายที่เราสามารถทำได้ทันที” นายเจษฎากร กล่าว

นายเจษฎากร กล่าวต่อด้วยว่า ในเรื่องการแข่งขัน เขตนี้แชมป์เก่าเป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่วนตัวมองว่าการแข่งขันทางการเมืองแต่ละพื้นที่สูงหรือไม่ เป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่อาสาเข้ามาแล้วจะต้องทำ เราไม่มองว่าจะมีการแข่งขันสูงหรือรุนแรงหรือไม่ แต่เรา ทำหน้าที่ของเราในฐานะที่เราอาสาเข้ามาทำให้ดีที่สุด ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็น้อมรับในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน เพราะสิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญที่สุด คืออาชีพการเป็นนักการเมือง การอาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง ได้รับการแต่งตั้งจากพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น ถึงวันนี้ต่อให้ตนจะได้รับผลชนะการเลือกตั้งหรือไม่ได้รับผลชนะการเลือกตั้ง ตนก็ยินดีจะรับใช้พี่น้องประชาชนและจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด

“อย่างไรก็ดี อยากฝากไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ทุกพรรคการเมือง ว่า วันนี้การเลือกตั้ง เราก้าวข้ามความขัดแย้ง ไปให้ได้ เรามองผ่านจุดนี้ไปได้ การเมืองการเลือกตั้งจะเป็นการเมืองวิถีใหม่ ที่จะทำให้พวกเรามีความสุข ผลการแพ้ชนะ เสร็จแล้วก็คือจบ จะไม่มีความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น การเลือกตั้งใครจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ก็ตาม ถ้าเขาทำดีในอีก 4 ปี ข้างหน้าก็ได้รับเลือกตั้งต่อ สิ่งนี้จะเป็นสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมทางการเมืองให้ดียิ่งขึ้น สร้างสีสันให้กับการแข่งขันในการที่จะอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน” นายเจษฎากร กล่าว

สำหรับ นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ หรือ “รองปุย” อายุ 45 ปี ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 1 หมายเลข 2 พรรคพลังประชารัฐ   จบการศึกษา ระดับปริญญาโท สาขา รัฐประศาสนศาตร์ การเมืองการปกครอง, จบหลักสูตร ประกาศนียบัตร การบริหารเศรษฐกิจสาธารณะ นักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 14 สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร สังคมเสริมสร้างสันติสุข 4 ส. รุ่นที่ 8 สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร พัฒนาการเมืองเลือกตั้งระดับสูง  กกต.รุ่นที่ 12 หลักสูตร นายกเทศมนตรี รุ่น 33

การทำงาน คณะทำงานแก้ไขปัญหา การเมืองระดับชาติ วุฒิสภาที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภาอดีตรองนายกองค์การบิหารส่วนตำบล ปี2552-2554 อดีตนายกเทศมนตรี ตำบลสามแวง ปี 2554-2561 อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ปี 2565-2566

- 006