“เจาะสนามเลือกตั้ง” ฉบับนี้ กลับมาจับตาการสู้ศึกทางภาคใต้อีกครั้ง ในพื้นที่ “สงขลา” เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ มีถึง “9 เขตเลือกตั้ง” แถมการแข่งขันยังมีดีกรีความ “เข้มข้น” สูง โดยเฉพาะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาลกันในรอบที่ผ่านมา ดังเช่น “เขตเลือกตั้งที่ 4” ถือเป็นอีกเขต ที่มีพรรคการเมืองระดับ “บิ๊กเนม” 4- 5 พรรคส่งตัวแทนลงชิงชัย มีการประลองกันอย่าง “เมามันส์” ทั้ง “บนดิน-ใต้ดิน” เพื่อเจาะฐานเสียงชาวบ้านที่มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในพื้นที่ อ.ระโนด, อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และส่วนหนึ่งของ อ.สิงหนคร
เป็นที่ทราบกันดีว่า “พรรคประชาธิปัตย์” ครองพื้นที่แห่งนี้ตลอดมา ดังสำนวน “ส่งเสาโทรเลขลงประชาชนก็เลือก” แต่แล้ว “สัญญาณการเปลี่ยนแปลง” ก็เกิดขึ้นในการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 เมื่อ “ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี” อดีตนายตำรวจ ที่ไปรับราชการนอกพื้นที่ กลับมาลงสมัคร สส. ในนาม “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ขณะนั้นถูกมองว่าเป็นเพียง “พรรคเฉพาะกิจ” ได้รับเลือกตั้ง“ล้มแชมป์” เจ้าของพื้นที่อย่าง “ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว” จากประชาธิปัตย์ ไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
แต่มาในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ที่กำหนดวันเข้าคูหากาบัตรในวันที่ 14 พ.ค. 2566 ร.ต.อ.อรุณ แชมป์เก่า โบกมือลา “ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ย้ายออกจากพลังประชารัฐตาม “ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปสวมเสื้อ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ด้วยเชื่อมั่นในกระแสของลุงตู่ ว่าจะทำให้ได้รับเลือกตั้งเข้า “สภาหินอ่อน” เป็นคำรบสอง ส่วนฟากประชาธิปัตย์ ยังไว้วางใจให้ ชัยวุฒิ ลงสู้ศึกในนามพรรค หวังทวงพื้นที่กลับคืนมา
ด้าน “พรรคภูมิใจไทย” ก็ตั้งเป้าหมาย “ปักธง” คว้าเก้าอี้ สส.ในพื้นที่เขต 4 เช่นกัน โดยส่ง “ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์” หรือ “สจ.เต้ง” อดีต สจ.เขต อ.ระโนด จ.สงขลา ลงรับสมัคร โดยมี “เจ๊เปี๊ยะ - นาที รัชกิจประการ” และ “โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์รัชกิจประการ” 2 ขุนพลแดนใต้แห่งภูมิใจไทย เดินเกมการเมืองเพื่อ“เติมเต็ม” ให้ สจ.เต้ง อย่างเต็มที่ ซึ่งสำหรับคอการเมืองประจำสภากาแฟ ต่างเข้าใจกันแล้วว่า “ประชาธิปัตย์-รวมไทยสร้างชาติ-ภูมิใจไทย” คือ 3 พรรคการเมืองหลัก ในการขับเคี่ยวแข่งขัน ณ สนามเลือกตั้งเขตนี้
ถึงกระนั้น “การมองข้ามพรรคพลังประชารัฐก็คงดูจะประมาทเกินไป” โดยพรรคพลังประชารัฐ ส่ง “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” ลงแข่งขันกับบรรดา “ตัวตึง” งานนี้สถานการณ์อาจเปลี่ยนจากการแข่งขันของ 3 พรรค กลายเป็น 4 พรรคใหญ่ที่ทั้งหัวหน้าพรรคและผู้สมัครต่างมีบารมี ซึ่งจะต้องวัดใจประชาชนว่าจะเลือกผู้สมัครของพรรคใดเข้าวินมาเป็นผู้แทน
ที่น่าสนใจคือ “การที่พลังประชารัฐของลุงป้อม ซึ่งถูกปรามาสว่ายังไม่มีจุดขายในสนามการเมืองภาคใต้เลือกส่ง ชนนพัฒฐ์ ลงสู้ศึกเลือกตั้งเขต 4 จ.สงขลา ทั้งที่ ชนนพัฒฐ์ไม่เคยเป็นนักการเมือง ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ไหนมาก่อน”เรียกได้เต็มปากว่า “ใหม่ถอดด้าม” แต่ต้องมาต่อกรกับผู้สมัครระดับ“เขี้ยวลากดิน” จากหลายพรรค กลายเป็นคำถามจากคอการเมืองว่า ลุงป้อมและเหล่าขุนพลใหญ่แห่งพลังประชารัฐคิดอะไรอยู่กันแน่
“แต่หากเป็นคนในพื้นที่จริงๆ เชื่อว่าคงจะรู้คำตอบ” เรื่องนี้ก็ต้องเท้าความย้อนไปในปี 2564-2565 ชนนพัฒฐ์ปรากฏตัวในพื้นที่เขต 4 อย่างต่อเนื่อง ในฐานะทีมงานของร.ต.อ.อรุณ เมื่อครั้งอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาชนทราบว่า จะมาเป็น “ตัวแทน” ของ ร.ต.อ.อรุณ ที่จะไม่ไปต่อบนถนนสายการเมืองเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ดังนั้น ชนนพัฒฐ์ จึงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับชาวเขต 4 จ.สงขลา แต่อย่างใด เพราะประชาชนในพื้นที่รู้จักมักคุ้นและได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับชนนพัฒฐ์ มาแล้วกว่า 2 ปี
และเมื่อตามดูการหาเสียงของชนนพัฒฐ์ ซึ่งชู “จุดแข็ง” ของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างลุงป้อม ว่าเป็นผู้รับผิดชอบ “โครงการน้ำแห่งชาติ” ที่มีแผนในการแก้ปัญหา “น้ำแล้ง-น้ำท่วม” สอดคล้องกับ “คาบสมุทรสทิงพระ”มีแผนงานในการแก้ปัญหาทั้งระบบโดยเฉพาะการ “พัฒนาทะเลสาบสงขลา”ที่ถูก “ทอดทิ้ง” จากทุกรัฐบาล จนทำให้ทะเลสาบตื้นเขิน มีน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงมา ก็ถือว่า “เกาถูกที่คัน” หาเสียงได้ถูกจุด ฉะนั้น “3 ของแข็ง” ก่อนหน้า จะประมาทพลังประชารัฐเที่ยวนี้
ไม่ได้เลยทีเดียว
สุดท้ายใครจะได้ เป็น สส.ของเขต 4 แห่ง “คาบสมุทรสทิงพระ” นั้น หากไปถามบรรดาผู้สมัคร ไม่ว่าพรรคการเมืองใดก็ต่าง “มั่นใจ” ว่าจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน แต่ในเมื่อเก้าอี้ “ผู้แทน” เขต 4 มีเพียงที่นั่งเดียว
ในขณะที่ผู้สมัครมีมากเกือบ 10 พรรคการเมือง แถมเป็นพรรคการเมืองระดับบิ๊กๆ ถึง 4 พรรค ผู้ที่จะให้
คำตอบจึงอยู่ที่ “ประชาชน” ในวันเข้าคูหาจรดปากกาลงคะแนน!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี