“เจาะสนามเลือกตั้ง” กับโค้งสุดท้าย โฟกัสไปที่อีสาน จังหวัดมุกดาหาร มี ประชากร 348,550 คน แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น “2 เขต” และจะต้องมี สส. “2 คน” โดยมีผู้สมัครเลือกตั้งทั้ง 2 เขตดังนี้

เขตเลือกตั้ง ที่ 1 อ.เมืองมุกดาหาร(ยกเว้น ต.ผึ่งแดด และ ต.ดงมอน) อ.หว้านใหญ่ และ อ.ดอนตาล มีผู้สมัคร 12 คน ได้แก่ หมายเลข 1 “ทศพล เมืองฮาม” จาก “พรรคไทยสร้างไทย” หมายเลข 2 “ปิติณัช นิธิศธานี” จาก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หมายเลข 3 “ร.ต.ต.สุเทียน ทองโสม” จาก “พรรคเสรีรวมไทย” หมายเลข 4 “สุเทพย์เซียสกุล” จาก “พรรคภูมิใจไทย” หมายเลข 5 “นนทภูมิ ตั้งปณิธานนท์” จาก “พรรคเพื่อไทย” หมายเลข 6 “วิริยะ ทองผา” จาก “พรรคพลังประชารัฐ” หมายเลข 7 “สุพจน์ สุอริยพงษ์” จาก “พรรคก้าวไกล” หมายเลข 8 “สมพงศ์ คนตรง” จาก “พรรคประชาธิปัตย์” หมายเลข 9 “ร.ต.อ.สวัสดิ์ นครชัย” จากพรรคคลองไทย หมายเลข 10 “กิ่งฟ้าอรพันธ์” จาก “พรรคประชาธิปไตยใหม่” หมายเลข 11 “ชลชาติ อาจหาญ” จาก “พรรคไทยภักดี” และหมายเลข 12 “ทรงเกียรติ์ รัตนภูมินทร์” จาก “พรรคทางเลือกใหม่”

สำหรับเขต 1 “ตัวเก็ง” เป็นการแข่งขันกันระหว่าง หมายเลข 5 นนทภูมิตั้งปณิธานนท์ จากพรรคเพื่อไทยบุตรชาย “อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์” แชมป์เดิมที่ถูก “ตัดสิทธิ์” การเมือง แม้ผู้เป็นบิดาจะถูกสกรีนออกไปแต่ยังวางทายาทลงสู้แทน และมี “ฐานคะแนน” จากคนในพื้นที่
มุกดาหาร ที่นิยมเพื่อไทย เป็นจำนวนมากในห้วงที่ผ่านมา ต้องฟาดฟันขับเคี่ยวกับ หมายเลข 6 วิริยะ ทองผา จากพรรคพลังประชารัฐ อดีตนายก อบจ.มุกดาหาร อดีต สว. อดีต สจ. หลายสมัยที่ก็มี “ฐานเสียง” ปึ้กไม้น้อยไปกว่ากัน โดยได้รับการแรงหนุนจากบรรดากลุ่ม “นักการเมืองท้องถิ่น” ทั้งสมาชิกอบจ.มุกดาหาร และนายกเทศบาล นายกอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกือบทั้งหมด ที่มี “ชื่อชั้น” อยู่ในสนามการเมืองสนามใหญ่ทุกยุค

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสจ.ในสังกัด“เทใจล้นหลาม” หลังลงพื้นที่พบปะพี่น้องอย่างต่อเนื่อง ดูแลการเมืองสนามใหญ่มาตลอด จึงมีโอกาสที่จะแข่งขันกับนนทภูมิ ได้ “สูสี” เป็นอย่างดี และมีโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้

ส่วน “ตัวสอดแทรก” เป็น “ม้ามืด”ตามมาน่าจะเป็นหมายเลข 7 สุพจน์ จากพรรคก้าวไกล แม้ฐานเสียงเดิมจะน้อย แต่คะแนนที่ได้เชื่อว่าน่าจะมาจาก “กลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่” เป็นหลัก ล้อไปกับกระแสชุมนุมต่อสู้ทางการเมืองในนามม็อบ “ชูสามนิ้ว”อย่างรุนแรงที่ผ่านมา

โดยกลุ่มวัยละอ่อนรุ่นใหม่จะแสดงออกถึงแนวความคิดหลากหลาย พบได้จากป้ายข้อความต่างๆ ที่เขียนค่อนข้างรุนแรง อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน สนามนี้จึงเป็นเหตุ ให้คาดว่าจะมีคะแนนมาจากกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 นี้ นับว่าเป็นการแข่งขันที่ “กระสุน-กระแส” มีความใกล้เคียง มีโอกาสแพ้ชนะกันได้ทั้งสองฝ่าย ทั้งเพื่อไทย กับพลังประชารัฐ โดยมีก้าวไกล เป็นม้ามืด แม้ส่องภาพรวมในพื้นที่แล้วพลังประชารัฐจะ “นำเหลื่อม” อยู่บ้างก็ตาม

เขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ อ.เมืองมุกดาหาร (ต.ผึ่งแดด และ ต.ดงมอน) อ.คำชะอี อ.หนองสูง อ.นิคมคำสร้อย และ อ.ดงหลวง มีผู้สมัครลงแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 14 คน ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ หมายเลข 1 “อภิพัศพงษ์ พัฒนาเดชาสกุล”จาก “พรรคภูมิใจไทย” หมายเลข 2 “โชควิทย์พรมดี” จาก “พรรคไทยสร้างไทย”

หมายเลข 3 “คมเพชร ไชยสุริย์” จาก “พรรคพลังธรรมใหม่” หมายเลข 4“บุญฐิณ ประทุมลี” จาก “พรรคเพื่อไทย”หมายเลข 5 “ณกร ชาลีพันธ์” จาก “พรรคก้าวไกล” หมายเลข 6 “พ.ต.ต.รัชพงษ์คามนีย์” จาก “พรรคเสรีรวมไทย” หมายเลข 7 “ภาส ไชยมี” จาก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หมายเลข 8 “วิทยา บุตรดีวงศ์” จาก “พรรคพลังประชารัฐ” หมายเลข 9 “ศศิกร เมืองมงคล” จาก “พรรคช่วยชาติ” หมายเลข 10 “ทวีศักดิ์ ประทุมลี” จาก “พรรคประชาธิปัตย์”หมายเลข 11 “ชุติมณฑน์ วรรณสิน” จาก“พรรคไทยภักดี” หมายเลข 12 “ชินกรขวัญเมือง” จาก “พรรคทางเลือกใหม่” หมายเลข 13 “สมชาย สายเจียง” จาก “พรรคคลองไทย” และหมายเลข 14 “ร.ต.ต.สมบูรณ์ ยงยุทธ” จาก “พรรคประชาธิปไตยใหม่”

ในเขต 2 ตัวหลักที่มา “ชิงปักธง”ในพื้นที่นี้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง หมายเลข 4 บุญฐิณ แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย ฐานเสียงยังคงแน่นเหนียวจากคนที่ “คลั่งไคล้” เพื่อไทยในพื้นที่มุกดาหาร

กับหมายเลข 1 อภิพัศพงศ์ หรือบิ๊กบอส จากภูมิใจไทย ที่อาศัยกระแส“คนหนุ่มไฟแรง” มากความสามารถ สามารถพูดภาษาถิ่นได้หลายภาษา เป็นคน“พื้นเพเดิม” ที่เชื่อว่ายังไง “คนบ้านเดียวกัน” ก็ต้องช่วยเหลือกัน อาศัยฐานเสียงเดิมของผู้เป็นบิดาซึ่งเป็น“อดีตสมาชิกสภาอบจ.” ฐานคะแนนเสียงก็จะมาจากกลุ่ม ส.อบจ.บางส่วน ที่ให้การสนับสนุน ถือเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่มีโอกาสเข้ามาแทรกฐานคะแนนเสียง แต่จะมีม้ามืดอย่างหมายเลข 2 โชควิทย์จากไทยสร้างไทย เข้ามา “ปันแชร์” คะแนนออกไปเช่นกัน

สนามเลือกตั้งในเขต 2 จึงนับว่าเป็นการแข่งขันอีกเขตที่มีความสูสีสูงระหว่างเพื่อไทย กับภูมิใจไทย โดยมีไทยสร้างไทยรอเป็นตาอยู่คอยเสียบ แต่เมื่อประมวลดูภาพรวมแล้ว เขตนี้ บุญฐิณแชมป์เดิมจากเพื่อไทย ยังดูมีภาษีดีกว่าเพราะด้วยครองเก้าอี้มาหลายสมัย แต่อีกมุมกระแสชาวบ้านก็ต้องการการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในการเลือกคนมาเป็นตัวแทนไว้ใช้งานในสภาฯรอบที่จะถึงนี้

ดังนั้นทั้ง 2 เขตที่กรองแล้วมีการต่อสู้กันเพียงไม่กี่พรรค ในวันที่ 14 พ.ค.ก็คงจะได้รู้กันว่าจะเป็นไปตามนี้หรือไม่