ไม่เอาพรรคต่างอุดมการณ์ร่วมรบ.
จุดยืน‘ก้าวไกล’
หวั่นบริหารงานด้วยการต่อรอง
‘เศรษฐา’กระตุกสปิริตภูมิใจไทย
โหวต‘พิธา’นั่งนายกฯปิดทางสว.
รทสช.-ชทพ.พร้อมเป็นฝ่ายค้าน
‘บิ๊กตู่’อารมณ์ดีลั่นยังเป็นนายกฯ
“ก้าวไกล” ยังเดินเกมรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังเป็นพรรคอันดับ 1 “วิโรจน์” ลั่น ไม่จำเป็นต้องจับมือพรรคต่างขั้ว กลัวสว. กระตุกจุดยืนพรรคไม่เห็นด้วย สว.โหวตนายกฯ ส่วน “เศรษฐา” กระตุกสปิริตทุกพรรคบี“ภท.-ปชป.”โหวต“พิธา”นั่งนายกฯ ปิดทาง สว.ออกเสียง อยากเห็นทุกพรรคการเมืองไทยยึดโยง ทำตามเสียง ปชช.อย่างแท้จริง“ศิธา”ปลุกสส.-สว.ตบเท้าหนุนนายกฯผ่าน 376 เสียง ยกเป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตย “สมชัย”เตือน
อย่ากดดันตั้งรบ.376เสียง ชี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เสี่ยงเกิดหายนะรอบใหม่ แนะ ‘กก.ควรปรับ-ลดนโยบายแข็งกร้าว ประชุมครม.นัดแรกหลังเลือกตั้ง3ป.พร้อมหน้า รมต.ลา13คน‘บิ๊กตู่’อารมณ์ดี บอกสื่อ‘ก็เป็นนายกฯอยู่ไง’‘วิษณุ’เชื่อไม่เกิดสุญญากาศ หาก‘ก้าวไกล’ยังตั้งไม่ได้ภายใน3เดือนระบุยังมีรัฐบาลรักษาการอยู่ ‘สันติ’ผลเลือกตั้งยังไม่นิ่ง‘พปชร.’รอถก หากถูกทาบร่วมรัฐบาล ‘ธนกร’ยัน‘รทสช.’พร้อมเป็นฝ่ายค้าน อยากเห็น‘บิ๊กตู่’วางมือ กลับไปใช้เวลากับครอบครัวหลังลุยทำงาน 8ปี อัด ก้าวไกล ดูแคลน ส.ว.สุดท้ายขอให้โหวตให้เชื่อ 310 เสียงเข้มแข็งพอ ยัน‘ทำไมผมต้องยกมือให้ เมื่อไม่ชอบนโยบายเขา’ ‘วราวุธ’ลั่นชทพ.ไม่เดือดร้อน พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ย้ำจุดยืนนโยบายยั่งยืน-เทิดทูนสถาบัน
ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล ในการเดินหน้ารวบรวมพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลภายใต้คะแนนเสียง 310 เสียง โดยในเบื้องต้น ยังไม่มีการทาบทามพรรคภูมิใจไทยที่มีคะแนนเสียงอยู่70เสียงซึ่งจะทำให้คะแนนเสียงมีเสถียรภาพและแข็งแรงจะทำให้เสียงขยับเพิ่มขึ้นเป็น380 เสียง จะทำให้พรรคก้าวไกลกับพรรคแนวร่วมไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเสียงของ ส.ว.มาช่วยโหวตสนับสนุนเพื่อให้ครบคะแนนเสียง 376 เสียงตามข้อบังคับในการนำเสนอชื่อนายกฯ
‘วิโรจน์’ลั่นไม่จำเป็นจับมือพรรคต่างขั้ว
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า
“เราไม่มีความจำเป็นต้องเอาพรรคที่มีอุดมการณ์ไม่ตรงกันมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพียง เพราะความกลัวต่อ ส.ว.250 การเอาพรรคที่มีจุดยืนต่างกันมาร่วมรัฐบาล ยิ่งจะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเต็มไปด้วยการต่อรอง และ ยังจะทำให้ฝ่ายค้านมีเสียงน้อยเกินไปที่จะตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล”
จี้จุดยืนพรรคไม่เอาส.ว.ร่วมโหวตนายก
“พรรคการเมืองทุกพรรคที่ประกาศจุดยืนว่า“ไม่เห็นด้วยกับส.ว.เลือกนายกฯ”ควรรักษาคำมั่นของตนเองด้วยการโหวตนายกฯจากพรรคเสียงข้างมากเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.แม้ว่าจะไม่ถูกเชิญให้ร่วมรัฐบาลก็ตาม” ถัดมาก็ยังทวิตข้อความอีกว่า“หาก ส.ว.กล้าที่จะหักหาญเสียงของประชาชน โดยไปโหวตให้กับเสียงข้างน้อย ก็แค่เสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วลงมติให้นายกฯ และรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งทันทีก็เท่านั้นเอง”#สวมีไว้ทำไม”
‘เศรษฐา’กระตุกสปิริตร่วมโหวต‘พิธา’
ในส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่ผลเลือกตั้ง ส.ส.ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่สอง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ Srettha Thavisin @Thavisin ระบุว่า“สปิริตทางการเมืองที่ผมหวังให้มีที่สุดในตอนนี้ คือ การเห็นทุกพรรคการเมืองไทยยึดโยง และทำตามเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ที่ในเร็วๆนี้ จะมีการเสนอและโหวตนายกรัฐมนตรี และผมเองก็สนับสนุนให้คุณพิธาจากพรรคก้าวไกลได้รับตำแหน่งอย่างสง่างามอย่างเต็มภาคภูมิ
พรรคก้าวไกล โตขึ้นมาจาก 81 คน ในปี 62 มาเป็น 152 ในปี 66 (เลขล่าสุด)เลขจำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลได้ เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่าอุดมการณ์ แนวทางของพวกเขา ได้รับฉันทามติของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง เป็นปรากฏการณ์ที่ผมคิดว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของสังคมไทย
บีบ‘ภท.-ปชป.’โหวตนายกฯปิดทางส.ว.
กลับมาที่พรรคที่ได้ส.ส.ในสมัยนี้หลายพรรค(ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์)เคยแสดงจุดยืนว่าไม่สนับสนุน รธน.ปี60 ที่ให้อำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายก ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกท่านต้องทำตามจุดยืนของพวกท่าน โหวตสนับสนุนนายกที่พรรคก้าวไกลเสนอ ซึ่งก็คือคุณพิธา ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามกติการะบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ต้องรอให้ ส.ว. 250 คนต้องออกเสียง และทำให้ท่านได้ทำหน้าที่ของพรรคและนักการเมืองได้อย่างมีความสง่า มีความภาคภูมิ พูดได้เต็มปากว่า Represent ประชาธิปไตยได้อย่างเต็มตัว ทำให้ประเทศได้ผู้นำที่พร้อมจะนำพาประเทศพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว สร้างความสุขและการเปลี่ยนแปลงให้กับประชาชนทุกคนทุกสิ่งอย่างที่พรรคทำ จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในอนาคต การเพิกเฉยต่อหน้าที่เหล่านี้มีราคาแพงที่ต้องจ่ายในอนาคตครับ”
‘ศิธา’ปลุกส.ส.-ส.ว.โหวตนายกฯผ่าน376เสียง
ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)โพสต์เฟซบุ๊ก“น.ต.ศิธา ทิวารี-Sita Divari”ระบุว่า“สมัยรัฐบาลไทยรักไทยปี 48 เราเคยมี สส.ฝ่ายรัฐบาลในสภา 377 เสียง ซึ่งถ้าคิดแบบคณิตศาสตร์ ย่อมเข้าใจว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมหาศาล แต่ในทางรัฐศาสตร์ ระบบรัฐสภาที่มีเสถียรภาพมากเกินไปนั้น กลับกลายเป็นการเสียสมดุลในการตรวจสอบ มีจุดให้ถูกโจมตีได้ว่าเป็น #เผด็จการรัฐสภา หรือ #เผด็จการเสียงข้างมาก ประกอบกับฝ่ายค้านมีจำนวนน้อยเกินไป การตรวจสอบจึงไม่สามารถกระทำได้หลากหลาย อันเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้รัฐบาลไม่ครบวาระ”
ยกเป็น‘สุภาพบุรุษประชาธิปไตย’
“นี่คือเหตุผลที่มองว่าพรรคฝ่ายรัฐบาลไม่ควรมีจำนวนมากเกินไป จนกระทั่ง ทำให้กระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลของฝ่ายค้านอ่อนแอ ซึ่งผมมองว่าตัวเลข 300:200+_คือตัวเลขที่สมดุลมากๆ ในการทำงานของ สภาผู้แทนราษฎร”และว่า“ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม หรือ สว.ทั้ง 250 คน ใครที่กล้าตบเท้าออกมายืนยันก่อน ว่ายินดีจะช่วยยกมือเลือกนายก ให้ผ่าน 376 เสียงให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงลาภยศ และประโยชน์ส่วนตน”
“ท่านย่อมได้ตำแหน่ง #สุภาพบุรุษประชาธิปไตย ที่นั่งในหัวใจของพี่น้องประชาชนไปครองก่อนเพื่อน และท่านจะนั่งอยู่ในใจของประชาชนตลอดไป”
‘สมชัย’เตือนอย่ากดดันตั้งรบ.376เสียง
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.)โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าอย่ากดดันให้ตั้งรัฐบาล 376 เสียง เพราะความหายนะทางการเมืองรอบใหม่จะเกิดขึ้นรัฐบาล 310 เสียง ฝ่ายค้าน 190 เสียง เป็นตัวเลขที่เหมาะสม รัฐบาลมีเสถียรภาพ มั่นคงและมีแนวนโยบายในทิศทางเดียวกันที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลง ฝ่ายค้านมีเสียงพอควรที่จะกำกับตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หาก ส.ว.เล่นเกมงดออกเสียง แรงกดดันอาจนำไปสู่การหาเสียงในสภาเพิ่ม ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ฯลฯล้วนเพียงรอสัญญาณ ก็พร้อมเข้าร่วมรัฐบาลทันที
ไม่ใช่เรื่องยาก ติงเสี่ยงเกิดหายนะรอบใหม่
นายสมชัยยังระบุว่ารัฐบาล 376 เสียงขึ้นไป จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผลที่ตามมาอาจกลายเป็นความเสียหาย ดังนี้ 1.รัฐบาลจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาด กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา ปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุล กลายเป็นวิกฤตการณ์การเมืองรอบใหม่ 2.การดำเนินการตามนโยบายของพรรค จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีพรรคที่มีอุดมการณ์แตกต่างกันมาเป็นรัฐบาลผสม และกลายเป็นรัฐบาลแบ่งปันผลประโยชน์ตามแต่ละกระทรวงที่กำกับ
แนะก้าวไกล ปรับลดนโยบายแข็งกร้าว
3.ทางออกในเรื่องนี้จึงมิใช่แค่เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภายอมลงมติตามเสียงประชาชนแต่เพียงทางเดียว แต่พรรคก้าวไกลควรปรับท่าทีและปรับลดนโยบายที่แข็งกร้าวในบางเรื่องเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่าเป็นพรรคที่สุขุม คัมภีรภาพ และพอรับได้ 4.ทางออกนี้คือการประนีประนอม ซึ่งอาจไม่ถูกใจสายฮาร์ดคอร์ที่ปรารถนาการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน แต่หากก้าวไกลยอมรับความจริงว่า การเมืองและความสำเร็จในการบริหารประเทศคือการต้องมีจุดรุก จุดถอยในจังหวะที่เหมาะสม สำเร็จช้าบ้าง แต่สำเร็จ ย่อมดีกว่าจะดึงดันผลักดันให้สำเร็จแต่ยากจะสำเร็จ
‘บิ๊กตู่’อารมดีบอกสื่อยังเป็นนายกฯ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร ถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรกหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงเช้าก่อนประชุม.มี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการกฤษฎีกา ได้เข้าสรุปรายงานวาระการประชุมมีรายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ อารมณ์ดี
จากนั้นเวลา09.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี เพื่อเป็นประธานการประชุมครม. โดยผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ถอดแมสตอบเสียงดังว่า “ก็เป็นนายกฯอยู่ไงล่ะ”ก่อนเดินเข้าห้องรับรองตึกสันติไมตรี
ครม.ถกนัดแรกหลังเลือกตั้งรมต.ลา14คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมครม.นัดแรก เงียบเหงา หลังผลการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคซีกรัฐบาลเดิมพ่ายแพ้ให้กับซีกพรรคฝ่ายค้าน แต่ทั้ง 3 ป.ยังคงเข้าร่วมการประชุม แต่มีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุมครม.14 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์3.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ 4.นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม 5.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ 6.นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 7.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ 8.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา 9.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ 10.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 11.นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ 12.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 13.นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ 14.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม
‘บิ๊กป้อม’ไม่ตอบสื่อถามเรื่องการเมือง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เดินทางมาถึงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมรับไหว้สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์หลังผลเลือกตั้งออกมาบ้างหรือยัง ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลบ้างหรือไม่ รวมถึงในประเด็นทางฝั่งพรรคเพื่อไทยได้มีการมาพูดคุยกับพล.อ.ประวิตรหรือไม่ซึ่งพล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามใด ก่อนเดินเข้าห้องรับรอง ตึกสันติไมตรีซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้นั่งอยู่กับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แล้ว
‘บิ๊กป๊อก’ยังไม่ได้คุย‘บิ๊กตู่’หลังเลือกตั้ง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังผลการเลือกตั้งได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือไม่ว่า “ยังไม่ได้เจอกับพล.อ.ประยุทธ์”เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายกฯถึงทิศทางทางการเมืองหรือยัง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวย้ำว่า ยังไม่ได้เจอกับนายกฯเมื่อถามว่าส่วนตัวพล.อ.อนุพงษ์ จะวางมือทางการเมืองหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า “ผมได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้ว”
‘สันติ’ชี้พปชร.รอถกหากถูกทาบร่วมรบ.
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลเลือกตั้งที่ออกมาทางพรรคพลังประชารัฐ ได้วิเคราะห์หรือปรับกลยุทธ์อย่างไรว่า”ยัง ยังไม่นิ่งเท่าไร”เมื่อถามว่าคิดว่าคะแนนจะยังสวิงอยู่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า”ไม่นะ เดี๋ยวตอนบ่ายคงได้คุยกัน”เมื่อถามว่าหากพรรคที่ชนะมาจีบหรือทาบทามให้ร่วมรัฐบาล พรรคมีจุดยืนอย่างไร นายสันติ กล่าวว่า”เดี๋ยวต้องคุยกันที่พรรค”
‘วิษณุ’ชี้เป็นภาระ‘กก.’รวมเสียงตั้งรบ.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่าเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงรวมอันดับ1ว่าเป็นอย่างที่ทุกคนพูด ถือเป็นภาระหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่จะรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลตามขั้นตอน เมื่อถามว่าจะฝ่าด่านส.ว.ได้หรือไม่นายวิษณุกล่าวว่าตนไม่ทราบเพราะขณะนี้ส.ว.มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลายหากพูดคุยกัน คงพูดกันได้ นายวิษณุพูดกลอนขึ้นว่าขอให้เชื่อตนว่า “ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง”เพราะถ้าขึ้นต้นด้วยการด่ากันก็พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าทำความเข้าใจกัน เหมือนที่บางคนกำลังพยายามก็เป็นเรื่องที่ดี
เชื่อไม่เกิดสุญญากาศยังมรบ.รักษาการ
เมื่อถามต่อว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองหรือไม่ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ภายใน3 เดือน นายวิษณุ กล่าวว่า”ไม่มี คำว่าสุญญากาศ จะช้านิดช้าหน่อย ก็ไม่เรียกว่าสุญญากาศ อย่างน้อยช่วง2 เดือนนี้ กกต. ต้องประกาศรับรอง จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงเวลาการเปิดสมัยการประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
และเป็นขั้นตอนของประธานสภาฯที่จะกำหนดในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากเลือกได้ก็เลือก หากเลือกไม่ได้ ก็เลือกไปเรื่อยๆ ไม่เป็นอะไรและไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้ สุญญากาศจะมีได้อย่างไร เพราะยังมีรัฐบาลรักษาการอยู่
ครม.เตรียมชงกกต.แต่งตั้งขรก.
นายวิษณุ กล่าวต่อว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันเดียวกันมีเรื่องต้องขอ กกต.ในเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการบางตำแหน่งซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมาก็มีวาระที่จะขอไปแต่ก็เก็บเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้พ้นช่วงการเลือกตั้ง เพราะกลัวจะเป็นข้อครหา ให้คุณ และให้โทษก่อนการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงหน่วยราชการรายงานมาว่ามีความจำเป็นเช่น ผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.)ที่ยังมีตำแหน่งว่างอยู่
เมื่อถามต่อถึงงบการใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยแก้ค่าปัญหาไฟแพง เดือน พ.ค.-ส.ค. วงเงินกว่าหมื่นล้าน ที่กกต. เพิ่งอนุมัตินั้น นายวิษณุ กล่าวว่า วันเดียวกันนี้จะแจ้งให้ที่ประชุมครม.รับทราบ เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณตามขั้นตอน.
‘ธนกร’เผย‘บิ๊กตู่’อารมณ์ดีไม่เครียด
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการขึ้นไปพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รทสช.ที่ห้องทำงาน เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าเป็นการให้กำลังใจ ซึ่งนายกฯก็อารมณ์ดี ไม่ได้เครียดอะไร ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จากนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองได้จัดตั้งรัฐบาลกันไป
อยากเห็น‘บิ๊กตู่’วางมือใช้เวลากับครอบครัว
เมื่อถามว่านายกฯมีความชัดเจนว่าจะวางมือทางการเมืองหรือไม่ หรือ จะเป็นแค่ประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.นายธนกรกล่าวว่าตนคิดว่าเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วคิดว่านายกฯคงจะวางมือทางการเมืองและพักผ่อนเพราะได้ทำงานให้กับประเทศมายาวนาน สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย เชื่อว่าประชาชนได้เห็นสิ่งที่นายกฯทำมาคิดว่าถึงอย่างไรนายกฯก็ยังอยู่ในใจประชาชนทั้งประเทศ ส่วนตัวเห็นว่าถ้านายกฯพักก็ดี เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ไปไหนเลย ตนก็อาจมีโอกาสได้ชวนท่านไปพักผ่อน สำหรับตน ยังอยู่ในเส้นทางการเมืองอยู่ มีอะไรก็คงไปปรึกษากับนายกฯ ได้
รทสช.พร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า นายกฯ จะลาออกจากประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่คิดว่าถ้านายกฯ ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ก็คงจะพักผ่อน แต่สำหรับพรรค รทสช.ก็ต้องอยู่ต่อไป เพราะครั้งนี้เรามี ส.ส. 36 คน หัวหน้าพรรคและเลขาพรรคก็ยังทำงานต่อไป ในวันข้างหน้าก็ว่ากันไป และเราก็สามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลได้ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ที่ว่านายกฯ จะวางมือทางการเมือง ขั้นตอนจะเป็นหลังจากที่ได้รัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่ได้พูด แต่ตนคิดเอง เพราะถ้านายกฯไม่ได้ยืนในจุดนี้ ก็อยากให้มีเวลากับครอบครัวบ้าง ใช้เวลาเหมือนกับประชาชนคนไทยปกติ การเมืองก็เป็นแบบนี้ มีแพ้มีชนะ จากนี้ก็ต้องรอให้รัฐบาลใหม่แสดงฝีมือ ต้องให้เกียรติประชาชน ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้รับเลือกมาเยอะแล้ว ก็ต้องให้โอกาสแสดงฝีมือในการบริหารประเทศ
ซัด‘ก้าวไกล’อย่าพูดดูแคลนส.ว
นายธนกรยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า สิ่งหนึ่งที่ตนอยากจะฝากไว้ วันนี้การจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น อยากเห็นบรรยากาศคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ไม่ควรจะไปพูดจาเหน็บแนมหรือไปกระแหนะกระแหนผู้ใหญ่ของบ้านเมือง โดยเฉพาะลูกพรรคที่เป็นส.ส.ไม่ควรไปก้าวล่วงบางหน่วยงาน ไปใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว อย่างหน่วยงานทหารต่างๆ ก็ไม่ควรไปกุเรื่องขึ้นมา เพราะเป็นสิ่งที่ไม่จริง เวลาปราศรัยก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้ พรรคแกนนำกำลังจะเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นก็ควรจะมีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ไม่ควรไปพูดจาให้ร้ายหน่วยงานของรัฐ เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นผู้นำแล้ว และ ส.ว.เองก็มีอิสระในการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งก็ไม่ควรจะไปดูแคลน ส.ว. เพราะเขาก็มีหัวจิตหัวใจ ถ้าไปดูแคลนมากไป และอยู่ๆ จะให้เขามาช่วยโหวต ก็กะไรอยู่
พร้อมเป็นฝ่ายค้าน/ย้ำให้เกียรติกัน
“ผมเองพร้อมเป็นฝ่ายค้าน และให้เกียรติว่าที่รัฐบาลอยู่แล้ว ในทางการเมืองก็ว่ากันไป แต่ไม่ควรที่จะมาสร้างวาทะกรรมทำให้เกิดความขัดแย้งมากกว่านี้ ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำงานกันไป ต่างคนต่างมีหน้าที่” นายธนกร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียง ส.ส. 310 เสียง จะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า300กว่าก็ไปได้อยู่แล้ว แต่ตนคิดว่ายังมีเวลาอยู่ เพราะพรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียง เขาคงให้โอกาสพรรคที่ชนะก่อน
ชี้2-3เดือนกก.ตั้งไม่ได้/พท.ก็มีสิทธิ์
“ถ้าพรรคก้าวไกล ตั้งไม่ได้ พรรค พท.ที่ได้อันดับ 2 ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ยังมีเวลา 2-3 เดือน ในการจัดตั้งรัฐบาล”นายธนกร ระบุ
เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ที่เป็นพรรคอันดับ 2 ได้ตั้งรัฐบาล พรรค รทสช.ก็พร้อมอยู่ในสมการนี้ใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนตอบแทนพรรคไม่ได้แต่คิดว่าพรรคอันดับ 2ก็มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเมื่อดูแถลงการณ์ที่ออกมาก็ยังไม่ชัดว่าจะไปด้วยกันกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลเขามีเอ็มโอยูด้วย ถ้าไปด้วยกันไม่ได้แล้วจะไปต่อได้อย่างไร
ลั่นไม่ยกมือให้เมื่อไม่ชอบนโยบาย
เมื่อถามว่าพรรค รทสช.จะโหวตเลือกนายกฯ ให้กับพรรค กก.หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า“ทำไมผมต้องยกมือให้ ในเมื่อผมไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายเขา ซึ่งไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะยกมือให้ แต่ยอมรับเสียงประชาชน ดังนั้นวันนี้ขอให้ท่านตั้งให้ได้ก็แล้วกัน ซึ่ง 2-3 เดือนก็น่าจะรู้ แต่ที่ผ่านมา ก็เคยมีกรณีที่พรรคอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลไม่ได้”
เมื่อถามว่าในทางการเมือง คิดว่าอะไรที่เป็นอันตรายต่อประเทศ นายธนกร กล่าวว่า ในช่วงการหาเสียง บางเรื่องต้องใช้เวลา อะไรที่สุดขั้วมากไป เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศด้วย ตนเป็นห่วง ความจริง อยากให้พรรค ก้าวไกลเป็นรัฐบาลเร็วๆด้วยซํ้า จะได้รู้ว่านโยบาย 300 ข้อ ทำได้หรือไม่
‘วราวุธ’ลั่นของานถึงนาทีสุดท้าย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งถือเป็นการพลิกขั้วทางการเมือง ว่าวันนี้พรรคยังเป็นรัฐบาลและมีงานที่ต้องทำไปจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนจะมีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมา เพราะปัญหาของประชาชนไม่ได้ถูกแบ่งแยกว่ามีรัฐบาล หรือไม่มีรัฐบาล เรายังเป็นรัฐมนตรีจึงต้องทำงานให้ประชาชนจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามารับไม้ต่อ
ชี้โหวตนายกฯต้องถกในพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้พรรคการเมืองเคารพมติประชาชนร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย นายวราวุธกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและมีความอ่อนไหวพอสมควร จึงยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ หากยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค ชทพ.เสียก่อน ต้องคุยกันภายในพรรคให้ตกผลึก จึงจะเป็นแนวทางของพรรค จากนี้ยังมีเวลา เพราะขั้นตอนในการยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องผ่านกระบวนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯเสียก่อน จึงยังมีเวลาให้คิด ซึ่งตนเองคิดคนเดียว ไม่ได้ ต้องหารือในพรรคก่อน
ลั่นไม่เดือดร้อนถ้าเป็น‘ฝ่ายค้าน’
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ทางพรรคก้าวไกลมีการติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “ชาติไทยพัฒนาเราพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ประกาศชัดเจนว่า จะเอาพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยเองตอบรับ ดังนั้น ไม่มีปัญหา ชาติไทยพัฒนาพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
จุดยืนนโยบายยั่งยืน-เทิดทูนสถาบัน
เมื่อถามว่าถ้าพรรคก้าวไกลติดต่อมาเพื่อจะรวมเสียงให้ชนะโหวตส.ว.ในการเลือกนายกฯพรรคพร้อมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า”เราบอกแล้วว่าเราไม่ได้เดือดร้อนในการที่จะต้องเป็นรัฐบาล และเราพร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ดังนั้นถ้าเป็นอะไรที่ขัดหลักการของชาติไทยพัฒนา เราก็ไม่เห็นด้วย ส่วนการยกมือสนับสนุนโหวตให้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องไปหารือกันในพรรคก่อน แต่จุดยืนของเราชัดเจนมาตลอดตั้งแต่หาเสียงแล้ว”พร้อม จุดยืนของเรายังเหมือนเดิม คือ นโยบายยั่งยืนและเทิดทูนสถาบัน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี