“ชูวิทย์”เตือนรัฐบาล”พิธา” อย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร พร้อมจี้ MOU กัญชาต้องชัด ทุกร้านต้องปิด ส่งกลับไปเป็นยาเสพติด ด้าน “พิธา” ลั่นผลจากเอ็มโอยูเขียนไว้ชัดเจนกัญชาต้องกลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด ต้องจัดการกับที่ไม่ถูกต้องถามกฎหมาย หลังจากที่ผ่านมาเกิดสุญญากาศจนเกิดผลกระทบไปทั่ว
22 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานในการแถลงข่าวการลงนาม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวและลุกขึ้นถามคำถามปิดเวทีแถลงเซ็น MOU ร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า วันนี้ตนมาในฐานะประชาชน เมื่อ 9 ปีที่แล้วผมเป็นนักการเมือง ตนถูกคุมหัว ถูกปรับทัศนคติเวลาที่มีรัฐประหาร คงไม่มีใครเจ็บช้ำเท่าตนแล้ว ณ วันนี้ตนเป็นประชาชน และสนับสนุนท่าน แต่เกรงว่าจะมีอำนาจอื่นที่ทำให้ท่านไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าทั้ง 2 พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลได้จับมือกันไม่ว่าจะสถานะใด ประชาชนอย่างตนก็ไม่ต้องรอ ตนขอพูดชัดๆว่ามีอำนาจแน่นอน ที่จะทำให้ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ แต่เมื่อท่านมีจุดยืนมีอุดมการณ์ อำนาจที่ว่านี้จึงเป็นเงื่อนไขของพวกท่านเอง
"วันนี้ภาพข้างหลังแสดงให้เห็นว่าท่านเซ็น MOU มันเป็นเพียงแค่การบันทึกความเข้าใจ แต่มันยังไม่ได้เป็นจริง ขอให้ระมัดระวัง 2 เงื่อนไข ก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีและหลังจากที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว"นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึง MOU เรื่องกัญชา ว่า จะต้องนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และร้านขายกัญชาจะต้องปิด ไม่ปิดไม่ได้ ต้องพูดให้ชัดและต้องปิดทั้งหมด เมื่อกลับไปเป็นยาเสพติด และเป็นกัญชาทางการแพทย์ ก็ต้องให้แพทย์เป็นคนออกจะให้แพทย์ไปอยู่ในร้านขายกัญชาได้อย่างไร ถ้าทำไม่ได้ก็จะมาประท้วงท่าน พร้อมกับป้ายอวยพรในฐานะประชาชนว่า ให้ท่านมีเจตนารักษาประชาธิปไตย อย่าได้สร้างเงื่อนไข เพราะถ้าไม่มีเงื่อนไขก็ปฏิวัติไม่ได้ ง่ายๆประเทศไทยมีอยู่แค่นั้นเอง วันนี้ซึ่งตรงกับวันที่ 22 พฤษภาคม ตนจึงมาให้กำลังใจในฐานะประชาชน ท่านอย่าได้สร้างเงื่อนไข เพราะหากท่านไม่สร้างเงื่อนไข มันก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขที่จะต้องใช้เท้าออกไปเดินที่ถนน
ด้านนายพิธา กล่าวว่า จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้ได้ ในเรื่องของกัญชา ก็ต้องพูดคุยกันเพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีสุญญากาศ ทั้งเรื่องกฎหมายที่จะควบคุมกัญชาทำให้ผลเกิดผลลัพธ์มากมาย เช่น มีร้านกัญชาอยู่ใกล้โรงเรียน หรือมีร้านกัญชาที่อยู่ตามพื้นที่สาธารณะ ซึ่งตนคิดว่าเราจะต้องมีการแก้ไข โดยมีส่วนร่วมของประชาชน ตอนนี้สิ่งที่ชัดเจนคือจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด
นอกจากนี้สื่อมวลชนยังสอบถามถึงเรื่องกัญชา ว่า ผลของ MOU คือ ให้ร้านขายกัญชาที่มีอยู่จะต้องปิดตัวลงใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ปัญหาของกัญชาอยู่ในสภาพบังคับ เมื่อใน MOU เขียนไว้ชัดเจนว่านำกัญชากลับไปเป็นบัญชียาเสพติดให้โทษผ่านประกาศของกระทรวงสาธารณสุขโดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์กัญชา ทั้งนี้ที่ผ่านมามันไม่มีสภาพบังคับเพราะถูกปลดล็อกในบัญชียาเสพติดและไม่มีสภาพบังคับทำให้เกิดสุญญากาศ เพราะฉะนั้นใครดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่ต้องกังวล สิ่งที่จะได้ประโยชน์จาก MOU ฉบับนี้คือกัญชาที่ไม่ถูกต้องถามกฎหมาย หรือแอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี