อดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร.เรียกร้องค่าใช้จ่ายหาเสียง หลังเลือกตั้งจบไม่เป็นไปตามที่ตกลง แฉ“เสธ.ต”คนสนิท“บิ๊กป้อม”ทำเสียหาย หวังผู้ใหญ่ในพรรคเร่งช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ที่โรงแรมมิโด ย่านสะพานควาย-ประดิพัทธ์ “กลุ่มรักลุงป้อม” โดยอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั่วประเทศกว่า 20 คน เตรียมรวมพลทวงถามค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง โดย นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากออกมาทวงถามค่าใช้จ่ายหลังเลือกตั้ง และถูกเบี้ยวจาก เสธ.ต คนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
นายคมเดช กล่าวว่า การนัดหมายครั้งนี้มาจากกลุ่มอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพื่อพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่ายหลังจากการเลือกตั้ง เพราะมีปัญหาในเรื่องการช่วยเหลือ พล.อ.ประวิตร เป็นคนดี เป็นคนที่น่าเคารพนับถือ แต่คนสนิทข้างกาย เสธ.ต เป็นคนที่เดินเกมและทำผิดพลาด ซึ่งวันนี้มีอดีตผู้สมัครกว่า 30 คน มาพูดคุย แต่ติดภารกิจด้านบน จึงให้ตนเองมาพูดแทน เพราะไม่กลัว เราไม่ได้มาทำลายพรรค แต่การลงสมัครของเราพรรคก็ได้บอกให้ไปลงในเขตที่เจรจากันไว้ พร้อมช่วยเหลือ แต่เมื่อไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่คุยไว้ ทางอดีตผู้สมัคร ส.ส.ก็เดือดร้อน
“ทุกคนที่ลงสมัครครั้งนี้ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวผมขายวัวเป็นฟาร์ม เพราะ เสธ.ต มาบอกว่า ช่วยเหลือๆ แต่สุดท้ายก็สูญเปล่า ครั้งนี้ผิดพลาดในหลายพื้นที่ทั้งภาคใต้ ภาคอีสาน เสธ.ต เป็นคนจัดการหมด และทำให้พรรคเสียหาย คนที่ลงสมัครถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง แต่ละคนได้เงินตามกรอบของกฎหมายอยู่แล้ว แต่โดนตัดหัวคิว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่มาก จริงๆ ส.ส.แบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อของพรรคต้องได้มากกว่านี้อีก แต่มันผิดพลาด”
นายคมเดช กล่าวต่อว่า วันนี้มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทุกคน เพราะโดนกระทำเหมือนกัน ให้ผู้หลักผู้ใหญ่หันมาดูด้วย ตนเองพูดด้วยความถูกต้อง เสธ ต. ไม่ต้องมาโกรธกัน เพราะพูดความจริง โดยก่อนหน้านี้พูดคุยกับคนในพรรค ว่าทำแบบไหน ใครรับผิดชอบในแต่ละภาค แต่ เสธ.ต คนนี้เหนือกว่าคนรับผิดชอบ และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในพรรค
“เราก็รอว่าจะหาทางออกที่ดีอย่างไร พวกเราคนนักเลง ถ้าพูดคุยรู้เรื่องก็ไม่มีปัญหา เพราะถือว่าเกมการเมืองก็จบกัน ยังเคารพในพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้อง ผู้ใหญ่ต้องลงมาเคลียร์ ก่อนเลือกตั้งผมก็มาเคลียร์แล้ว หลังเลือกตั้งมาทำเฉยอีก แล้วไม่สงสารพวกผมเหรอที่ทำคะแนนให้”
นายคมเดช กล่าวว่า ถ้าผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมก็คงดี แต่ส่วนตัวมองว่า 50:50 ว่าจะตกลงกันอย่างไร เชื่อมั่นว่าผู้ใหญ่จะเมตตาอดีตผู้สมัครที่สอบตกทั้งหลาย อยากให้เสียงตรงนี้ดังไปถึง พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นคนที่เขานับถือทั้งประเทศว่า ใจถึง ใจดี มั่นใจว่าถ้า พล.อ.ประวิตร รู้ว่าคนข้างกายทำแบบนี้ จะต้องโกรธมาก และให้คนออกมาแก้ไขแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาพูดครั้งนี้จะส่งผลดีหรือผลลบต่อพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายคมเดช กล่าวว่า ถ้ามองให้ดี ไม่ได้เป็นผลลบหรือส่งผลเสียกับพรรค เพราะพรรคเป็นองค์กรที่สวยงาม แต่คนที่ประสานงาน ได้รับมอบหมายมาจัดการผิด ตนเองไม่เสียหาย ไม่ได้เรียกร้องให้โอบอ้อมหรืออย่างไร เพียงแต่ให้รู้ไว้ว่าแต่ละเขตที่แพ้ แพ้เพราะอะไร จริงๆ คะแนนแต่ละเขตกระแสดีมาก แต่โดนตัดท่อน้ำเลี้ยง สื่อก็มาเพื่อเป็นกระบอกเสียง แสดงให้เห็นว่าเราถูกทอดทิ้ง พรรคก็ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายังมีสิ่งที่เน่าและไม่จัดการก็ไปไม่ได้ จึงมาเปิดเผยบอกกล่าวให้สังคมและคนในพรรครับรู้
ทั้งนี้ นายคมเดช กล่าวว่า เสธ.ต รับปากว่าไม่ต้องห่วง ให้ตนเองไปลง ส.ส.เขต 7 ทั้งที่ก่อนหน้าตนเองเคยอยู่เขต 8 และมีคะแนนที่ดี กลับให้อีกคนไปลงเขต 8 แทน ให้กระสุนเยอะมาก แต่ก็ไม่ชนะ พร้อมทิ้งท้ายฝากถึง เสธ.ต ว่า ชายชาติทหารพูดแล้วทำ ไม่ตลบตะแลง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี