ศึกชิงดำหัวหน้าปชป.ส่อระอุ! 2ฝ่ายเสียงแตก‘สายผู้อาวุโส’เตรียมหนุน‘มาร์ค’คัมแบ็คกลับมากู้วิกฤตแม้ต้องเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่กลุ่ม 17 ส.ส.ดัน"เดชอิศม์"ขึ้นวัดบารมีเป็นผู้นำเลือดใหม่
21 มิ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ว่า เบื้องต้นมีแคนดิเดตที่บรรดาสมาชิกพรรค เตรียมเสนอชื่อขึ้นมา จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ 2.น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ 3.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร และ 4.นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการพรรค โดยทั้งหมดเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้เข้ามากอบกู้วิกฤตพรรค
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอดีตส.ส.และผู้อาวุโสของพรรคทั้งนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ต่างเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมจะมากอบกู้ฟื้นฟูพรรคในเวลานี้มีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งได้แจ้งผู้ใหญ่ในพรรคว่า หากนายอภิสิทธิ์จะกลับมานำพาพรรคต้องเป็นฉันทานุมัติของคนในพรรคที่เห็นพ้องกัน และขอให้เชื่อมั่นในทิศทางที่จะนำพาพรรค โดยจะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น
ข่าวแจ้งว่า แนวคิดดังกล่าวกลับสวนทางกับความเห็นของส.ส.ปัจจุบันส่วนใหญ่ของพรรคโดยเฉพาะกลุ่ม 17 ส.ส.ที่มีการหารือรอบนอกแล้ว และเคยเห็นพ้องว่าเรื่องการไปร่วมรัฐบาล ต้องการผลักดันให้นายเดชอิศม์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรค ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคนต่อไป
"กรณีของน.ส.วทันยา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น อาจจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพราะเพิ่งจะมาสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 และไม่เคยเป็น ส.ส.ในนามพรรค จะขาดคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค โดยล่าสุดคนใกล้ของนายอภิสิทธิ์ แจ้งว่า น.ส.วทัยาจะถอนตัวเพื่อมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์แทน ทำให้ขณะนี้เหลือเพียง 2 คนเท่านั้นที่น่าจะชิงดำหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่คนที่ 9 คือ นายเดชอิศม์ กับ นายอภิสิทธิ์"แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ ข้อบังคับพรรค ข้อที่ 31 (เลือก กก.บห.พรรค) ระบุว่า สมาชิกผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และ “เป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง” แต่ก็มี “ข้อยกเว้น” ว่า เว้นแต่สมาชิกที่มีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค(2) เป็นหรือเคยเป็นคณะกรรมการสาขาพรรค(3) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในนามพรรค(4) เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีในนามพรรค(5) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง(6) สมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่มีมติให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค
อย่างไรก็ดีข้อบังคับพรรค “เปิดช่อง” เป็น “ข้อยกเว้น” เข้าสู่ตำแหน่ง “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9” ไว้ ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 32 (1) ระบุว่า ว่าสมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนเสียง “ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4” ของที่ประชุมใหญ่มีมติให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เฉลิมชัย’ฟาดกลับ‘เสรีรวมไทย’ปมปูดเติมเสียง ปัดล็อก‘หัวหน้า-เลขาฯปชป.’คนใหม่)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี