พรรคเพื่อไทยลุยผ่าทางตัน
ชู‘วันนอร์’ปธ.สภา
มีความเป็นกลาง-สส.เคารพ
เจ้าตัวยินดี-ปท.เดินหน้า
‘ชวน’หนุนเคยเป็นมาแล้ว
‘เศรษฐา’ยกนิ้วสัญญาณดี
ทั้งเก้าอี้‘ปธ.สภา-นายกฯ’
กก.บห.พรรคเพื่อไทยหนุน“วันนอร์”ชิงเก้าอี้ประธานสภา“ภูมิธรรม” ลั่นดัน“วันนอร์”นั่งประธานสภา ชี้ปัญหา “ก.ก.-พท.”ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ย้ำยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก “สุริยะ” ยอมรับเสนอชื่อ“วันนอร์”ชิงปธ.สภา เป็นทางออกที่ดี ลดความขัดแย้ง“เศรษฐา”ลั่นทุกฝ่ายพยายามเพื่อให้ได้รัฐบาลประชาธิปไตยหวัง “ก.ก.-พท.” คุยกันแล้วทุกฝ่ายพอใจ“ชวน”เชียร์“หมอชลน่าน”เหมาะนั่งประธานสภา ชี้เตรียมตัวมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมาขณะที่’วันนอร์’มีความเป็นกลาง ทำหน้าที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน2566 มีรายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ได้รับแจ้งจาก ส.ส.พรรคพท.ตรงกันว่า พรรค พท.ได้ข้อสรุปแล้วโดยจะเสนอชื่อคนกลาง คือ นายวันมูหะมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ โดยการเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ครั้งนี้ เพื่อเป็นทางออกและได้ข้อยุติ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวขึ้นกับที่ประชุม สส.รวมทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรค พท.ว่า จะมีมติยืนตามนี้หรือไม่ ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ถือเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีประสบการณ์เคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภามาแล้ว ไม่มีความด่างพร้อย สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับและได้รับความเคารพจาก สส.
รอผลกก.บห.ดัน‘วันนอร์’นั่งปธ.สภา
เวลา 09.00น.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงกรณีที่พรรค พท. จะเสนอ นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานประธานสภาฯพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพรรค พท.และพรรค ก.ก.ว่า ขอประชุมส.ส.ก่อน และหลังจากนั้นจะรวบรวมไปแจ้งต่อคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยจะให้กก.บห.เป็นผู้ตัดสิน ดังนั้นตอนนี้ยังไม่ได้สรุปอะไร เมื่อถามว่า เบื้องต้นเหมือนคณะเจรจา กก.บห.ค่อนข้างมีแนวทาง ที่จะเสนอชื่อคนกลางคือ นายวันนอร์ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าเราพยายามจะหาทางออกที่คิดว่าดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดจุดยืนของเราคือ ต้องรักษารัฐบาลประชาธิปไตยไว้ และต้องรักษาเจตจำนงของพี่น้องประชาชนไว้ว่า พี่น้องประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และอยากเห็นความร่วมมือกัน ซึ่งสิ่งที่ นายวันนอร์ พูดเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ก็ได้ใจ และถึงแม้จะเหลือเวลาไม่ถึง 20ชั่วโมง ก็คิดว่าเป็นเวลาที่เราจะต้องหาทางออกที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ถ้าพรรค พท.และพรรคก.ก.เจรจาไม่ลงตัวจริงๆ ตัวกลางถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อลดปัญหาของ 2พรรคหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องฟังส.ส.ของเรา ที่อยู่ในเวทีสภามาโดยตลอด คงจะมีความเห็นดีๆ ให้พวกเราได้พิจารณา เมื่อถามว่า การทำงานของพรรค พท.และพรรค ก.ก.ดูเหมือนจะมีอุปสรรค จะทำงานกันยากหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นกระบวนการแตกต่างในระบบประชาธิปไตย ที่เห็นถึงวิธีการ หรือเห็นรายละเอียดของปัญหาแตกต่างกันได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเรายึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ยังไงก็คุยกันได้ และตกลงกันได้ ทางออกมีเสมอ อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องชัดเจน เพราะพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) จะเข้าสู่กระบวนการตามหลักประชาธิปไตย จะมีการโหวตประธานสภาฯแล้ว
‘สุริยะ’รับพท.หนุน‘วันนอร์’ชิงปธ.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ และหนึ่งในคณะเจรจาพรรค พท.เปิดเผยว่า พรรค พท. มีแนวทางจะเสนอชื่อ นายวันนอร์ เป็นตัวกลางชิงตำแหน่งประธานสภาฯ หลังพรรค พท.และก.ก.ยังตกลงเรื่องนี้กันไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กก.บห.และสส.พรรค พท.เชื่อว่า หาก กก.บห.มีมติเสนอชื่อ นายวันนอร์ จะสามารถอธิบายชี้แจงกับสส.ให้เข้าใจได้ เพื่อให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เมื่อมีความขัดแย้ง เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพรรคก.ก.และพรรคพท.ได้ เมื่อถามย้ำว่า พรรค พท.ยอมเสียโควตาประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า พรรค พท.ต้องการให้การเมืองหน้าต่อไปได้ ถ้าเป็นทางออกที่ดี เมื่อพรรค พท.และก.ก.ยังไม่มีข้อสรุปที่ลงตัว จึงต้องมีการเสนอชื่อคนกลาง ทั้งนี้ ยอมรับว่า ได้มีการทาบทาม นายวันอร์ ไว้ในเบื้องต้นแล้ว เมื่อถามต่อว่า พรรคก.ก.จะรับข้อเสนอนี้หรือไม่นั้น นายสุริยะ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ก่อนเดินเข้าลิฟท์ขึ้นไปประชุมทันที
ส่วน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก.ก.และพรรค พท.ที่ยังไม่ลงตัวกันว่า ได้ข่าวอยู่เช่นกันว่า วันนี้ยังมีการพิจารณากันอยู่และมีความหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะคุยกันแล้วจะเป็นผลที่ทุกฝ่ายพอใจ เมื่อถามว่า หากทั้งสองฝ่ายคุยกันแล้วไม่ลงตัวทำให้ต้องมีการเสนอตัวกลาง ถือเป็นแนวทางที่ทำให้ลดความขัดแย้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับวิธีเจรจาและทั้งสองฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ ใช้เหตุผลคุยกันโดยเอาเป้าหมายเป็นหลักคือรัฐบาลต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นพรรค พท.หรือพรรคก.ก.หรือพรรคร่วมอีก 6พรรคต้องยึดมั่น ทั้งนี้ ตนก็ได้ทราบข่าวเช่นกันว่าพรรค พท.จะดัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพรรค พท.และพรรคก้าวไกล ซึ่งตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นการตกลงกันระหว่างพรรคร่วมทั้ง 8พรรค
“อยากวิงวอนเช่นนี้ว่าเราอยู่ด้วยกัน จุดมุ่งหมายเดียวกัน นี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่สุดของประเทศไทย จึงอยากวิงวอนว่าแม้ผลจะออกมาเช่นไรก็อยากให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ”นายเศรษฐา กล่าวและว่า เมื่อพรรคมีมติออกมาอย่างไรก็ต้องน้อมรับ ซึ่งลูกพรรคก็ต้องทำตามมติพรรค อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถจะเอามติของเราไปก้าวล่วงพรรคอื่นไม่ได้ โดยจากบรรยากาศที่คุยกันเชื่อว่าทุกคนอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยจับมือด้วยกันและเดินทางด้วยกัน
‘วันนอร์’พร้อมรับ-ถ้าทำปท.เดินหน้า
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวผ่านรายการ“กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ว่า ยังไม่ทราบข่าว เพราะในการประชุม 8พรรคการเมืองที่ร่วมลงนามเอ็มโอยูจับมือกันตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีเพียงมติให้พรรคก.ก.และพรรค พท.ไปหารือให้จบและแจ้งให้ 8พรรคร่วมทราบ ยังไม่มีการพูดถึงว่าตนจะได้เป็นประธานสภา เพราะตำแหน่งรองประธานสภา ตนยังสละได้ เพื่อให้รัฐบาลของประชาชนเดินหน้าต่อไปได้ นายสรยุทธ ถามว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบข่าวนี้ จึงไม่ทราบว่าจริงไม่จริง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยัง ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยระบุว่า จะไปประชุมพรรคก่อน เพื่อเอาผลไปบอกกับที่ประชุมพรรคก่อน ซึ่งเชื่อว่า ผลออกมาจะจบด้วยดี
นายวันนอร์ กล่าวอีกว่า ต้องรอให้ 2พรรคไปคุยกัน เราต้องเคารพและฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก ถ้าเสนอชื่อตนแล้วการตั้งรัฐบาลซีกประชาธิปไตยมันราบรื่นหรือไม่ ถ้าตนไม่รับการจัดตั้งรัฐบาลราบรื่นหรือไม่ ตนไม่ได้อยากเป็นตั้งแต่แรก ขอทำแค่หัวหน้าพรรค แม้แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีตนก็ไม่รับ ตนพอแล้ว ตนทำมาทุกอย่างแล้ว คิดว่าถ้าเรารู้จักพอในสิ่งที่เราได้ ถ้ามันเป็นกำหนดของพระเจ้า ก็ไม่อาจปฏิเสธได้
“ผมยังไม่รู้ว่าเขาเสนอผมเพราะอะไร พรรค2พรรคมีคนที่เป็นประธานได้ดี อาจจะดีกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ถ้าจริง แล้วเสนอมาแก้ปัญหา เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าไปได้ อาจจำเป็นต้องรับ ถึงแม้ว่าจะหนัก ถ้าเพื่อไทย มีมติออกมาแล้ว ก็ยินดีที่จะรับ แต่ต้องฟังเสียงพรรคก้าวไกลและเสียงของประชาชนด้วย ถ้าประชาชนเห็นด้วยก็ยินดี ถ้าเพื่อประชาชนในวาระสุดท้ายของชีวิตการเมือง ผมก็ยินดี” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
‘อุ๊งอิ๊ง’นำคุย‘ก.ก.’เที่ยงแถลงไม่ได้
รายงานข่าวจากที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหากพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อคนกลาง คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อให้การเมืองเดินหน้าไปตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้ โดยย้ำยังยึดจุดเดิมในการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้นำมติของที่ประชุม ส.ส.เข้าสู่การประชุม กก.บห.และมอบหมายให้คณะเจรจาไปประสานพูดคุยกับทางพรรคก.ก.โดยทางพรรคพท.ยกเลิกแถลงข่าวช่วงเที่ยง 12.00น.เพื่อนำมติไปหารือกับพรรคก.ก.ให้ได้ข้อสรุปก่อน จากนั้นจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงเย็น หลังรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา หากพรรคพท.และพรรคก.ก.ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก็จะมีการแถลงข่าวร่วมกันของทั้ง 2พรรค
ทั้งนี้ ขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคกำลังประชุมกันอยู่นั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย,นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปหารือกับแกนนำพรรคก้าวไกล ซึ่งวันนี้มาปักหลักกันอยู่ที่อาคารไทยซัมมิทติดกับที่ทำการพรรคเพื่อไทย ก่อนจะเดินทางกลับมาที่พรรคเพื่อไทย
กก.บห.เพื่อไทยหนุน’วันนอร์’ปธ.สภา
จากนั้นเวลา 11.00น.มีการประชุม กก.บห.พรรคพท.โดยที่ประชุมได้นำมาความคิดเห็นของ สส.มาหารือกันและส่วนใหญ่เห็นพ้องกันในการเสนอชื่อ นายวันนอร์ ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ หลังจากนี้จะมอบหมายให้คณะกรรมการเจรจาทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อนในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) ที่จะมีการประชุมสภาฯนัดแรก และมีวาระโหวตเลือกประธานสภาฯ คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ข้อยุติที่พอใจ อย่างไรก็ตาม พรรค พท.ได้แจ้งกำหนดแถลงข่าวร่วมกันระหว่างสองพรรคที่ รร.แลงคาสเตอร์ เวลา 20.00น.
‘เศรษฐา’ชี้ตัวปธ.สภา-นายกฯดีเยี่ยม
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.กล่าวถึงมติของพรรคในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่างอารมณ์ดีว่า สถานการณ์อยู่ในขั้นA+ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ A+ หมายถึงตำแหน่งประธานสภาฯ หรือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า ทั้งสองคือสถานการณ์ A+ พร้อมยกนิ้วโป้งสื่อสัญลักษณ์ยอดเยี่ยมและยิ้มกว้าง ก่อนเดินขึ้นรถส่วนตัวออกจากพรรค ทั้งนี้ นายเศรษฐา ระบุสั้นๆด้วยว่า วันนี้จะไม่ได้ร่วมแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ที่จะให้ความชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถ.เพชรบุรี ซึ่งมีรายงานว่า อาจขยับเวลามาเป็น 19.00น.จากเดิมแจ้งไว้ 20.00น.
‘ก้าวไกล’ถกด่วนเพื่อไทยหนุน‘วันนอร์’
เวลา 10.00น.พรรคก้าวไกล ได้นัดประชุม สส.ที่อาคารไทยซัมมิท ก่อนจะเดินทางไปเข้าร่วมรัฐพิธีที่อาคารรัฐสภา ในเวลาประมาณ 11.30น.โดยเป็นการประชุมภายในไม่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนติดตามทำข่าว ตั้งแต่ช่วงเช้ามี ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทยอยเดินทางเข้ามาที่อาคารไทยซัมมิท ส่วนใหญ่สวมชุดปกติขาว เพื่อเตรียมเข้าร่วมรัฐพิธีในช่วงบ่าย สำหรับแกนนำพรรคที่เดินทางมาถึงเป็นคนแรกๆ ประกอบด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แต่ไม่ให้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ด้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค ซึ่งสื่อได้ถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ตอบว่าธรรมดาๆ ที่จะต้องทำหน้าที่ และจะต้องทำการประชุมก่อนจากนั้นก็จะแยกย้ายกันเดินทางไปที่รัฐสภา
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกก.บห.พรรคก้าวไกล กับ สส.พรรคดังกล่าว เพื่อแสดงจุดยืนว่า ตำแหน่งประธานสภา ควรเป็นของพรรคก้าวไกลและคาดว่าจะยังสนับสนุน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการบริหารพรรค เป็นแคนดิเดตประธานสภา เช่นเดิม
‘ชัยธวัช’ย้ำรอแถลงร่วมกันหลังรัฐพิธี
เวลา 12.15น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อม ส.ส.เพื่อเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภาของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้มี สส.และแกนนำพรรคทยอยออกจากอาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เพื่อเดินทางไปรัฐสภา จากนั้นเวลา 12.30น.นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค กก.ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภาระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.)และก.ก.ว่า “ให้รอแถลงหลังเสร็จรัฐพิธี จะแจ้งรายละเอียดอีกที”ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตอนนี้ต้องรอคำตอบจากฝั่งพรรค พท.หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า“รอแถลงทีเดียว”เมื่อถามอีกว่า พรรคไหนจะเป็นผู้แถลง นายชัยธวัชกล่าวว่า “เดี๋ยวแจ้ง”เมื่อถามว่า ได้รับการติดต่อมาจากทางพรรค พท.หรือยัง นายชัยธวัชกล่าวว่า จริงๆ มีการพูดคุยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เดี๋ยวจะแถลงร่วมกันทีเดียว เมื่อถามว่า หากแถลงวันนี้จะถือว่าลงตัวหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไงก็จะเป็นข้อยุติที่ดีที่สุด
มีรายงานว่า หากการหารือลงตัวในค่ำวันนี้ พรรค ก.ก.และพรรค พท.จะแถลงข่าวเรื่องประธานสภาร่วมกัน หลังเสร็จสิ้นรัฐพิธี
‘ชวน’เชียร์ ‘หมอชลน่าน’เหมาะปธ.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะเสนอชื่อ นายวันนอร์ เป็นประธานรัฐสภาว่า นายวันนอร์ ก็เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเคยเป็นประธานมาแล้ว มีความสามารถและเป็นบุคคลที่วางตัวเป็นกลาง ซึ่งเคยร่วมงานกันเมื่อครั้งที่ตนเป็นฝ่ายค้านและเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านก็เป็นประธานสภาที่ดีคนหนึ่ง
เมื่อถามว่า หากเปรียบเทียบความเหมาะสมระหว่าง นายวันนอร์ กับ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่เตรียมตัวอย่างหนักมาโดยตลอด นอกจาก นายสุชาติ ก็คือนพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค พท.เพราะเชื่อว่า 4ปีที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน เตรียมตัวมาตลอดและตนเคยถามพรรคเพื่อไทยว่าทำไมไม่หนุน นพ.ชลน่าน เป็นแคนดิเดตนายกฯก็ได้รับคำตอบว่า นพ.ชลน่าน เตรียมตัวเพื่อเป็นประธานสภาฯมาโดยตลอด แต่เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนก็คงเป็นเรื่องของเหตุการณ์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็น นายสุชาติ นพ.ชลน่าน หรือ นายวันนอร์ คนเหล่านี้ก็มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว
‘จุรินทร์’เผยโหวตปธ.สภาใช้มติพรรค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอชื่อ นายวันนอร์ นั่งประธานสภาฯเพื่อให้มาแก้ปัญหาระหว่าง 2พรรคใหญ่ ว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ อยู่ที่ 2พรรคใหญ่ จะเป็นใครคนนั้นก็คือคนที่จะได้รับเลือกเป็นประธานสภา เพราะคุมเสียงข้างมาก ส่วนแนวทางโหวตประธานสภานั้น วันที่ 4กรกฎาคม เวลา 08.30น.จะมีการประชุม สส.ของพรรคที่สภา แล้วจะได้ร่วมกันพิจารณาว่าจะมีมติอย่างไร ส่วนจะเปิดให้ฟรีโหวตหรือลงมติไปในทิศทางเดียวกันอย่างไรนั้น ต้องขอคุยกันในวันนั้นก่อน
“ไม่มีอะไรยากหรอก ขอให้ชัดเจนก่อนว่า 2 พรรคนี้ว่าอย่างไร ต้องนับหนึ่งจากตรงนั้นเลยอย่างที่ผมเคยเรียน จะตัดสินใจอย่างไรก็อยู่ที่ 2 พรรค ถ้าเพื่อไทย ก้าวไกล จับมือกันแน่น ก็เป็นเสียงข้างมากอยู่แล้ว เสนอใครคนนั้นก็มาที่หนึ่งอยู่แล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว
‘พีระพันธุ์’ลาออกสส.-อยู่ช่วย’บิ๊กตู่’
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดต นายกฯลำดับที่ 2 โพสต์หนังสือลาออกผ่านเฟซบุ๊กและข้อความระบุว่า’ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผมยืนยันอีกครั้งว่าผมเลือกที่จะอยู่เคียงข้าง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จนวินาทีสุดท้ายของท่านในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี’
นายพีระพันธุ์ ระบุต่อว่า เป็นการโพสต์หลังจากยื่นใบลาออกจากสส.เพื่อนำเรียนไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีหลายท่านถามถึงเหตุผล ผมขอบอกตรงๆว่า ผมต้องการอยู่ทำงานกับท่านนายกฯ เพราะรักและศรัทธาท่านและยังมีภารกิจที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก็เท่านั้น ไม่มีมีแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรตามที่วิเคราะห์วิจารณ์กันไปใหญ่โต ผมบอกตรงๆว่า ผมเป็นคนแบบนี้ พ่อแม่ผมอบรมสั่งสอนผมมาแบบนี้ โรงเรียน ครูบาอาจารย์สอนผมมาแบบนี้ แบบที่ให้เรามีความจริงใจ ตรงไปตรงมา รักษาคำพูด รู้คุณคน ร่วมทุกข์สุขและไม่ทิ้งใครไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ไม่มีแผน ไม่สร้างภาพ” นายพีระพันธุ์ ระบุ
ปชช.สวมเสื้อเหลืองเฝ้ารอรับเสด็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณอาคารรัฐสภา ซึ่งมีพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก ในช่วงเย็นวันนี้ (3ก.ค.) ซึ่งตั้งแต่เวลา 10.00น.ที่ด้านหน้าหน้าตรงข้ามทางเข้าอาคารรัฐสภา ถนนทหาร พบว่ามีประชาชนสวมเสื้อเหลือง ได้ทยอยเดินทางมาปักหลักรอเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ซึ่งมีหมายกำหนดการทรงเป็นประธานในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ขณะที่สมาชิกรัฐสภา ทั้ง สส.และสว.ต่างทยอยเข้าพื้นที่ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้จัดห้องสัมมนา ชั้นบีหนึ่ง เป็นพื้นที่รับรอง และจัดเป็นจุดตรวจเอทีเค ให้กับ สมาชิกที่จะร่วมงานรัฐพิธีด้วย อย่างไรก็ตามในพื้นที่รับรองส.ส.นั้นไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอก ที่ไม่มีบัตร ปฏิบัติงานในพื้นที่เข้าอย่างเด็ดขาด ขณะที่ยานพาหะนะที่จะผ่านเข้าออกพื้นที่ ต้องมีบัตรเข้า-ออก สภาฯ หรือ ต้องแสดงบัตรประจำตัวซึ่งสำนักงานของสภาฯ เป็นผู้ออกให้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี