พร้อมเป็นนายกฯหากถูกเสนอชื่อ
‘เศรษฐา’ยืดอกรับ
สถานการณ์บังคับต้องรีบตั้งรบ.
ชี้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมาก่อน
ก.ก.เดินหน้าแก้มาตรา272
โวโหวต‘พิธา’รอบ2ฉลุยแน่
ได้เสียงสว.เพิ่มตามเป้าหมาย
“พท.”ซัด“พิธา”มัดมือชกแก้ม.272 เหน็บ “นี่คือวาระประเทศ ไม่ใช่วาระก้าวไกล” อย่าเอาปชช.เป็นตัวประกัน ลั่นไม่กลัวทัวร์ลง ยันแคนดิเดตนายกฯพท.พร้อม ด้าน“เศรษฐา”ยืดอกพร้อมเป็นนายกฯหากถูกเสนอชื่อ ห่วงปัญหาศก.รอ 8 พรรคร่วมหารือ ก่อนจะมองสูตรข้ามขั้ว“เรืองไกร”ร้อง“วันนอร์” จี้สอบ“พิธา”เป็นบุคคลตามรัฐธรรมนูญ ม.89 วรรคสองเข้าข่ายเสนอชื่อบุคคลมิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ถือไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้นหรือไม่“สว.สมชาย”เผยเตรียมชงปธ.รัฐสภา-วิป3ฝ่าย แย้งเสนอชื่อโหวตซ้ำเหตุขัดข้อบังคับ41 หากยังฝืนต้องถกกลางที่ประชุมฯ หวั่นขัดกม.-ถูกร้อง
เมื่อวันที่ 17กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ระบุว่า จะต่อสู้ใน 2สมรภูมิ คือ การโหวตนายกฯและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ว่า ไม่เข้าใจว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการเปิดสมรภูมิใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอประเด็นที่อยู่นอกเหนือเอ็มโอยูที่ 8พรรคเซนต์ร่วมกัน ส่วนที่จะต่อสู้จนประสบความสำเร็จและไม่สามารถไปได้แล้วและจะมอบอำนาจให้พรรคอันดับ2นั้น เป็นการพูดเช่นนี้ฟังดูดี แต่ทั้ง 2ประเด็น มียากลำบากและไม่มีกรอบเวลาชัดเจน การแก้ไข ม.272 เป็นเพียงสัญลักษณ์ ไม่ได้รับชัยชนะ แต่การเร่งตั้งรัฐบาลจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรค พท.เสนอเป็นนโยบายไว้ว่า จะแก้ทั้งระบบ นี่ถือเป็นวาระสำคัญ แต่การเปิดวาระใหม่ของก.ก.เสนอนอกเหนือเอ็มโอยู ตนเห็นว่าการที่ นายพิธา และพรรคก.ก.นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน จึงคิดว่ามันไม่ใช่วาระของทั้ง 2พรรค เราตกลงกันว่าจะกลับไปคุยในพรรคตัวเอง แต่ที่ นายพิธา ออกมาพูดเช่นนี้เหมือนมัดมือชก เราจึงจำเป็นต้องออกมาพูดความจำเป็นและความเป็นจริงให้ทราบ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้ง หรือโกรธกัน แต่เราจะเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า วาระประเทศและวาระประชาชน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่วาระของพรรค ก.ก.หรือวาระของ นายพิธา วันนี้อยากให้เปิดใจให้กว้าง แล้วเอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง วาระประเทศเป็นที่ตั้งถูกต้องหรือไม่ การที่ นายพิธา พูดว่า เวลานี้อนาคตของพรรคก.ก.และอนาคตของประชาชน อยู่ในมือของประชาชนแล้ว ตนคิดว่าอย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน วันนี้ประเทศชาติและปัญหาประชาชนอยู่ในมือพรรคก้าวไกล และนายพิธา จึงต้องหยิบเอาปัญหาและวาระของประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วตัดสินใจ ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ปัญหาประชาชนจะลำบากต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปอีกนานและจะรักษาการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตัดสินใจถูกต้อง ปัญหาจะคลี่คลาย อยากให้ นายพิธา และพรรคก.ก.นำไปคิด พรรค พท.ขอให้เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วหาทางออกร่วมกันอย่างรวดเร็ว เพราะเราห่วงโรคแทรกซ้อน หากรัฐบาลเดิมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราจะสู้เขาไม่ได้ เพราะเขามี 188 เสียงและสว.อีก 250เสียง สามารถตั้งรัฐบาลได้เลย เราต้องอยู่กับลุงไปอีก 4ปี ประชาชนยินดีเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ยินดีก็ต้องหาทางออก
พท.มีแคนดิเดตนายกฯพร้อมแล้ว3คน
เมื่อถามว่า ได้คิดเรื่องเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯไว้บ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรค พท.ไม่มีแผนสำรอง แผนแรกแผนเดียว เราอยากจับมือกับ 8พรรคร่วมเดินหน้าไปให้ถึงที่สุด แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเลือกไปเรื่อยๆ โดยที่ประเทศไม่รู้ว่า ทางออกจะเป็นอย่างไร เรารอไปถึงต้นปีหน้าไม่ได้ เพราะปัญหาประเทศตอนนี้ รุนแรงมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องแคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ซึ่งพรรค พท.มีแคนดิเดตอยู่แล้ว 3คน หากวันไหนชัดเจนให้พรรค พท.เสนอ เราสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่วาระสำคัญ เราไม่คิดเรื่องนี้ก่อน เราคิดถึงการหาทางออกให้กับประเทศ 8พรรคการเมืองเสนอ นายพิธา ถ้าไม่ได้จะมีวิธีไหนที่ 8พรรคจะดำเนินการร่วมกันให้ชนะ
เมื่อถามว่า การพูดคุยวันนี้จะต้องเตรียมแคนดิเดตนายกฯสำรองไว้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ความเป็นจริง เรารู้อยู่แล้วว่า แคนดิเดตของเราเป็นอย่างไร ถ้าบอกว่าพรรค พท.ไม่ได้คิดเลยก็เท่ากับโกหก เราคิดทางออก แต่ยังพูดไม่ได้ เพราะอยากให้ชัดเจนถึงความมุ่งหน้าสนับสนุนของความร่วมมือของ 8พรรค จนถึงเวลาจำเป็นแล้วถึงจะเสนอและชัดเจน จะไม่มีคนนอก ขอให้สบายใจว่า หากถึงเวลาต้องเสนอ พรรค พท.มีคนเข้าไปทำงานแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับแคนดิเดตทั้ง 3คน เพราะเรามุ่งหน้าทำเรื่องการเสนอ นายพิธา เป็นเรื่องหลัก
‘เศรษฐา’ยืดอกลั่นพร้อมเป็นนายกฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคพท.และพรรคก.ก.ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องโหวตนายกฯรอบ 2 มองสถานการณ์อย่างไร ว่า วันนี้เวลา 17.00น.จะมีการพูดคุยกัน ก็ต้องรอผลการหารือของ 2พรรคก่อน ซึ่งช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ตนได้รวบรวมข้อมูลจากคณะทำงาน 12คณะของพรรคพท.เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ มีความกังวลมาก ทั้งเรื่องภาระหนี้เสีย เรื่อง FTA ที่ยังค้างการเจรจา รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่แย่งแหล่งเงินทุนไปพอสมควร เราต้องเร่งเจรจา ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด
ส่วนสถานการณ์โหวต นายพิธา ในรอบแรก ทั้งเสียงสนับสนุนจาก สว.รวมถึงเรื่องญัตติซ้ำ ในฐานะที่ นายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เราคุยเรื่องนี้กันมา 4เดือนที่แล้ว ถ้าเกิดไม่พร้อม ก็คงไม่มีรายชื่ออยู่ใน3แคนดิเดตพรรค พท.และเราพรรคพท.ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องสำคัญที่สุดที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ คือ เรื่องเศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นต้องเตรียมนโยบายในการประชุม ครม.นัดแรก เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามว่า หากรูปแบบจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีพรรคก.ก.นายเศรษฐา พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้พูดคุยกัน หากมีความเห็นแตกต่างจาก 8พรรค ต้องกลับไปคุยกันในกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ซึ่งพรรค พท.มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3คน จึงต้องให้เกียรติและไม่ขอก้าวล่วง
เมื่อถามว่า หากในสมการมีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพิ่มขึ้นมา หรือพรรคอื่น นอกเหนือจาก 8 พรรค นายเศรษฐา ยังพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไกลเกินไป ขอรอผลประชุมจาก 8พรรคก่อน เมื่อถามว่า หาก กก.บห.มองอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นสมการไหนและให้ นายเศรษฐา รับตำแหน่งก็พร้อมทำตามกก.บห.ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องไปว่ากัน เพราะยังมีหลักการหลายอย่างที่ต้องพูดคุยกัน พร้อมย้ำ เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องใครจะมาร่วมหรือไม่ การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้
พร้อมทำตามมติกก.บห.เคาะชิงนายกฯ
เมื่อถามถึงกระแสตีกลับมายังพรรค พท.รวมถึงมีคนมองว่า นายเศรษฐา ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จะรับมืออย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมพูดสั้นๆว่า ครับ ก็ต้องรับครับ แต่พูดไป 3หนแล้ว คำว่า ครับ ไม่ได้หมายความว่า รับ หรือไม่รับ แต่หมายถึง รับทราบถึงเสียงที่ว่า จะอยู่ด้วยกัน 8พรรค แต่วันนี้เรื่องปากท้องสำคัญ ตนอาจพูดเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แต่ค่อนข้างเป็นห่วง ถ้าจะไปกับก.ก.เราพร้อมที่จะเสนอนโยบายในการประชุม ครม.นัดแรก หรือจะเป็นเรื่องอื่น ก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง
เมื่อถามย้ำว่า ที่สุดแล้วไม่ว่า กก.บห.ว่าอย่างไร พร้อมทำตามมติใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมเล่นกีฬาเป็นทีมอยู่แล้ว เราเป็นประชาธิปไตย เมื่อมติเป็นอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ และไม่อยากพูดเพื่อเป็นการกดดัน หรืออะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นหน้าที่ของกก.บห.พิจารณา ทั้งนี้ แม้จะถูกมองว่า จะมีการข้ามขั้ว แต่มองว่า อย่าพึ่งข้ามไปเลย ขอให้8พรรคคุยกันก่อนดีกว่า
พท.ลุยชงชื่อ‘เศรษฐา’ไม่เอาด้วยแก้ม.272
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า ก่อนที่ตัวแทนเจรจาของพรรค พท.จะไปหารือกับ 8 พรรคร่วม ทางแกนนำพรรค พท.ได้หารือเป็นการภายในกันก่อน โดยมีการพูดคุยถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ซึ่งพรรค พท.ชัดเจนว่าไม่เอาด้วย ส่วนการเสนอชื่อ นายพิธา อีกครั้ง พรรค พท.ไม่ขัดข้อง แต่ประเมินว่าฝ่ายรัฐบาลเดิมที่มีเสียง สส.188เสียงไม่เห็นด้วย จะทำให้เกิดการตีความเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกฯ ครั้งที่ 2 ถือเป็นการยื่นญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาฯ ที่ 41 หรือไม่ หากเรื่องนี้มีการโหวตกัน เป็นไปได้ว่าเสียงของพรรคร่วม 8 พรรค อาจจะแพ้เหมือนการโหวตนายกฯ ซึ่งเป็นไปได้ว่าพรรคที่ได้เสียงส.ส.มาเป็นอันดับ 2 จะเป็นผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแทน หากเป็นเช่นนั้น พท.จะเสนอให้เลื่อนการพิจารณาโหวตนายกฯ ออกไปเป็นสัปดาห์ต่อไป แต่ถ้าไม่ได้เรา พร้อมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯวันที่ 19ก.ค.ชื่อที่พรรคเสนอคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.”แหล่งข่าวระบุ
‘ก.ก.’ยันไม่มีถูกซื้อเสียงโหวต’บิ๊กป้อม’
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และรองเลขาธิการพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวการซื้อ สส.พรรคก.ก.และพรรค พท.รวม 50คน เพื่อเตรียมโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ยืนยันว่า สส.ก้าวไกล อยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อแน่นอน ครั้งที่แล้วประชาชนลงโทษ สส.งูเห่า ทุกคนสอบตกหมด คะแนนต่ำพันก็มี ทุกพรรคเห็นตัวอย่างกันดีอยู่แล้วว่าการทรยศต่อประชาชน ผลออกมาเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร แข่งนั้น ขอพรรค พท.อย่ากังวล ประชาชนจะกังวลไปด้วย เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผล 3ข้อ ข้อแรก ภายใน สว.เองไม่ได้มีเอกภาพ แม้ส่วนใหญ่จะไม่โหวตให้ นายพิธา เป็นนายกฯแต่ไม่ได้หมายความทุกคนจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ข้อสอง พรรคฝั่งรัฐบาลเดิมไม่ได้เป็นเอกภาพว่า ใครจะเป็นนายกฯ ถ้ามีการเสนอแข่ง ยังแย่งชิงกันอยู่และข้อสาม สำคัญที่สุด แม้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ แต่บริหารไม่ได้ ดังนั้น ถ้า 8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันยังจับมือกันเหนียวแน่น แผนนี้ ก็ไม่มีวันสำเร็จ
ชวดนายกฯ-แก้ม.272ให้พท.ตั้งรบ.
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า พรรคก.ก.สนใจแต่วาระทางการเมือง ไม่สนใจวาระประชาชน ความเดือดร้อนประชาชนต้องมาก่อนวาระการเมือง มัวลากยาวสู้ใน 2สมรภูมิตามที่ประกาศเพียงจะทำเรื่องเชิงสัญลักษณ์นั้น นายณัฐชา กล่าวว่า พรรคก.ก.ออกโรดแมปมาให้ประชาชนเห็นชัดๆแล้วว่า เรามีแผนการอย่างไร จะสู้ใน 2สมรภูมิ ซึ่งมีกรอบเวลาชัดเจนทั้ง 2สมรภูมิ สมรภูมิโหวตนายกฯ ถ้าวันที่ 19กรกฎาคม คะแนนโหวตนายกฯ รอบ2 ยังห่างจาก376 ก็เป็นอันจบ รอสมรภูมิต่อไปคือการยกเลิกมาตรา272 ซึ่งต้องเข้าสภาฯ ภายใน 15วันหลังยื่นร่าง คือภายในวันที่ 29กรกฎาคมนี้ ถ้าผลออกมาคือร่างตก ก็จบเช่นกัน เรายอมถอยให้ พท.ตั้งรัฐบาล นายพิธา เองก็ประกาศไปแล้วว่า ถ้าไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็จะถอย เปิดโอกาสให้ประเทศ เพราะเวลาเรามีจำกัด จะลากไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เราคงไม่สามารถพูดชัดได้กว่านี้อีกแล้ว ส่วนการที่บอกว่า มัวแต่สู้เชิงสัญลักษณ์ ทั้งที่รู้ว่าแพ้ เรื่องนี้พรรคก.ก.ยืนยันว่า เรามีภารกิจต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะพรรคอันดับหนึ่ง ถ้าสู้เหยาะๆแหยะๆ ก็เท่ากับบอกประชาชนว่า เรายอมรับกฎที่อยุติธรรมและความผิดปกติในประเทศนี้ เราเป็นพรรคการเมือง เป็นผู้แทนราษฎร ต้องพิทักษ์เสียงประชาชนอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเอาไปทิ้งน้ำ ต้องสู้ถึงที่สุดก่อน เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้
‘ศิริกัญญา’มั่นใจโหวตรอบ2แต้มเพิ่ม
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าการประชุมวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี และมีการหารือเรื่อง เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่สอง รวมถึงเรื่องการยกเลิกม.272 ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ ขอเสียงสนับสนุนจาก 8 พรรคร่วม พร้อมทั้งไม่กังวลกับการเลือกนายกฯครั้งที่2 เราได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ หากประชาชนยังไม่ถอยเราก็ยังไม่ถอย และคิดว่าการเสนอชื่อ คุณพิธา อีกรอบนึงตามสมรภูมิที่เราได้แจ้งกับประชาชนไว้” ซักว่ายังยืนยันในเสียงสว.หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการทราบจำนวนว่า มีจำนวนเท่าไหร่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้เรามีการสื่อสารด้วยกันมาโดยตลอดว่า พรรคก้าวไกลจะติดต่อท่านไหนและพรรคเพื่อไทยจะช่วยติดต่อคือสว.ท่านไหน รวมถึงมีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ซึ่งการโหวตในรอบนี้จากที่มีการทำงานกันมาได้คะแนนเสียงเพิ่มเติมจากจำนวนส.ว.ที่ไม่เข้าร่วมประชุมในวันนั้น
แห้วนายกฯ-แก้272ล้ม/ให้พท.ตั้งรบ.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆแล้วเราไม่มีความกังวลใดๆ เราสัญญากับประชาชนไว้ว่า จะสู้กับ 2 สมรภูมิ ซึ่งเราจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อเสนอ นายพิธา เป็นนายกฯ พร้อมคาดหวังว่า จากสิ่งที่เราได้ทำแคมเปญ จะทำให้สว.เปลี่ยนใจมายืนเคียงข้างประชาชนก็คิดว่าเราจะได้คะแนนเสียงเพิ่ม ส่วนเรื่อง2สมรภูมิหากส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตตัวเอง ในม.272 ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้แจ้งกับประชาชนและสื่อมวลชนไว้ หากการต่อสู้ทั้ง 2 สมรภูมิไม่เป็นผล เราก็จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพท.ไม่พอใจการแก้ไขม.272เหมือนมัดมือชก จะหารือกันด้วยหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเด็นม.272 จะเป็นประเด็นที่หารือกัน เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขม.272ไม่ได้เป็นการมัดมือชกใดๆ คิดว่าเราน่าจะทำภารกิจนี้ร่วมกันทั้ง8พรรค ยืนยันว่า หาแก้ไขม.272ไม่สำเร็จพร้อมเปิดทางให้พรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตามที่ได้แถลงไว้กับประชาชน
‘แกนนำ-พิธา’โทรขอเสียงสว-รบ.เก่า
รายงานข่าวแจ้งว่า มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนที่พรรคก.ก.และพรรคพ.ท.จะหารือถึงเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีของ นายพิธารอบสอง วันที่ 19ก.ค.นี้ ได้หรือไม่ ในช่วงเย็นวันที่ 17ก.ค.นี้ โดยพบว่า ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีแกนนำใน 8พรรคร่วม อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล รวมถึง นายพิธา พยายามโทรศัพท์สายตรงหาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการโหวตนายกฯ รอบสอง รวมถึงโทรศัพท์สายตรงหา สส.หลายคนในพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบันและสว.ที่ลงมติงดออกเสียงและลงมติไม่เห็นชอบ เพื่อโน้มน้าวให้เปลี่ยนใจมาสนับสนุน โดยเป็นการพูดคุยในท่าทีที่อ่อนลง เป็นกันเอง และดูสนิทสนม แต่ยังไม่มีใครตอบรับ ขณะที่ปลายสายบางคนยังรู้สึกแปลกใจในท่าทีที่ นายพิธา โทรศัพท์มาหาด้วยตัวเอง
‘วราวุธ’รับ‘เสรีฯ’ต่อสายทาบร่วมรบ.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางลงมติโหวตนายกฯรอบสอง ในวันที่ 19กรกฎาคม ว่า ทุกครั้งก่อนที่จะมีการลงมติในสภาเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ ประเพณีของ ชทพ.คือ จะประชุมล่วงหน้า1ชั่วโมง โดยเวลา 08.30 น.วันที่ 19กรกฎาคม จะเชิญ ส.ส.ทั้งหมด 10คนของพรรค รวมถึง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ.และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางลงมติ
เมื่อถามถึงท่าทีของ 8พรรคร่วมที่จะเสนอให้โหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล รอบสอง นายวราวุธ กล่าวว่า ชทพ.ยังสงสัยอยู่ว่า ในเมื่อมีญัตติเสนอชื่อ นายพิธาไปรอบแรกแล้ว ยังจะเสนอรอบสองได้อีกหรือไม่ เพราะตามข้อบังคับการประชุมของสภา หากญัตติใดมีการเสนอแล้ว ลงคะแนนจนเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่น่าเสนอญัตติเดิมได้อีก จึงเป็นที่สงสัยว่า วันที่ 19กรกฎาคม ทางพรรคก้าวไกลและ8พรรคร่วม ยังสามารถเสนอญัตติเดิมได้อีกหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า ชทพ.มีแนวโน้มที่จะงดออกเสียงอีกใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอดูก่อนว่า ยังจะสามารถเสนอญัตติเดิมได้อีกหรือไม่ แล้วจึงจะหารือกันภายในพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่อาจไม่งดออกเสียง เพราะถ้าขัดกับแนวทางการทำงานของสภา เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอซ้ำอีกครั้งหนึ่ง”
‘สว.สมชาย’แย้งเสนอชื่อโหวตซ้ำ19ก.ค.
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เปิดเผยว่า วันที่ 18ก.ค.นายวันนอร์ ประธานรัฐสภา นัดหารือวิป3ฝ่าย โดยตนจะเข้าไปเรียนให้ทราบว่า ทางสว.มีความเห็นทางกฎหมาย ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่41 กำหนดชัดเจนว่าญัตติเสนอซ้ำไม่ได้ เว้นแต่เสนอสมัยประชุมหน้า ถ้าญัตติเป็นแบบเดิมเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯไม่ว่าจะด้วย 8พรรคร่วม หรือ7 หรือ9พรรคร่วมเป็นผู้เสนอ ก็ถือว่า สาระไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นถ้าวันที่ 19ก.ค.เสนอแบบดังกล่าวคงต้องมีการอภิปรายกันว่า ดำเนินการไม่ได้ เพราะเกรงว่ารัฐสภาจะดำเนินการขัดต่อกฎหมายและถ้าโหวต นายพิธา ผ่านก็จะถูกร้องว่า การกระทำนั้นไม่ชอบ ยืนยันอีกครั้งว่า ญัตติที่เสนอเดิมให้ นายพิธา เป็นนายกฯถือว่าตกไปแล้ว แต่ถ้าเสนอชื่อคนอื่นถือว่าเป็นญัตติใหม่
‘เสรี’ให้พรรคอันดับ2เสนอชื่อแทน
ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.กล่าวว่า ในที่ประชุมวันที่19ก.ค.คงจะมีประเด็นคำถามที่เกิดขึ้น หากมีการเสนอชื่อ นายพิธา เป็นนายกฯซ้ำอีก เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา272และข้อบังคับการประชุมฯข้อ41 ระบุชัดไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ ดังนั้นตนต้องแสดงจุดยืนให้ชัด ส่วนจะมีความเห็นอื่นๆอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องไปอภิปรายพิจารณาในสภาฯ นอกจากนี้ ในส่วนจุดยืนส่วนตัวของตนเห็นว่า ควรต้องทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา88 คือแต่ละพรรคที่เสนอบัญชีรายชื่อนายกฯมาแล้ว แต่ละพรรคต้องเรียงหรือเสนอให้ครบถ้วน หากไม่มีใครเสนอแล้ว หรือไม่มีทางออกที่จะเลือกนายกฯได้ ก็จะใช้ก๊อก2 ใช้เสียงเสนอกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา ถ้าเห็นชอบที่จะไม่ใช่บทบัญญัติในส่วนนี้ก็ใช้เสียง2ใน3 เพื่อเลือกคนนอกต่อไป แต่ในชั้นต้นต้องให้แต่ละพรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯตามที่ได้แจ้งความจำนงต่อ กกต.
‘สว.ตัวตึง’ลั่นไม่มีก.ก.พร้อมโหวตให้
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19ก.ค.ว่า น่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างที่ตนบอกใครที่ยังรักกัน ไม่ไปจดทะเบียนหย่ากัน มันก็ชัดเจนแล้ว เมื่อถึงวันนี้คงเป็นไปด้วยกันไม่ได้แล้ว ส่วนเขาจะตัดสินใจอย่างไรตนไม่ไปก้าวก่าย ส่วนการยื่นแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา272 ว่า ตนคิดว่ากระแสจะตีกลับไปที่พรรคก้าวไกลเอง เพราะการจะทำให้สำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ความจริงสว.ชุดนี้ก็จะหมดวาระในปีหน้าแล้ว ไม่แน่ว่าแม้เราจะหมดวาระไปแล้ว ยังจะแก้ได้อยู่หรือเปล่าสิ่ง ที่เสนอพรรคก.ก.เสนอให้แก้ครั้งนี้เป็น พฤติกรรมเหมือนเด็กงอแง รู้แล้วว่าเบื้องต้นมันต้องมีเสียงจากฝ่ายค้าน ตอนนี้มีแล้วหรือ ดังนั้นตั้งแต่วาระแรกก็เป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งวาระ3 ไม่ต้องพูดถึงยังต้องให้สว.โหวตอีกอย่างน้อย 84คน แค่เลือกนายกฯ นายพิธา ยังได้แค่ 13คน แต่นี่ต้องใช้ 84คน ไม่ทราบว่าจะไปเอาตรงไหน ยิ่งเห็นแบบนี้ เรายิ่งให้เป็น นายพิธาเป็นนายกฯ ไม่ได้ เพราะพฤติกรรมเหมือนเด็กเกเร
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาก็มีสว.หลายคนบอกว่า อยากจะปิดสวิตท์ตัวเอง ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าตรงนั้นมีแน่นอน เพราะที่ผ่านมามีการเสนอแก้ม.272 มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยสำเร็จและสว.ที่เห็นชอบก็มี แต่ครัั้งนี้ก็ไม่ถึง 84เสียงแน่นอน ตนรับประกันได้ ส่วนเหตุกผลที่จะร่วมฟ้องดำเนินคดีเกรียนคีย์บอร์ดนั้น ก่อนหน้านี้ตนได้อโหสิกรรมให้กลุ่มเหล่านี้ไป แต่ในที่ประชุมโดยเฉพาะมีทนายมาช่วยกันมากมาย ตนจะพิจารณาอีกทีว่า ต้องดำเนินคดีเป็นตัวอย่างด้วยหรือไม่ เพราะตนโดนเยอะที่สุด หากไม่ดำเนินการฟ้องร้องมันจะแปลกไป จริงๆจิตใจของตนได้แผ่เมตตาไปหมดแล้ว
“กิตติศักดิ์โดนทั้งข่มขู่ ไปถึงญาติลูกหลาน แต่ก็บอกว่า มีญาติที่ชื่อกิตติศักดิ์ ให้ทนไว้ ส่วนเรื่องโจมตีด้านธุรกิจนั้น ตัดไปเลย เพราะตนไม่มีธุรกิจ ด้อมส้มหรือใครจะไปเยี่ยมบ้าน ถ้าไปดีก็จะเลี้ยงข้าว แต่ถ้าไปไม่ดี กิตติศักดิ์ เป็นชาวนา ก็มีนาอยู่ ก็จะให้ไปช่วยทำนาด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี