‘ภูมิใจไทย’เจรจายื่นคำขาด
ไม่เอา‘ก้าวไกล’
บีบ‘พท.’เปลี่ยนสูตรรบ.ใหม่
‘เสี่ยหนู’ย้ำยืนคนละข้าง
ชาติพัฒนากล้าไม่แตะม.112
‘พิธา’โอดถูกสกัดนั่งนายกฯ
ปราศรัยลั่นไม่มีวันยอมแพ้
“เสี่ยหนู” นำทัพภูมิใจไทยยื่นคำขาดกับพรรคเพื่อไทย ถ้าจะให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลขณะที่เพื่อไทย เดินหน้าเจรจาต่อชาติพัฒนากล้า ได้คำตอบ คือต้องไม่แตะ ม.112 ด้าน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ลุยขอบคุณชาวชลบุรี ปราศรัยกลางฝน โอดถูกสกัดนั่งนายกฯ ไม่มีวันยอมแพ้ ลั่นใครจะถีบผมออกจากเรือไม่รู้ แต่ก้าวไกลไม่ยอม
สถานการณ์การเมืองไทย ภายหลังพรรคก้าวไกลประกาศถอยให้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เชิญแกนนำ8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลร่วมหารือและที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทยส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่27 กรกฎาคมนี้ โดยมี 3 แนวทาง ให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยรวมคะแนนเสียง สว.-สส.หนุนโหวตนายกฯพร้อมเป็นตัวแทนไปเจรจาเงื่อนไขลดเพดานมาตรา112 ก่อนคุย พรรคก้าวไกลยอมรับและหากรวมเสียงไม่สำเร็จ อาจมีทางเลือกอื่นที่ไม่มีบางพรรคอยู่ร่วมสมการนั้น
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามาที่พรรคตั้งแต่ 09.00 น. กล่าวว่า การพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยวันนี้ ไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไร แต่ทำต่อเนื่องจากที่แถลงเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันใน 8 พรรคที่ให้ไปพูดคุยกับ สว. และพรรคการเมืองอื่น เพื่อหาเสียงเพิ่มเติม โดยกติกาคือพูดคุยว่ามีแนวโน้ม จะได้เสียงเพิ่มจาก สว.และพรรคการเมืองอื่นอย่างไร หลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาพูดคุยกันใน 8 พรรคซึ่งเป็นแนวทางของที่ประชุมได้ให้ไว้
ขอบคุณ‘ภท.’ตอบรับเทียบเชิญ
ส่วนโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะเข้าร่วมรัฐบาลด้วย นายแพทย์ชลน่าน บอกว่า ต้องดูว่า พรรคภูมิใจไทย จะรับหนึ่งในสมการที่เป็นทางออกของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ คือ ยังมี 8 พรรคร่วม และมีพรรคก้าวไกล อยู่ด้วย
นพ.ชลน่านยังขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่จะมาพบวันนี้ทั้งที่ตนตั้งใจจะทำตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติที่ดีคือพรรคแกนนำจะไปส่งเทียบเชิญพรรคร่วมอื่นๆให้มาร่วมงานแต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยประกาศว่าจะให้เกียรติพรรคเพื่อไทย เราขอขอบคุณพรรคภูมิใจไทยและการติดต่อพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นหลังแถลงข่าวเสร็จว่ามีทิศทางเช่นนี้เราจึงเริ่มประสานงานโดยตนไม่ได้โทร.เองแต่ให้นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคฯเป็นผู้ประสาน
ระบุขอติดต่อพรรคที่เป็นไปได้
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังติดต่อชาติไทยพัฒนาแต่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้อยู่ในประเทศไทย จึงยังไม่ได้พูดคุย ขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเริ่มต้นกับพรรคที่มีโอกาสและเป็นไปได้ก่อน สิ่งที่ต้องการทราบคือเงื่อนไข 8 พรรคที่เราอยู่ร่วมกัน จะมีพรรคที่ 9 และ 10 จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน พรรคที่เราไปเทียบเชิญจะรับได้หรือไม่ เนื่องจากฟังจากแถลงการณ์แล้วไม่รับเลย ดังนั้น ต้องพูดคุยถึงเหตุผลถ้าคุยกันด้วยเหตุและผล เพื่อประเทศมีรัฐบาลต้องมีคนมาทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน อาจจะมีความหวัง ส่วนอีกหนึ่งพรรค อย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่มีกระแสมาตลอด ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด
พท.ร่อนเชิญ‘รทสช.-ชพก.’หารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากพรรคเพื่อไทยได้ออกหนังสือเชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมแกนนำพรรคภูมิใจไทยมาหารือเพื่อร่วมหาทางออกให้กับประเทศที่พรรคเพื่อไทยเวลา 14.00 น.แล้วนั้น
ในเวลา16.00 น. พรรคเพื่อไทย ยังเตรียมส่งหนังสือเชิญ พรรคชาติพัฒนากล้าประกอบด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ และในเวลา 17.00 น เตรียมส่งหนังสือเชิญ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย 1. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 2. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ 3. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 4. นางสาวพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติและทางออกของประเทศร่วมกัน
‘อนุทิน’หอบแกนนำภก.ถึงพท.
เวลา13.49น.ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เดินทางมายังพรรคที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เพื่อร่วมพูดคุยแนวทางเข้าร่วมรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ยิ้มรับรู้สึกดีได้กลับเยือนถิ่นเก่า
โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบว่าวันนี้การเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลได้ข้อยุติเลยหรือไม่ นายอนุทิน มีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนกล่าวว่า “วันนี้มาเยี่ยม และรู้สึกดี เพราะไม่ได้มาตึกนี้(โอเอไอ ทาวเวอร์)หลายปี”
เมื่อถามว่าจะมีข่าวดีหรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่าการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลแต่หากพรรคก้าวไกลลดเงื่อนไขม.112จะพิจารณาอย่างไรนายอนุทิน กล่าวว่า“ไม่มีคำว่าถ้า ไม่เช่นนั้น ก็ไม่จบ”ด้านนายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า “วันนี้เรามาร่วมกันหาทางออกของประเทศ”
พท.ขอบคุณภท.ถกหาทางออกปท.
เวลา14.40น. ที่พรรคเพื่อไทย(พท.)ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำแกนนำพรรคภูมิใจไทย เข้าหารือถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล กับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้วหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคอาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แนวทางที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ใช้เวลาร่วมหารือกันเป็นเวลาประมาณ 30 นาที
นพ.ชลน่าน ศรีน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคภูมิใจไทย นั่งร่วมแถลงครั้งนี้ โดยนพ.ชลน่านกล่าวว่าขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ให้เกียรติ ร่วมปรึกษาหารือ วันนี้เป็นหารือกับพรรคภูมิใจไทยในการ หาทางออกของประเทศในการจัดตั้งรัฐบาล สืบเนื่องจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกลมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากมีมติร่วมกันมอบให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการหาเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลให้ถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 375 เสียง จึงเริ่มพูดคุยหาเสียงจากพรรคการเมืองเริ่มจากพรรคภูมิใจไทย เพราะก่อนหน้านี้ติดเงื่อนไขของพรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก่อนหน้านี้ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา
ภท.ย้ำชัดถ้าร่วมรบ.ต้องไม่มีก.ก.
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า ตนเคยอาศัยอยู่ในอาคารหลังนี้มาก่อน กลับมาที่นี่รู้สึกดีใจ นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอดกับทุกคนในพรรคเพื่อไทย วันนี้ได้มารับทราบเจตนารมณ์จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ที่ตรงกับพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองและมีรัฐบาลโดยเร็วที่สุด แต่เราไม่ได้อยู่ในเอ็มโอยูของ8พรรคร่วมฯ ถ้ามีความร่วมมือกัน เราได้บอกเจตนารมณ์ไปแล้วเป็นไปตามแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทยก่อนหน้านี้
“ผมได้แจ้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้วถ้าเราจะเข้ามามีส่วนร่วมใดๆคงไม่สามารถทำงานได้ ถ้าการร่วมรัฐบาลยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งใด แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน ความคิด วิธีการทำงาน ทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงจะไปพิจารณาข้อจำกัดของเรา ถ้ามีอะไรที่สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ เราพร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน และประเทศไทย” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำ
ชี้ปลดล็อคต้องหารืออีกหลายรอบ
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลลดเพดานเรื่องมาตรา112 พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าได้แจ้งไปแล้วเกี่ยวกับข้อจำกัด มันเกี่ยวกับวิธีการทำงาน แนวความคิดที่เราอยู่ในสภาฯด้วยกันมา ยังมีความแตกต่างกันมาก เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่หากจะปลดล็อคการเมืองโดยที่พรรคภูมิใจไทยจะยกมือให้8พรรคร่วมฯและไม่รับตำแหน่งใดๆนายอนุทินตอบว่า ต้องหารือหลายรอบ ถ้าไปถาม ถ้าเป็นแบบนั้นแบบนี้มันยิ่งเปิดประเด็นไปเรื่อยๆขณะนี้เราต้องการรวบปลายให้ได้ แนวทางที่ดีที่สุด รอดู
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ในสภาต่างคนต่างมีบทบาท ถ้าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล มันก็จำเป็นต้องโหวตในความเป็นคนละฟากกัน แต่ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกหลายรอบหลายประเด็น แต่หากมีความจำเป็นว่าทำแล้วประเทศเดินหน้าได้เราก็จะพิจารณา
ขอ71เสียงภท.ไม่ได้/รอแจ้ง8พรรค
เมื่อถามว่า เงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทยที่ระบุ ถ้ามีพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถทำงานร่วมได้ พรรคเพื่อไทยจะกำหนดกรอบเวลาหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรามีข้อตกลงใน8พรรคร่วมฯในการพูดคุยหาเสียงเพิ่มเติม ถ้ามีคำตอบจาก8พรรคร่วมฯเช่นเงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทย ถ้ายังมีพรรคก้าวไกล ภูมิใจไทยร่วมงานไม่ได้ แม้มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หมายความว่า312เสียง บวก71เสียงเป็นไปไม่ได้ แต่กรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยที่จะไปพูดคุย เราวางแนวทางไว้แล้วที่จะรับข้อมูลนี้ไปทำตามกระบวนการ แล้วจะเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯเพื่อแจ้งข้อจำกัดดังกล่าว ส่วนจะแจ้งต่อ8พรรคร่วมฯ เมื่อไหร่นั้น เราต้องพยายามแสวงหาคำตอบจากทุกพรรคก่อน เพื่อไปแจ้งต่อ8พรรคร่วมฯ ว่าสิ่งที่เรารับภารกิจมา เราดำเนินการหมดแล้ว
พท.ปัดบอกเลิก‘ก้าวไกล’ทางอ้อม
เมื่อถามว่า ในทางการเมืองเป็นการบอกเลิกพรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสมมติฐาน ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะที่ 8พรรคร่วมฯมอบให้เราดำเนินการ เราพยายามประสานกับทุกพรรค ถ้าจะไปตั้งสมมติฐานแบบนั้นว่าจะเป็นการเตรียมการเพื่อบอกเลิกพรรคก้าวไกล คงเป็นสิ่งที่คิดเอง เราไม่ได้คิดแบบนั้น
เมื่อถามว่าจะฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมฯเดิมทิ้ง หรือจะแก้ไขใหม่หรือไม่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราดำเนินการตามที่ 8 พรรคร่วมฯมอบหมายให้เรามาและไปแจ้งกับ 8 พรรคร่วมฯ ฉะนั้น ต้องดูภายใต้เงื่อนไขนั้นก่อน ยังตอบไม่ได้ว่าจะฉีกหรือไม่
เตรียมคุยทุกพรรค/เล็งทาบพปชร.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเชิญทุกพรรคการเมืองหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราตั้งใจจะเชิญเกือบทุกพรรค ยกเว้นบ้างพรรคที่ยังไม่อยู่ในเงื่อนไขหรือคิดว่าพอเพียงแล้ว ส่วนจะมีการเชิญพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่อยู่ในเงื่อนไข ขณะที่การเชิญพรรคพลังประชารัฐ กำลังดำเนินการอยู่ว่าทำได้หรือไม่
เมื่อถามว่า การเชิญพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้เป็นการปิดตำนานความขัดแย้งในอดีตหรือไม่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเป็นสมมติฐาน เป็นคำถาม เชื่อว่าไม่มีความขัดแย้งใดๆ เมื่อถามย้ำถึงวลีดังทางการเมืองในอดีต “มันจบแล้วครับนาย”วันนี้มาเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องส่วนบุคคล
รอมีนายกฯ-รบ.ถึง10เดือนไร้ผลดีปท.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม เสนอให้เลื่อนการโหวตเลือกนายกฯออกไปก่อนอีก10 เดือน และขณะนี้ให้รัฐบาลรักษาการทำหน้าที่ไปก่อน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าเราเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง ต้องถามประชาชนว่าเขายอมหรือไม่ ที่จะมีรัฐบาลรักษาการยาวขนาดนั้น
นายอนุทินกล่าวว่า ขอตอบในฐานะเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ บทบาทของรัฐบาลรักษาการ มีข้อจำกัดในการปฎิบัติหน้าที่ หากรอเพียง 2-3 เดือน เพื่อให้สถานการณ์หลังการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ถือว่าได้ แต่ถ้ารอเป็น10 เดือน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีข้อจำกัดมากมาย มันไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง
เมื่อถามว่าในเอ็มโอยู มีเรื่องกัญชาเสรีต้องคุยกับ 8 พรรคให้ยกเลิกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นกัน8 พรรคร่วมฯ มอบให้เรามาพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย และ ทางพรรคภูมิใจไทย ยืนยันชัดเจนว่ามีข้อจำกัดหากมีพรรคก้าวไกล ก็ไม่สามารถร่วมได้ ซึ่งไม่ได้กระทบกับเอ็มโอยู
‘เสี่ยหนู’เชื่อตั้งรบ.น่าจะจบให้เร็วที่สุด
เวลา 14.50 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ถึงเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยยังไม่ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมรัฐบาลว่า การจัดตั้งรัฐบาลต้องถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะไปคุยกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่นั้น เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายดำเนินการเหมือนสมัยที่พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตนก็ไม่พยายามไปจัดตั้งรัฐบาลที่ไหน และรักษากติกามารยาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะจบในเร็วๆนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า”ก็น่าจะจบให้เร็วที่สุด เพราะระยะเวลาผ่านมากว่าสามเดือนแล้ว”
ชื่มมื่น!ชนแก้ว’มิ้นท์ช็อค’แกนนำพท.
จากนั้นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พานายอนุทินและแกนนำพรรคภูมิใจไทย เข้าไปยัง Thinklab creative space and cafe พร้อมนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะร่วมรับประทาน “ช็อคโกแลตมิ้นต์” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประจำพรรคเพื่อไทย
โดยนายอนุทินกล่าวชมว่ารสชาติอร่อยดีให้คะแนน11เต็ม 10 ก่อนที่ นพ.ชลน่าน จะพูดเสริมว่า 71 ซึ่งหมายถึงจำนวนเสียงของพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่ารับหลักการมิ้นต์ช็อคหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามสื่อว่า“คืออะไร”ผู้สื่อข่าวจึงอธิบายว่า แปลว่าอร่อยหรือไม่ ก่อนที่นายอนุทิน จะระบุว่า“ตามหัวหน้าชลน่านอร่อย กินแล้วชื่นใจ” เมื่อถามว่า มีโอกาสจะได้กลับมากินอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วแต่ว่าหัวหน้าชลน่าน จะเชิญมาอีกหรือไม่”
ถึงคิว!‘ชาติพัฒนากล้า’ร่วมถกพท.
ต่อมา เวลา 15.42 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมคณะ ได้เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย ตามเทียบเชิญโดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ
ระหว่างที่เดินทางเข้าตั้งแต่หน้าประตูพรรคเพื่อไทย มีการพูดคุยอย่างเป็นกันเองระหว่างนายภูมิธรรม กับนายสุวัจน์และนายเทวัญ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
‘สุวัจน์’เผยเหมือนได้มาเที่ยวบ้านเก่า
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสุวัจน์ว่ารู้สึกอย่างไรนายสุวัจน์ ระบุว่า”เคยอยู่ที่นี่เหมือนกัน เหมือนกลับบ้านมาเที่ยวบ้าน”ก่อนชำเลืองตามองบรรยากาศภายในตึกพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายภูมิธรรมตอบกลับไปว่า “เหมือนกลับบ้านเก่า” เรียกเสียงหัวเราะในวงสนทนาได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้วางแนวทางไว้อย่างไรบ้างนายสุวัจน์กล่าวว่า “เดี๋ยวคุยกัน เดี๋ยวไปหารือกัน”ก่อนที่เดินฝ่าวงสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวเพื่อเดินขึ้นลิฟท์ไปในทันที
แกนนำรทสช.เข้าคุย‘เพื่อไทย’
ต่อมา เวลา 17.00 น.แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย 1. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นางสาวพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติและทางออกของประเทศร่วมกัน
โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ เพื่อร่วมพูดคุยแนวทางเข้าร่วมรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
รทสช.ย้ำไม่ร่วมรบ.ก้าวไกล
ก่อนหน้านี้นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี โฆษก รทสช. กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยได้เชิญและทาบทามพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อหารือในการสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย ว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้ว
“ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงมีอุดมการณ์และจุดยืนเช่นเดิมว่าถ้ามีพรรคก้าวไกล ซึ่งมีนโยบายชัดเจนในเรื่องของ มาตรา 112 อยู่ร่วมรัฐบาล เราจะไม่สนับสนุนอย่างเด็ดขาด และจะไม่ร่วมรัฐบาลด้วย”โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ
‘พิธา’ลุยขอบคุณ ปชช.ชาวชลบุรี
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสำหรับความเคลื่อนไหวของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินสายขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลในพื้นที่ จ.ชลบุรี หลังพรรคสามารถคว้าที่นั่งส.ส.เขตในจ.ชลบุรี ได้ 7 คน โดยจุดแรกที่นายพิธาเดินสายขอบคุณประชาชน คือชายหาดจอมเทียน บริเวณชายหาดหน้าโรงแรม The Now Jomtien ได้มีประชาชนจำนวนมากรอนายพิธาขึ้นมาปราศรัยท่ามกลางสายฝน
โดยนายพิธาปราศรัยกลางสายฝนตอนหนึ่งว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็จะลงมาอยู่กับประชาชน พวกเรายังหมดหวังไม่ได้ อย่ายอมแพ้ ในเมื่อเราลงเรือลำเดียวกันแล้วทั้ง 8 พรรค จะต้องตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ รัฐบาลของประชาชนที่รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้กับประชาชน
“ผมจะไม่มีวันยอมแพ้ จะยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการที่อยู่กับพวกเราเป็นเวลายาวนาน แล้วถ้าพี่น้องถามว่า ถ้ามีการสกัดกั้นขนาดนี้เราจะไปยังไงต่อ จะให้ผมทำยังไงต่อมันก็ต้องสู้ ในเมื่อไม่ได้อยู่ในสภา ผมก็จะอยู่กับประชาชน ขอยืนหยัดเพื่อประเทศไทย ขอยืนหยัดที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป ให้สมกับความตั้งใจที่พี่น้องประชาชนให้เรามา”นายพิธา ระบุ
ลั่นใครจะถีบออกจากเรือแต่ก.ก.ไม่ยอม
นายพิธาปราศรัยว่าตอนนี้ถ้าเรือมันรั่วอยู่ คุณจะให้คนเสียสละออกจากเรือหรือจะให้อยู่ซ่อมเรือด้วยกัน ถ้าเรือมันรั่วเราจะถีบเพื่อนเราลงไปไหม เราต้องอยู่ช่วยกันซ่อมเรือ พวกเราทั้ง8พรรคที่ประชาชนเลือกมาช่วยกันซ่อมเรือ อุดรอยรั่ว ทำเรือให้เข้มแข็งและให้คนอื่นๆ ขึ้นเรือมา เรือมันก็จะถึงฝั่ง ขอแค่เรารักษาสัจจะ หาเสียงมาตั้งนาน ขึ้นเวทีดีเบตมาไม่รู้กี่ครั้ง แล้วที่มาขอคะแนน มาขอความไว้วางใจจากประชาชนมันไม่มีความหมายเลยหรือ ประชาชนไม่มีความหมายเลยหรือ แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม ถ้าอย่างนั้นคุณชี้มาเลย คุณจะเอาใคร
“ใครจะถีบผมออกจากเรือ ผมไม่รู้ ผมบอกอย่างเดียวว่าผมไม่ยอม ถ้าเรือมันรั่ว ต้องช่วยกันซ่อม ไม่ใช่มาถีบเพื่อนออกจากเรือและไม่ถีบประชาชนออกจากเรือด้วย 25 ล้านเสียง สู้ 250 เสียงไม่ได้ ให้มันรู้ไป ใครจะปล่อยมือก้าวไกล ปล่อยไป ขอพี่น้องประชาชนอย่าปล่อยมือก้าวไกล”นายพิธา กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการปราศรัยช่วงหนึ่งนายพิธาหันไปหาประชาชนพร้อมกับบอกว่า“น้ำตาไม่ไหล มีแต่กำลังใจ” ระหว่างที่นายพิธาปราศรัย มีเสียงประชาชนตะโกนว่า“นายกฯพิธา” ขึ้นมาตลอด
ต่อมานายพิธาได้เดินทางไปขอบคุณประชาชนในจุดที่ 2 ใต้สะพานข้ามแยกปากร่วม (หน้าโรบินสัน) บ่อวิน เวลา 17.00 น.
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลอีกรายหนึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ 2 ข้อความระบุว่า“สู้กับคนหน้าด้าน ต้องหน้าด้านกว่า เท่านั้น” พร้อมโพสต์อีกว่า“กูไม่ออก ออกแล้วประชาชนจะเอาอะไรแดก”
ทสท.ฉะหมากกลุ่มการเมืองเก่า
นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส - Treerat Sirichantaropas” ระบุว่า“การเดินหมากของ “กลุ่มการเมืองเก่า” เขาทราบดีว่าการที่พรรคเพื่อไทยจะหาเสียงสว.ให้ครบนั้น แน่นไปด้วยอุปสรรค เพราะคนถือเกมคือ 2 ลุง และไหนจะเรื่องการ “เสนอนายกฯคนไหนแล้ว เสนอซ้ำไม่ได้” ก็ทำให้เกมการต่อรองไปอยู่ที่ขั้วรัฐบาลเดิมมากขึ้น 8 พรรคร่วมฯ จึงถอยคนละก้าว ให้พรรคอันดับ2จัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย /ส่วนเรื่องแก้ไข ม.112 ก็ให้เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะเสนอในสภาเอง #ไม่ใช่ภารกิจตามMOU พรรคไทยสร้างไทย ก็ชัดเจนมาเสมอ หากเป็นสูตร 8 พรรคร่วมฯ ก็พร้อมยกมือให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีเงื่อนไข แต่สุดท้ายการเมืองก็คือเรื่องของอำนาจ เพราะด่านสำคัญคือการหาเสียงเพิ่มอีก 64 เสียง
ขั้วรัฐบาลเก่า ก็มาออกแคมเปญ“มีเรา ไม่มีก้าวไกล” อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อกดดันให้ 8 พรรคร่วมฯแตก และฉวยโอกาสนี้ในการฟอร์มรัฐบาล “ผสมขั้ว”หัวใจหลักเลยกลับมาอยู่ที่ผู้จัดตั้งรัฐบาล หรือพรรคอันดับ 2 ที่ถือกุญแจอนาคตของประเทศ จะเลือกอยู่เคียงข้างกองเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตย หรือจะเลือกข้ามขั้ว มุ่งสู่อำนาจ โดยไม่สนใจหัวประชาชน กลับสู่การเมืองยุคเก่า ส่วนตัวผมก็เชียร์อย่างเต็มที่ให้จับมือกันให้แน่นไปด้วยกัน 8 พรรคฯ เพื่อฟอร์มรัฐบาลของประชาชน และหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะเสียง สว.ไม่ถึง ก็เป็นฝ่ายค้านด้วยกันสัก 10 เดือนจะเป็นไรไป พอ สว.หมดอำนาจ ก็ตั้งรัฐบาลของประชาชนด้วยกัน ดีกว่าปล่อยให้พวกการเมืองเก่าๆ กลับมาหากินบนความทุกข์ของประชาชนเหมือนเดิม”
ชาติพัฒนากล้าไม่แตะม.112
ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายเทวัจน์ ลิปตพัลลภ เลขาฯชาติพัฒนากล้า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนกล้า แถลงร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย
ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า ก่อนการหารือกับพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชาติพัฒนากล้า ชุดรักษาการ ได้ประชุมและมีมติพรรคในจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรค ชพก. ยินดีให้การสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วง และไม่ให้เกิดสูญญาการในการบริหารบ้านเมือง เพราะมีวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนรอการแก้ไข
ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังมีจุดยืนที่ประกาศกับประชาชนไว้กาอนการเลือกตั้ง 4 เรื่อง ที่จะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาล 1.สนับสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อยเพื่อสร้างเสถียรภาพการเมืองและบริหารประเทศลุล่วง 2.สนับสนุนพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลเมือง แต่เมื่อจัดตั้งไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับ 2 3.แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจสินค้าราคาแพง 4. จุดยืนเรื่องมาตรา112 ต้องคงไว้ ไม่มีการแก้ไข หรือนกเลิก ขอย้ำว่าพรรคชาติพัฒนกล้า จุดยืนทางการเมืองที่คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เพื่อสร้างบรรทัดฐานการเมืองไทยว่า พูดอะไรไปก็ต้องทำสิ่งนั้น
“ในจุดยืนของเราทั้ง4ข้อ เราเชื่อมั่นภายใต้การนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ3ข้อแรก ไม่มีปัญหา แต่ในข้อที่4ประเด็นการแก้ไขมมาตรา112 ที่เป็นแนวทางของพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า เราพร้อมเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยจัดตั้ง และสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่หากพรรคก้าวไกล หรือกการแก้ไขมาตรา112 ยังคงอยู่ พรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่สามารถไปร่วมรัฐบาลภายใต้การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทยได้ เพราะไม่เป็นไปตามมติพรรคที่ได้ประกาศกับประชาชน” นายสุวัจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี