เปิดดีลลับย้อมใจ!แลก‘เสียงสวรรค์’ โหวตหนุน‘เพื่อไทย’ ถึงฝั่งฝันสู่‘ทำเนียบรัฐบาล’
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสถานการณ์การเมืองสุดร้อนแรงกับการ “จับขั้วจัดตั้งรัฐบาล” ล่าสุด “พรรคก้าวไกล” ถูกเททิ้งจาก “พรรคเพื่อไทย” อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่2ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไทยตั้งโต๊ะ “แถลงการณ์” เนื้อหาหลักใหญ่ใจความสำคัญ ที่พอจะสรุปได้คร่าวๆคือ หลังจาก “8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล” ส่งมอบภารกิจให้เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ต่อจากก้าวไกล ที่...
ติดหล่มมาตรา112!!!
ทำให้ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา ตั้งแต่คราวโหวต “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯในรัฐสภาเมื่อ 13 ก.ค.66 แต่ภายใต้เพื่อไทย มาเป็นแกน ที่ยังต้องขอเสียงสนับสนุนทั้งจากสว. และส.ส. “หล่มใหญ่” มาตรา112ก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญกับก้าวไกลที่ยังผูกกันเป็น “ข้าวต้มมัด” จนเจอแต่ทางตัน
ไปไหนใครก็ยี้...
จึงได้หารือก้าวไกล ได้ข้อสรุปคือพรรคส้ม ขอ “ถอนตัว” จากการร่วมมือฟอร์มรัฐบาล แล้วไปเป็นฝ่ายค้าน
ทางเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ และจะเสนอ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯของพรรค ในการประชุมรัฐสภา วันที่4ส.ค.นี้ เพื่อขอเสียงโหวตหนุนเป็นนายกฯ แบบฉีก “เอ็มโอยู” 8พรรคร่วมฯเริ่มแรกทิ้งแบบ “ขาดวิ่น” คร่าวๆก็ประมาณนี้ ส่วนหลังจากนั้น จะไป “รื้อ-แก้รัฐธรรมนูญ” แล้ว “ยุบสภา” คืนอำนาจประชาชนเลือกตั้งใหม่ เป็นอีกขยักที่ต้องตามกันต่อ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้นายกฯ-ตั้งรัฐบาลเลย
แม้ล่าสุด วันโหวตนายกฯ4สิงหาฯนี้ จะต้องถูก “เลื่อน” ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตามปากคำของ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา ภายหลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่ ตามที่ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ได้ขอให้ศาลฯพิจารณาวินิจฉัยกรณีการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี(นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล) ให้รัฐสภาเห็นชอบ รอบที่2 เป็นการเสนอญัตติซ้ำตามข้อบังคับการประชุมข้อ41หรือไม่ ออกไปเป็นวันที่16ส.ค.นี้ เนื่องจากต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน
คงต้องมาว่ากันที่ “หน้างาน” อีกครั้ง ว่าจะลงเอยอย่างไร แต่ห้วงระหว่างทางก่อนที่จะไปถึง16สิงหานี้จะมีการชี้ชะตา ก็ยังถือว่าหายใจได้อีก “เฮือกใหญ่” สำหรับการขับเคลื่อน “ดีล” ต่างๆ ที่ต้องเจรจา พูดคุย ต่อรอง ไปจนกระทั่งยื่นคำขาด ในการรวมเสียงตั้งรัฐบาล จะเรียกว่า “ฝุ่นตลบอบอวล” ก็คงไม่ผิดนัก หน้าตาของเหล่าพรรคร่วมรัฐบาล(ใหม่) ที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะออกมาเป็นอย่างไร บรรดา “สื่อมวลชน” ต่างรับข้อมูลในห้วงฝุ่นตลบนี้กันมามากมายหลายทาง
เท่าที่ประมวลภาพรวมสรุปมา ทั้งรายงานข่าวน้อยใหญ่ ไปจนกระทั่งแหล่งข่าวระดับสูงถึงสูงปรี๊ด บนหน้าแพลตฟอร์มข่าวยันหน้า1หนังสือพิมพ์ พอจะเห็นหน้าตาทีมฟอร์มร่วมรัฐบาลใหม่ ประมาณนี้ “พรรคเพื่อไทย” 141เสียง แกนนำตั้งรัฐบาล ไปจับกับ “ขั้วรัฐบาลเดิม”อย่าง “พรรคภูมิใจไทย” 71เสียง “พรรคชาติไทยพัฒนา” 10 เสียง
โดยมี8พรรคร่วมฯที่ยังปักหลักอยู่ ได้แก่ “พรรคประชาชาติ” 9 เสียง “พรรคเพื่อไทรวมพลัง” 2เสียง “พรรคเสรีรวมไทย” 1 เสียง และ “พรรคพลังสังคมใหม่” 1 เสียง โดยมี “พรรคชาติพัฒนากล้า” เข้ามาอีก 2 เสียง นอกนั้นเป็นพรรคเล็กคนละ1เสียง ได้แก่ “พรรคครูไทยเพื่อประชาชน - พรรคประชาธิปไตยใหม่ - พรรคใหม่ - พรรคท้องที่ไทย” รวมทั้งสิ้น 252 เสียง
ขณะที่พรรคที่คาดว่าจะเป็น “ฝ่ายค้าน” ได้แก่ “พรรคก้าวไกล” 151 เสียง “พรรคพลังประชารัฐ” 40 เสียง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” 36 เสียง “พรรคประชาธิปัตย์” 25เสียง “พรรคไทยสร้างไทย” 6 เสียง และ “พรรคเป็นธรรม” 1 เสียง
เป็นที่ชัดเจนว่า เพื่อไทย ยังพยายาม “กัดฟัน” ยืนกรานตามจุดยืนที่หาเสียงป่าวประกาศสัญญากับชาวบ้านก่อนเลือกตั้งไว้ว่า “มี2ลุงไม่มีเรา” แม้ “ยุทธการไล่หนูตีงูเห่า” จะแตกไม่เป็นท่า เพราะจำต้องดึง “หนู” มาร่วมมุ้ง แรงกดดันยังน้อยกว่าถูกครหาว่า “ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว” กับ “ฝ่ายเผด็จการ” ตามที่ “ม็อบด้อมส้ม” มา “ขู่กดดัน” ฮึ่มๆว่าถ้าทำอย่างว่าเมื่อไหร่ จะ “ปลุกม็อบ” เดือดๆลงถนนแถม “ชูนิ้วเดียว” ให้ด้วย
บริหารสถานการณ์กันไปตามหน้างานที่ต้องดูว่าจะวุ่นวายหนักหรือไม่ แต่อีก “สิ่งสำคัญ” หนึ่งคือการ “บริหารผลประโยชน์” เพื่อขอรับเสียงสนับสนุนเทโหวตให้เศรษฐาในรัฐสภา ในการผงาดนั่งนายกฯคนที่30ของประเทศไทย สิ่งสำคัญคือยังต้องพึ่งเสียงสมาชิกวุฒิสภา(สว.) อีกตั้งประมาณร่วมๆ150คน เพื่อให้เสียงถึงฝั่งฝันเข้า “ทำเนียบรัฐบาล” ที่376เสียง
มีการป้องปากคุยกันในทาง “เชิงลึก” ว่า แม้พรรคที่จำต้อง “กระเด็น” ไปเป็นฝ่ายค้าน จับกันจะๆเลย ก็คือ “พรรค2ลุง” อย่าง “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” ไปจนถึง “ประชาธิปัตย์” ที่ร่วมกันไม่ได้ด้วยเป็น “ไม้เบื่อไม้เมา” กันมาตั้งแต่ก่อตัวเริ่มความขัดแย้งแบบสีเสื้อ คงไม่ต้องถึงขั้น “อดอยากปากแห้ง” แล้ว
เพราะมีการเสนอล่วงหน้าให้พรรคดังกล่าวเหล่านี้ เมื่อถึงเวลาพรรคเพื่อไทยฟอร์มทีมตั้ง “คณะรัฐมนตรี” มีสส.ฝ่ายรัฐบาล - ฝ่ายค้าน เต็มรูปแบบเข้าที่เข้าทางแล้ว จะเปิดทางให้พรรคที่เป็นฝ่ายค้านอย่าง “2ลุง-ปชป.” สามารถเสนอ “คนในคอนโทรล” ของตัวเอง เข้ามามีตำแหน่งแห่งหนเป็นองคาพยพในครม. แบบลับๆแบบรู้กันเงียบๆ
ตลอดจนตำแหน่งสำคัญๆในสภาฯ หรือในกรรมาธิการ “ชิ้นปลามัน” เนื่องด้วยเพราะต้องการเสียงยกมือหนุนเศรษฐา จากฝั่ง “ผู้แทนฯ” มากกว่าที่จะต้องไปพึ่งเสียงจาก”สภาสูง” เป็นส่วนใหญ่นั่นเอง อาจจะต้องพึ่ง สว.เพียงไม่กี่เสียงก็ยังดีกว่า ว่ากันว่านี่คือการเดินเกมรูปแบบหนึ่งที่มีการ “ถอดบทเรียน” มาจากช่วงพรรคส้ม เป็นแกนตั้งรัฐบาล ที่มักไปมุ่งที่การขอเสียงสว. เป็นหลักใหญ่ จน “แตกพ่าย” ไม่เป็นท่า เสียเชิงตั้งรัฐบาลให้เพื่อไทย
มันคือการบริหารผลประโยชน์ที่ต้อง “ต่างตอบแทน” ให้มีความเสี่ยงน้อยลง มีความชัวร์มากขึ้น ในอีกทางยังเป็นการช่วย “ย้อมใจ” แบบกลายๆ ใครเป็นฝ่ายร่วมรัฐบาล ก็รับไปเต็มๆตามโควตาการแบ่งสรรปันส่วน หรือแบ่งเค้ก ส่วนฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้ปล่อยให้ “อดอยากตายซาก” ซะทีเดียว ยังพอมีตำแหน่งแห่งหนเป็นที่ลง ให้พอได้รับผลประโยชน์
นี่เป็นเพียงการคาดการณ์คร่าวๆถึงหน้าตาว่าที่ “พรรคร่วมรัฐบาล” กับ “ว่าที่ฝ่ายค้าน” ถึงแม้การเปิดตัว “ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลขั้วใหม่” ที่จะเปิดปากแถลงโดยพรรคเพื่อไทย ต้อง “ล่ม” ตาม “โรคเลื่อน” โหวตนายกฯ แต่การดำเนินการแบบ “กำลังภายใน” ก็คงจะมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ถือซะว่าทั้ง “ล่ม-เลื่อน” ก็จะได้มีเวลาขยับขยายดีลต่างๆให้ลงตัวก่อน16ส.ค.
หลังจากนั้นคงจะมีความชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่านี้ คงต้องมาจับตาดูกันว่า นอกจากดีลจัดตั้งรัฐบาลที่จะปรากฏสู่สาธารณชนจะเป็นแบบไหนแล้ว ดีลผลประโยชน์ต่างตอบแทน แบบ...
แลกสลับแลก
เพื่อเสียงสส.อันล้ำค่า ในการผลักดัน “ชายร่างโย่ง” ที่ชื่อ “เศรษฐา” ขึ้น “ตึกไทยคู่ฟ้า แห่งทำเนียบรัฐบาลไทย” โดยไม่ต้องง้อ สว.มากมาย จะเกิดขึ้นหรือไม่ “คอการเมือง” อย่าพลาดเด็ดขาด
#ทีมข่าวการเมืองแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี