พท.ประกาศจับมือรทสช.
รวมได้แล้ว314เสียง
แจงปท.วิกฤต-สลายขัดแย้ง
นัดแถลงทุกพรรคก่อนโหวต
‘วันนอร์’กางไทม์ไลน์22ส.ค.
เริ่ม10โมงเช้า/ลงมติ5โมงครึ่ง
‘จเด็จ’เชื่อผ่านด่าน‘สว.’ยาก
“บิ๊กตู่” นำคณะตรวจก่อสร้างรถไฟรางคู่ ย้ำฝากถึงรัฐบาลใหม่สานงานต่อ บอกรถไฟมีหลายขบวน ไม่มีวันสิ้นสุด ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ลั่น หัวขบวนดีไปได้ตลอด ถ้าไม่ดีล้มทั้งขบวน “อนุทิน” เชื่อพท.เร่งปิดดีลก่อน 22 สิงหาคม จะเดินหน้าคุยทุกพรรคให้เรียบร้อย“เพื่อไทย”ย้ำชู“เศรษฐา”ลั่น 22 สิงหาคม มั่นใจได้นายกฯแน่หวังได้เสียงเกิน 376 เสียง หวังส.ส.ร.ลุยแก้รธน.เป็นปชต.“วิทยา”สอนมวย“เพื่อไทย”แนะเคลียร์ร่วมรบ.หลังฉากให้จบ แถลงชัดๆทีเดียว เชียร์“เศรษฐา”โชว์วิสัยทัศน์ เคลียร์สารพัดปม เตือนเวลาเหลือน้อยแล้วระวังพลาดท่า “เพื่อไทย” ยังดีล“รทสช.” ไม่จบ เกลี่ยเก้าอี้ รมต.พลังงานไม่ลงตัว ย้ำต้องจบแบ่งกระทรวง ก่อนโหวตนายกฯ ด่วน! “รทสช.” แจ้งแถลงข่าว ท่ามกลางกระแสข่าวจับมือ “เพื่อไทย” ร่วมรบ.“ปธ.วันนอร์”นัดประชุมรัฐสภา 22 สิงหาคม เริ่ม 10 โมง-ลุยถกญัตติ “โรม”ต่อ ขอเร่งหาข้อยุติ ก่อนโหวตนายกฯ’บ่าย 3 คาดลงมติจบ 5 โมงครึ่ง ซาวด์เสียง สว.ชี้‘เศรษฐา’ฝ่าด่านนายกฯยาก ปมเลี่ยงภาษีที่ดิน ยังคลุมเครือ-ปัจจัยไม่เอื้อ ‘ภูมิธรรม’รับต่อสายคุย‘รทสช.’เจรจาหนุน พท.ตลอด บอกก่อนโหวต 22ส.ค. ทุกพรรคต้องประกาศชัด
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 สิงหาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทินายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รักษาราชการแทน รมว.คมนาคม
‘บิ๊กตู่’นำตรวจก่อสร้างรถไฟรางคู่
โดยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ สถานีรถไฟหินลับ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จากนั้น นายกฯขึ้นขบวนรถไฟหมายเลข3 บชส.1221จัดเฉพาะระยะทาง 300 เมตรไปยังบริเวณอุโมงค์ผาเสด็จ
โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าว ระหว่างอยู่บนรถไฟว่า ไม่ได้นั่งมาหลายปีแล้ว เราชอบขนมอาหารที่ขายข้างทางรถไฟ เช่น ข้าวเหนียวเนื้อ ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกภูมิใจหรือไม่กับผลงานนี้ นายกฯกล่าวว่า ก็ต้องภูมิใจไปด้วยกัน ไม่ใช่จะว่ากันไปกันมา มันก็จะไม่เสร็จ
ชี้ถ้าหัวขบวนไม่ดีล้มทั้งขบวน
เมื่อถามว่าถือเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของรัฐบาลนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อะไรสุดท้ายมีตั้งหลายขบวน รถไฟมันไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ถ้าทุกคนช่วยกันทำมันก็ไปข้างหน้าได้ มันถึงเกิดได้ไงฉะนั้นรถไฟยังมีหัวขบวน ถ้าหัวขบวนดีก็ไปได้ตลอด ถ้าหัวขบวนไม่ดีก็ล้มทั้งขบวน มันไปไม่ได้เข้าใจหรือเปล่า เข้าใจไหม
ย้ำฝากถึงรัฐบาลใหม่สานงานต่อ
เมื่อถามว่าจะฝากไปถึงรัฐบาลใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าไม่ไปเกี่ยวกับเขาหรอกก็เรื่องของเขาสิ เราทำไว้ให้หมดแล้ว จากนั้น ขบวนรถไฟได้เคลื่อนตัวออก ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าขบวนรถไฟนี้ยังมีเสี่ยหนูนั่งอยู่ด้วย ขณะที่นายอนุทินนั่งอยู่ด้านหลังนายกฯถึงกับหัวเราะเสียงดังชอบใจ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะต่อขบวนกันไปแบบนี้ไปตลอดหรือเปล่า พล.อ. ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามย้ำว่าจะฝาก นายอนุทินไปสานงานต่อในรัฐบาลหน้าหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ฝากทุกคนนั่นล่ะฝากเสี่ยหนูก็ฝาก”เมื่อถามว่า ฝากไปถึงรัฐบาลหน้าด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไปถามนายกฯใหม่เขานู้น
‘อนุทิน’เชื่อพท.เร่งปิดดีลก่อน22สค.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่าไม่ทราบ กรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมหารือกับพรรครวมไทยสร้างชาติในการจัดตั้งรัฐบาล ในของส่วนพรรคภูมิใจไทยจะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยวันที่เท่าไหร่นั้น นายอนุทิน บอกว่า นัดคุยกันอยู่ ก็คงจะต้องคุยกับทุกพรรคให้เรียบร้อยก่อนมั้ง เมื่อถามว่าทุกอย่างจะต้องตกผลึกก่อนวันที่ 22 ส.ค.ใช่หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า”เขาเร่งหารือกันอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่าพรรคภท.มีความเห็นอย่างไรถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภาที่ห้ามเสนอญัตติการเสนอชื่อนายกฯซ้ำที่ยังค้างวาระการประชุมรัฐสภา แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะตีตกคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้วินิจฉัย นายอนุทิน กล่าวว่า ตามกฎหมาย คำสั่งศาล ใครจะกล้า
‘พท.’ชู‘เครษฐา’22ส.ค.ได้นายกฯแน่
ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวขอบคุณ 2 พรรคเล็ก คือ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเพื่อฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ให้มีนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างสำเร็จ
โดยนายอดิศรระบุว่าพรรคเพื่อไทย ยืนยันที่จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 สิงหาคม นี้ หากไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกฝ่าย เพื่อไทยจะนำไปสู่ความสำเร็จนั้นยาก โดยพรรคเพื่อไทยพร้อมให้สัญญาว่าจะทำให้ชาติบ้านเมืองฝ่าอุปสรรค ฝ่าสิ่งขวางกั้นทุกเรื่อง เพื่อนำไปสู่การปลดล็อคในทางการเมือง สลายขั้วการเมือง ให้ทุกฝ่ายมาแสดงความคิดเห็น แสดงการบริหารราชการแผ่นดินไปพร้อมๆกัน
ลั่นจะทำให้ได้เสียงเกิน 376 เสียง
“ประเทศจะต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เข้ามาทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย และนโยบายใดที่พรรคเพื่อไทยได้รับปากไว้กับประชาชนไว้ เมื่อโหวตนายกฯผ่าน หลังจากนี้จะคณะรัฐมนตรีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ให้คำมั่นสัญญาว่าวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เราจะทำให้คะแนนเสียงเกิน 376 เสียงจาก สมาชิกรัฐสภาเพื่อให้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี” นายอดิศร กล่าว
‘สมศักดิ์’เชื่อดีลจบก่อนโหวต1-2วัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดีลจัดตั้งรัฐบาลและจัดสรรตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าเมื่อมีการกำหนดวันโหวตเลือกนายกฯวันที่ 22 ส.ค.ก็เชื่อว่า การตกลงเก้าอี้รัฐมนตรีจะจบภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนมีการดีลไม่ลงตัวหรือไม่นั้น คนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในทีมเจรจา ข่าวที่ออกมาแต่ละวัน ก็สร้างความสับสนให้กับผู้คน แต่เชื่อว่าดีล จะจบก่อนโหวตเลือกนายกฯเพราะพรรคร่วม ต้องการอย่างนั้น พรรคแกนหลักก็ต้องตอบสนองในส่วนที่ทำได้
ส่วนความชัดเจนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)จะมาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ หลังนายสมศักดิ์พูดคุยกับนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครทสช.นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปเชิญมาร่วมรัฐบาล เพียงแค่เจอกันก็พูดคุยกัน แต่ใน1-2วันนี้ไม่มีความคืบหน้า
‘วิทยา’เชื่อพท.ตั้งรบ.เสร็จใน21ส.ค.
นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวถึงความคืบหน้าการหารือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทางหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้โดยสรุปยังไม่มีอะไรคืบหน้าในวันพรุ่งนี้(18ส.ค.)ประธานรัฐสภาจะนัดหารือกับตัวแทนพรรคการเมืองทุกฝ่ายเพื่อจะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันที่ 22 ส.ค. มีวาระหลักโหวตเลือกนายกฯ
“ผมคิดว่า เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยที่รับช่วงต่อจากพรรคก้าวไกลในการตั้งรัฐบาล เพื่อไทยต้องทำภารกิจในการตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 ส.ค. การทำภารกิจให้เสร็จ ไม่ใช่การนัดคุยกัน แต่หมายถึงการตั้งรัฐบาลจริงๆมีการตกลงทางนโยบายว่ารัฐบาลที่จะที่จะเกิดขึ้นใหม่ ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเป็น จะมีนโยบายหลักอะไรบ้าง พรรคการเมืองทุกพรรครับได้ หรือไม่ สุดท้ายที่คิดว่าจำเป็น คือ การแบ่งหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ต้องตกลงให้เสร็จ แต่ถ้ายังไม่เสร็จ แล้วใครก็ตามเสนอเข้าสภา ผมก็คิดว่าถือเป็นเรื่องยังไม่เสร็จ”นายวิทยา กล่าว
ปัดยังไม่รู้ รทสช.ดอดคุย‘พท.
เมื่อถามว่าได้ยินสัญญาณการหารือกับพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ เห็นว่าจะคุยกันวันนี้(18ส.ค.) นายวิทยา กล่าวว่า ทราบจากสื่อมวลชนว่า จะมีการหารือกันที่สภาฯ แต่ตนยังหาไม่เจอ เพราะสภาฯใหญ่มาก คงหายาก แต่พรรคเรามอบภารกิจให้หัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรค ไปเจรจา ส่วนเงื่อนไขของการร่วมรัฐบาล ต้องรอฟังรายงานจากทั้ง2 คน
“ผมคิดว่า เวลาเหลือน้อย เพราะล็อกวันไว้ 22ส.ค.ต้องตัดสินใจว่า จะเอาใครเป็นนายกฯ คนที่เป็นนายกฯต้องเป็นตัวจริงแล้ว หากพลาดท่าก็ครั้งเดียวจบ เพราะฉะนั้นต้องเป็นนายกฯที่ทุกฝ่ายเชื่อมั่นรับได้ ส่งเข้ามาแล้วต้องผ่าน เป็นรอบที่ไม่มีสิทธิ์แก้ตัว เพราะกฎหมายค้ำคอไว้หมดแล้ว” นายวิทยา กล่าว
ต้องให้เวลา‘เพื่อไทย’จัดการ
เมื่อถามว่าคิดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้เลยหรือไม่นายวิทยา กล่าวว่า คงไม่รีบ อาจจะได้ถึงวันที่ 21 ส.ค. ต้องให้รอบคอบ ถ้าจะให้ดีตนเสนอว่าควรฟังว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมวันใดแล้วค่อยนัด อย่าเพิ่งไปกำหนดกดดันว่าจะต้องวันที่ 22 ส.ค. ถ้าพรรคเพื่อไทย ขอเวลาเพิ่มก็ต้องเลื่อนอีก ต้องฟังพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมเสนอแคนดิเดตนายกฯวันไหนแล้วค่อยนัดวันทีเดียวจบ หากไม่จบมันจะยุ่ง การเมืองจะเปลี่ยนไป ถ้าไหลจากคนที่เสนอมาคนแรก คนที่ 2-3 อาจเอาไม่อยู่ อย่างนี้อาจไปถึงพรรคที่ 3 ดังนั้น คงต้องให้เวลาพรรคเพื่อไทยจัดการ
ชี้ต้องเปิดอกคุยกันตั้งรบ.แบ่งให้เคลียร์
เมื่อถามว่าแต่ละพรรคร่วมได้ออกมาพูดถึงการแบ่งโควตารัฐมนตรี หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ชัดเจนจะเดินตามหลังเขาหรือไม่นั้น นายวิทยากล่าวว่า ถ้าจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน ไม่แบ่งงานกันก่อนก็ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้การพูดคุยยังไม่จบ ถ้าเขาบอกแล้วว่า จบก็คือจบ ตอนนี้MOUมันหมดสมัยแล้ว เอาไว้หลอกเด็กได้ แต่ถึงเวลาจริง ก็ต้องมาเปิดอกคุยกัน คิดอะไรก็ได้ ความจริง ถ้าจะเอาอย่างที่คิด คงไม่มีใครร่วมกับคุณ พรรคผมหิ้วกระเป๋าไป แต่จะได้ หรือไม่ได้ ก็ต้องคุยกัน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ถนัดด้านไหน ตนไม่ทราบและไม่กล้ายืนยัน
เมื่อถามว่าก่อนจะมีการโหวตนายกฯพรรคเพื่อไทย ควรตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พรรคร่วมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า“ผมว่าควรหยุดแถลงข่าวก่อน คุยกันให้จบก่อนแล้ว ค่อยมาแถลง ไม่ใช่นัดกันตอนเช้า แล้วตอนสายไปกินกาแฟโชว์ มันพอแล้ว ชาวบ้านรำคาญ เมื่อไหร่จะจบสักที เอาให้จบ แล้วค่อยมาเถอะ อย่าให้อารมณ์ชาวบ้านไปถึงขนาดนั้นว่ารำคาญ ดังนั้นประธานรัฐสภาควรรอให้พรรคเพื่อไทยพร้อมก่อน แล้วค่อยมาแล้วทุกทีที่ผ่านมา ได้ ไม่ได้ก็ราคาต่อรอง มีได้มีเสียกัน จนหมดสตางค์แล้ว เอาให้จบเสียที เดี๋ยวก็ยุ่งกันอีก”
สอนพท.คุยให้จบแถลงชัดๆทีเดียว
เมื่อถามย้ำว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่โหวตให้หากการเจรจา ยังไม่จบใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่าง ยังไม่จบว่าเขาจะเอาหรือไม่เอาเรา จะไปพยากรณ์ว่าจะโหวตหรือไม่โหวตไม่ได้ แต่ถึงเวลา ตนก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไร ขอย้ำอีกครั้งว่า อย่าไปแถลงข่าวบ่อยๆ ต้องรอให้ทุกอย่างจบก่อน
“ไม่ใช่เจอกันทีก็แถลงที อย่างนี้เป็นนัดแถลงข่าว ไม่ใช่นัดมาทำงานกัน ผมว่าถ้าให้ดี 3-4 วันนี้ มีเวลาก็หาที่เงียบๆคุยกัน ไม่ต้องบอกสื่อก็ได้ คุยให้จบแล้วมาทีเดียว แล้วสื่อก็ไม่ต้องไปตาม ให้เขาหายใจกันหน่อย หายใจยาวๆสบายๆ แล้วแถลงทีเดียวจะได้จบ” นายวิทยา กล่าว
หนุน‘เศรษฐา’โชว์วิสัยทัศน์เคลียร์ทุกปม
เมื่อถามถึงคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เหมาะสมในสถานการณ์นี้หรือไม่ว่า มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องรับฟัง ให้รอบคอบ เพราะไม่มีโอกาสแก้ตัว ส่วนนายเศรษฐา ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกฯหรือไม่นั้น มองว่าเป็นเรื่องปกติ การจะปลุกเสกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นรูปลอยก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีเวลาจริงๆไม่ถึงกับเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ แม้ไม่ได้เป็น ส.ส.แต่ที่ผ่านมาข้าราชการที่มาชี้แจงต่างๆก็ไม่ได้เป็นสส. เขาก็ยังเข้ามาชี้แจงได้ อยู่ที่อำนาจของประธาน
“ผมเชื่อว่าประธานไม่ขัดข้องอยู่แล้ว แต่เรื่องที่น่าเกลียด ก็คือคนมาตะลุมบอนเบื้องหลังกันก็ไม่สง่าสำหรับคนพูดและไม่สง่าสำหรับคนถูกเลือกด้วย ดีที่สุด ผมว่าให้เตรียมตัวมาชี้แจง” นายวิทยา กล่าว
ก.ก.แนะพท.ให้‘เศรษฐา’แสดงวิสัยทัศน์
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.รองเลขาธิการพรรคก้าวไกลกล่าวถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯว่าแคนดิเดตนายกฯที่จะมาทำงานให้ประชาชน 4 ปีข้างหน้า ควรให้สส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนได้สอบถามถึงทิศทางการบริหารประเทศ เพราะที่ผ่านเมื่อครั้งโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ก็ได้เปิดกว้างให้ สส.สอบถามถึงแนวปฏิบัติ ซึ่งการเลือกนายกฯครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นมา ถ้าหาก สส.มีอะไรจะสอบถาม ก็สามารถเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ และชี้แจงได้ แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล อาจจะไม่อภิปรายคุณสมบัติ เพราะที่ผ่านมาผ่านการเลือกตั้ง และประชาชนได้ตัดสินใจไปแล้ว
แทงกั๊กโหวตอ้างยังไม่เห็นหน้าตารบ.
เมื่อถามถึงทิศทางการโหวตนั้น นายณัฐชากล่าวว่าที่ประชุม สส.ก้าวไกล มีมติไปแล้วว่าจะไม่โหวตสนับสนุนนายเศรษฐาเนื่องจากยังมีความคลุมเครือในการจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่เห็นหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่าเป็นอย่างไร โดยพรรคก้าวไกล จะให้โอกาสถึงวันที่21ส.ค.นี้ จะสรุปอีกครั้งว่าจะโหวตไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็จะโหวตไม่เห็นชอบ และต้องรอที่ประชุมว่าจะเสนอให้มีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ พรรคก้าวไกลถึงจะมีมติลงคะแนนเสียงให้อย่างไร
ลั่นมีช่องพร้อมหนุน‘พิธา’อีกครั้ง
นายณัฐชายังยืนยันว่า หากมีช่องทางมาสนับสนุนนายพิธ าเป็นนายกฯได้ พรรคก้าวไกลก็จะทำเพราะเป็นสิ่งที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน วันนี้ 151เสียงของพรรคก้าวไกลก็ยังยืนหยัดที่อยากจะต่อสู้เพื่อเพื่อความต้องการของประชาชน แต่เนื่องจากเราไม่สามารถทำได้ เพราะเราไม่มีเสียงสนับสนุน ดังนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าการเลือกตั้งสำคัญและการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองหนึ่งใด หรือการตัดสินใจเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่ เป็นตัวแทนของเรานั้น ต้องสังเกตดีๆในการโหวตครั้งนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของท่านได้หรือไม่
ปธ.นัด22ส.ค.โหวตนายกฯ10โมง
เวลา13.30น.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมายและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประชุมรัฐสภา เพื่อหารือถึงแนวทางการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่22 สิงหาคมนี้ ที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต่อมา เวลา15.40น. ประธานรัฐสภากล่าวภายหลังประชุมว่าในการประชุมร่วมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 22ส.ค. จะเริ่มในเวลา10.00น.จากที่เคยกำหนดเวลา 09.30น. เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ที่อาจจะมีการปิดถนนในบริเวณรอบรัฐสภา โดยจะแจ้งให้ที่ประชุมวิปสาม ฝ่ายรับทราบ ในวันที่ 18ส.ค.นี้อีกครั้ง
ดันถกญัตติ‘โรม’ต่อ/เร่งหาข้อยุติ
ส่วนญัตติของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลกรณีขอให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 19ก.ค.จะให้เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯซ้ำได้หรือไม่ ซึ่งค้างวาระอยู่ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 4ส.ค.นั้น แต่ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วทำให้สภาฯดำเนินการเลือกนายกฯต่อไปได้นั้น ก็ถือว่ายังค้างอยู่ในวาระ เพราะยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น เมื่อเปิดการประชุมรัฐสภาใน วันที่22ส.ค.จะพยายามให้เรื่องดังกล่าวได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด เพราะมีเรื่องการโหวตนายกฯรออยู่
โหวตนายกฯบ่าย3โมงจบ5โมงครึ่ง
นายวันนอร์กล่าวว่าสำหรับการประชุมวิป3 ฝ่าย ในวันที่18 ส.ค.จะหารือว่าวาระทั้งหมด จะใช้เวลาเท่าใด อาทิ การทบทวนญัตติของนายรังสิมันต์ จะใช้เวลาเท่าใด โดยฝ่ายกฎหมายเตรียมไว้ว่า จะให้โหวตนายกฯในเวลา15.00น.และรู้ผลโหวตในเวลา17.30น.ให้ทุกอย่างเรียบร้อย
ส่วนเรื่องเสียงโหวตแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยจะมีเพียงพอหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ที่ต้องมีความพร้อมในการเสนอชื่อ ตนไม่ทราบ แค่เตรียมความพร้อมของรัฐสภา พรรคการเมืองจะเสนอใครเป็นเรื่องของเขาที่ต้องมีความพร้อมในการเสนอ เราไม่ทราบว่าเสียงของเขาจะเพียงพอหรือไม่
ยันไม่เลื่อน-เดินหน้าตามกำหนด
เมื่อถามว่าหากแนวโน้มเสียงโหวตนายกฯยังไม่เพียงพอ จะสามารถประสานรัฐสภาเพื่อเลื่อนโหวตนายกฯในวันที่22ส.ค.ได้หรือไม่ ประธานรัฐสภากล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีใครประสานมา เมื่อกำหนดวาระประชุมแล้ว ในวันที่18ส.ค.จะออกระเบียบวาระประชุม ถือว่าทุกคนมีความพร้อม ใครจะได้โหวตเป็นนายกฯต้องมีเสียง375 เสียงขึ้นไป ระยะเวลานานมากแล้ว ฝ่ายการเมืองควรต้องมีความพร้อม
วิป3ฝ่ายถกให้แคนดิเดตโชว์วิชั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่มีข้อเสนอให้ ผู้ถูกเสนอชื่อโหวตเป็นนายกฯ ต้องแสดงวิสัยทัศน์นั้น ที่ประชุมได้หารือกัน โดยยกข้อบังคับและรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณา พบว่าไม่มีประเด็นใดที่กำหนด หรือบังคับให้ผู้ถูกเสนอชื่อ ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ ต่างจากการเลือกประธานและรองประธานสภาฯที่ข้อบังคับกำหนดไว้ อย่างไรก็ดี หากมีผู้ประสงค์ให้ผู้ถูกเสนอชื่อเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาสามารถเสนอเป็นญัตติและลงมติชี้ขาดได้ แต่ในมติของรัฐสภานั้นไม่มีอำนาจบังคับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกปฏิบัติตาม ดังนั้น ในประเด็นดังกล่าว ต้องขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งในการประชุมวิป3ฝ่ายวันที่ 18 ส.ค.นี้คาดว่าจะมีการซักถามในประเด็นดังกล่าวด้วย
‘เพื่อไทย’ดีลรทสช.ยังไม่เรียบร้อย
บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันเดียวกัน มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้นัดพูดคุยกับแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นต้น ที่อาคารสภาผู้แทนราษฎรนช่วงเช้า
ทั้งนี้ ในวงการพูดคุย มีการพูดคุยถึงเรื่องโควตารัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรครทสช.โดยพรรค รทสช.ต้องการให้พรรคเพื่อไทย ระบุสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี จำนวน 4 เก้าอี้ ที่พรรครทสช.จะได้ว่าจะได้ในกระทรวงใดบ้าง โดยในสัปดาห์นี้ซึ่งการพูดคุยจะยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากยังไม่ลงตัวในส่วนเก้าอี้ รมว.พลังงาน ที่ยังเป็นปัญหา โดยพรรครทสช.มีความต้องการอยากให้คนของพรรคเพื่อเข้าไปสานงานต่อตามเดิม แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าเก้าอี้รมว.พลังงาน ควรเป็นของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจนใกล้วันโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 22 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้แจ้งแถลงข่าวด่วน ในเวลาเวลา 17.30น.ซึ่งนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรค จะเป็นผู้แถลงข่าว ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ
‘ภูมิธรรม’รับต่อสายคุย‘รทสช.’
ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยหลังมีกระแสข่าวว่าวันนี้(17 ส.ค.)พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการจัดตั้งรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่นายภูมิธรรม ระบุว่า “ก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ การจัดตั้งรัฐบาลก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะพรรคที่อยากจะร่วมมือกันก็ต้องหารือกันต่อเนื่อง แล้วต้องใช้เวลาคุยกันไปเรื่อยๆ”
เมื่อถามว่าทำไมตอนนี้ยังไม่มีการคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าไม่ได้คุย พร้อมย้ำว่ายังคุยกันเรื่อยๆ เชื่อมั่นว่าเป็นไปในทางที่ดี สิ่งที่พรรคเพื่อไทย นำเสนอเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและพรรคเพื่อไทยก็เลือกคนที่มีความเหมาะสม ความสามารถที่มีอยู่จะแก้ไขปัญหาของประเทศในยามความวิกฤตได้
“ส่วนพรรคร่วมที่จะตั้งรัฐบาล ด้วยกันก็คุยกันมาอย่างต่อเนื่อง คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ที่ว่าอย่างนู้นอย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่ ของจริงมันอยู่ที่การคุยกันจริงๆ” นายภูมิธรรม ย้ำ
เชื่อมั่นคุยเป็นไปในทางที่ดี
เมื่อถามว่าทำไมตอนนี้ยังไม่มีการคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้คุย พร้อมย้ำว่า ยังคุยกันเรื่อยๆและเชื่อมั่นว่าเป็นไปในทางที่ดี สิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล พรรคเพื่อไทยก็เลือกคนที่มีความเหมาะสม ความสามารถที่มีอยู่จะแก้ไขปัญหาของประเทศในยามความวิกฤตได้
“เท่าที่ประสานงานกันมาตลอด ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าจะเป็นปัญหา รู้สึกว่ามีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน การคุยเป็นทางการ ก็ได้เริ่มต้นแล้วและได้คุยกับทุกพรรคเรื่อยๆ การคุยต้องทำความเข้าใจกันหลายเรื่องที่ผ่านมา ก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไปด้วยดีทั้งหมด”รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ
ก่อนโหวต22ส.ค.ทุกพรรคต้องชัด
เมื่อถามว่าหากไม่รวมเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ36เสียง จะได้เสียงถึง 375 หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ถ้าประกาศว่ามีกี่พรรค กี่คน ก็ได้เท่านั้น ก่อนโหวต ก็จะมีการประกาศความชัดเจน ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนขอให้รอดูไม่เกินวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่จะเป็นภาพแบบใด ยังไม่ทราบ แต่ทุกคนต้องยืนยันสิ่งที่เขาคิด ตนเชื่อว่าวันที่ 22 ที่เป็นวันโหวต ทุกพรรคต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน
ยันยังไม่คุยโควต้าแบ่งกระทรวง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการพูดคุยกันนั้น ที่ยังเจรจาต่อรองกันไม่ได้เป็นเพราะโควต้ากระทรวงต่างๆที่ยังไม่ลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยัน ยังไม่เคยลงลึกไปถึงเรื่องกระทรวงต่างๆเพียงแค่คุยว่าทั้งหมดจะร่วมกันจับมือเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตกันไปได้อย่างไร ที่สำคัญคือ วิกฤตที่เป็นปัญหาของประชาชน รวมถึงการสลายความขัดแย้ง ถ้าหากได้ทำงานร่วมกันก็จะเป็นสิ่งที่ดี
ส่วนกรณีที่พรรคร่วมหลายพรรคต้องการที่จะมีการจัดสรรแบ่งกระทรวง ให้จบก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม ถามกลับว่า ใคร ครับที่ว่า”ก่อนย้ำว่า ตนได้ยกหูโทรศัพท์ คุยกันทุกวัน แต่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ตนก็ยังงงอยู่ เราก็เปิดใจคุยกันตรงๆ อยู่แล้ว ไม่น่าจะกังวลอะไรอย่างที่สื่อกังวล
ซาวด์เสียงสว.!เศรษฐา’ฝ่าด่าน ยาก
ขณะที่นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงการพิจารณาโหวตนายกฯในวันที่ 22ส.ค.ว่า เสียง สว.ยังไม่นิ่ง แต่ส่วนใหญ่ มีคำตอบในใจแล้ว ดูแนวโน้มแล้ว เชื่อว่าชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย คงผ่านยาก เพราะสว.ยังติดใจประเด็นเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ในทางธุรกิจ ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดิน แต่นายเศรษฐาไม่เคยออกมาชี้แจงให้ชัดเจน อีกทั้งยังไม่รู้จะมาชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 22ส.ค.หรือไม่ เหตุใดไม่กล้ามาชี้แจงต่อสว.จะอ้างว่า ข้อบังคับการประชุมไม่ได้บังคับและสมัยเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชิงตำแหน่งนายกฯทั้ง 2คน ก็ไม่มีการแสดงวิสัยทัศน์
หลายปมยังคลุมเครือ-ปัจจัยไม่เอื้อ
“ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงท่าทีพรรคเพื่อไทยก็แสดงความชัดเจน ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะรีบเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ตั้งแต่การประชุม ครม.นัดแรก ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนไม่เอื้อต่อการให้นายเศรษฐาได้รับการยอมรับจาก สว. รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่ สว.ให้พิจารณาคนเป็นนายกฯ ดังนั้น สว.ต้องพิจารณาบุคคลที่ไม่ขัดคุณสมบัติ มีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เรายึดผลประโยชน์ประเทศ ไม่ได้ยึดอารมณ์เป็นที่ตั้ง” นายจเด็จ ย้ำ
เมื่อถามว่าถ้าชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่านความเห็นชอบในวันที่ 22ส.ค. หากมีการเสนอชี่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ขึ้นมาโหวตแทน หรืออาจส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ3 จัดตั้งรัฐบาลแทน สว.จะยอมให้การสนับสนุนหรือไม่ นายจเด็จ ตอบว่ายังตอบไม่ได้ ต้องพิจารณาสถานการณ์ก่อน การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี