สื่อนอกมอง"ชินวัตร" ตระกูลใหญ่การเมืองไทย "รัฐประหาร-ยุบพรรค"ฆ่าไม่ตาย-ความนิยมยังแรง
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ เสนอรายงานพิเศษ Why two coups cannot keep Thailand’s Shinawatra clan down ว่าด้วย “ชินวัตร (Shinawatra)” หนึ่งในตระกูลใหญ่ของการเมืองไทย ซึ่งแม้จะถูกกองทัพทำรัฐประหารไป 2 ครั้ง แต่ก็ยังรักษาอิทธิพลต่อการเมืองไทยไว้ได้อย่างสูง และล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร (Thaksin Shinawatra) อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้นำของตระกูลดังกล่าว อาจมีแผนเดินทางกลับไทยในเร็วๆ นี้ หลังจากลี้ภัยอยู่ในต่างแดนนานถึง 15 ปี
1.ตระกูลชินวัตรมีที่มาอย่างไร? : พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากชาวจีนอพยพที่แต่งงานกับหญิงไทยในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 (ปี 2343-2442) และกลายเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของการเมืองไทย พวกเขามีตัวแทนถึง 2 คน ที่ไปถึงจุดสูงสุดทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี คนแรกคือ ทักษิณ ที่ชนะเลือกตั้งถึง 2 สมัย ในปี 2544 และ 2548 แต่ถูกทำรัฐประหารในปี 2549 และหนีออกจากประเทศไทยในปี 2551 โดยอ้างว่าความผิดฐานคอร์รัปชั่นที่เขาต้องเผชิญนั้นที่มาของคดีเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง
ส่วนอีกคนหนึ่งคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (Yingluck Shinawatra) น้องสาวของเขา ก็ชนะเลือกตั้งในปี 2554 และกลายเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทย ก่อนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี 2557 ตามคำสั่งศาล และหลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลก็ถูกทำรัฐประหาร และล่าสุดกับ แพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) ลูกสาวของทักษิณ ถูกเสนอชื่อในนามพรรคเพื่อไทย เพื่อชิงตำแหน่งนายกฯ ในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล ที่มีฐานเสียงเป็นคนรุ่นใหม่และคนเมือง
2.ตระกูลชินวัตรสร้างความมั่งคั่งได้อย่างไร? : ทักษิณได้แสดงภาพตนเองว่าเป็นคนที่สร้างตัวเองจากชนบท แต่ครอบครัวค่อนข้างร่ำรวยเมื่อเขาโตขึ้น ต้นกำเนิดของความมั่งคั่งของตระกูชินวัตรคือธุรกิจผ้าไหมที่บรรพบุรุษของเขาก่อตั้งขึ้นในภาคเหนือของประเทศในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 (ปี 2443-2542) หลังเป็นตำรวจได้ 14 ปี ทักษิณได้ผันตัวมาเป็นนักธูรกิจ เริ่มต้นจาธุรกิจค้าปลีกผ้าไหม โรงภาพยนตร์ อสังหาริมทรัพย์ และเช่าซื้อคอมพิวเตอร์ โดยประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ก่อนจะร่ำรวยจากเทคโนโลยีที่เฟื่องฟูในทศวรรษ 1980 และ 1990 (ปี 2523-2542)
จุดเริ่มต้นของทักษิณในธุรกิจคอมพิวเตอร์และความสัมพันธ์ทางการเมือง ทำให้เขาได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการบริการเพจเจอร์และโทรศัพท์มือถือ เคเบิลทีวีแบบสมัครสมาชิกเพื่อรับชม เครือข่ายข้อมูล บัตรโทรศัพท์และดาวเทียม ในช่วงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ชินคอร์ปของเขาซึ่งปัจจุบันเรียกว่าอินทัช โฮลดิ้งส์ เป็นเจ้าของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย และบริษัทดาวเทียมชิน แซทเทิลไลท์ (ปัจจุบันคือไทยคม) ชินคอร์ปถูกขายให้กับบริษัทการลงทุนของรัฐเทมาเส็กในสิงคโปร์ในปี 2549
คนในครอบครัวของทักษิณ คืออดีตภรรยา ลูกชาย 1 คน และลูกสาว 2 คน ถือหุ้นใหญ่หรือมีอำนาจควบคุมในบริษัทต่างๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงการรักษาพยาบาลและการต้อนรับ บริษัทเหล่านั้นบางส่วนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย รวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ SC Asset ที่บริหารโดยลูกเขยของทักษิณ
3.ทำไมฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ชอบตระกูลชินวัตร? : อิทธิพลจากการเลือกตั้งและการเงินของชินวัตรทำให้พวกเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวกับชนชั้นนำดั้งเดิมที่มีอำนาจของประเทศไทย ความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจของทักษิณและความเชื่อเรื่องความทะเยอทะยานและศักดิ์ศรีส่วนตัวของเขา สะท้อนความฝันแบบอเมริกันและเริ่มทำให้คนไทยทั่วไปจำนวนมากเริ่มไม่พอใจกับรูปแบบการปกครองของผู้นำทางการเมืองคนก่อนๆ
ในขณะที่คนไทยที่ร่ำรวยกว่า มีการศึกษาดี และอาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากกล่าวหาว่าทักษิณมักเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ใช้นโยบายประชานิยมและคอร์รัปชัน แต่ทักษิณกลับได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยากจนและชนชั้นแรงงานในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ของไทย และได้ประโยชน์จากโครงการเศรษฐกิจแลกเงินก้อนโต จนมีคำเรียกว่า “ทักษิโณมิกส์” การเกิดขึ้นของฝ่ายสนับสนุนทักษิณถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อลำดับชั้นทางสังคมของประเทศ
4.ทำไมตระกูลชินวัตรถึงยังได้รับความนิยม? : หลังจากเกิดวิกฤติการเงินในเอเชีย (วิกฤติต้มยำกุ้ง) ในปี 2540 ทักษิณได้ใช้จ่ายอย่างหนักกับมาตรการเพื่อคนระดับฐานรากที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ เช่น แผนการพักชำระหนี้สำหรับเกษตรกร โครงการที่อยู่อาศัยราคาประหยัด และสินเชื่อสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ “หลักประกันสุขภาพถ้วยหน้า” ในปี 2545 ปฏิวัติการเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับคนยากจน ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยถึง 47 ล้านคน หรือร้อยละ 70 ของทั้งประเทศ ได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้
ความภักดีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้มีรายได้น้อย ช่วยให้พรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับทักษิณได้รับที่นั่งในรัฐสภามากที่สุดในการเลือกตั้ง 4 ครั้งติดต่อกันระหว่างปี 2544-2562 ไม่ว่าจะถูกกองทัพทำรัฐประหารหรือถูกศาลสั่งยุบพรรคก็ตาม ผู้สนับสนุนทักษิณได้ก่อตั้งขบวนการ "คนเสื้อแดง" เพื่อประชาธิปไตยในปี 2550 เพื่อประท้วงการรัฐประหารทักษิณ และมักปะทะกับกลุ่ม "เสื้อเหลือง" มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่พยายามกำจัดตระกูลชินวัตรออกจากการเมืองไทย
5.ทำไมทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ต้องไปอยู่ต่างแดน? : ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาทักษิณว่าใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัว การขายหุ้นส่วนใหญ่ของชินวัตรในชินคอร์ปให้กับบริษัทต่างชาติถูกมองว่าเป็นฟางเส้นสุดท้าย และการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็นำไปสู่การล่มสลายของเขาในที่สุด ขณะที่ทักษิณก็อ้างว่ามีความพยายามลอบสังหารเขาทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร 2549 ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัยหากยังคงอยู่ในประเทศไทย
ทักษิณตัดสินใจหลบหนีในปี 2551 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาคอร์รัปชัน เขาใช้เวลาหลายปีระหว่างการเดินทางระหว่างฮ่องกง สิงคโปร์ ดูไบ และลอนดอน และถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีรับสินบน 4 คดี ความผิดรวมถึงการปกปิดหุ้นอย่างผิดกฎหมายในชินคอร์ปและความขัดแย้งทางผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินกู้ธนาคารของรัฐแก่เมียนมาที่เอื้อประโยชน์ให้กับชินแซทเทิลไลท์ ทั้งนี้ หากทักษิณเดินทางกลับไทย อาจต้องรับโทษจำคุกถึง 10 ปี ขณะที่ยิ่งลักษณ์หลบหนีในปี 2560 และต่อมาศาลตัดสินจำคุกเธอเป็นเวลา 5 ปี ฐานประมาทเลินเล่อทางอาญาในโครงการอุดหนุนข้าวที่ทำให้รัฐเสียหายหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี