ลดราคาดีเซล-ไฟฟ้า-พักหนี้
‘เศรษฐา’จัดให้
ครม.นัดแรกสั่งลุยเดินหน้า
เร่งแก้แล้ง/น้ำท่วมอีสาน
‘หมอชัย’นั่งโฆษกรัฐบาล
พท.สั่งรับมือถล่มนโยบาย
ปชป.จัด15สส.ร่วมชำแหละ
“เศรษฐา” ควง “ธรรมนัส” พร้อมทีมรัฐมนตรี “เพื่อไทย” เยือนขอนแก่น ชาวอีสาน 20 จว.แห่ต้อนรับผูกผ้าขาวม้าเกือบถึงหน้าอก ตะโกนเชียร์ นายกฯเศรษฐาจะพาเป็นเศรษฐี ก่อนรับฟังความเห็นแก้ภัยแล้ง อุบลรัตน์-น้ำพอง เดินหน้า แก้ปัญหาให้ประชาชน ย้ำ ครม.นัดแรก มีมาตรการบรรเทาทุกข์ ลดราคาน้ำมันดีเซล-ไฟฟ้าเร่งมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ลุยพักหนี้-ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ “เพื่อไทย” เคาะวันประชุมใหญ่ 16 ตุลาคม เลือก กก.บห.ชุดใหม่“ภูมิธรรม” ปัด “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหน.พรรค ชี้มีคนเหมาะสมหลายคน เดินหน้าแถลงนโยบาย เชื่อ2วันเหมาะสม
เมื่อเวลา 08.15น.วันที่ 8กันยายน ที่ จ.ขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบปะชาวขอนแก่น
โดยมี สส.ขอนแก่นและอดีต สส.ขอนแก่น ได้แก่ นายภาควัต ศรีสุรพล นายสิงหภณ ดีนาง นายสุรพจน์เตาะเจริญสุข น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร นายวันนิวัติ สมบูรณ์ นายชัชวาล พรอมรธรรม น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ นายจตุพร เจริญเชื้อ และนางมุกดา พงษ์สมบัติ รวมทั้งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ
ชาวอีสาน20จว.แห่ต้อนรับนายกฯ
จากนั้นนายกฯและคณะ เดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลหลักเมือง อ.เมือขอนแก่น ซึ่งมีกลุ่มชาวอีสาน 20จังหวัดมารอต้อนรับ ได้ผูกผ้าขาวม้าและมอบพวงมาลัยให้นายกฯ ซึ่งชาวขอนแก่นได้ผูกผ้าขาวม้ากันด้วยความชื่นมื่น ทำให้นายกฯมีผ้าขาวม้าเต็มเอวจนเกือบถึงหน้าอก พร้อมกันนี้ ยังมีชาวขอนแก่นส่งเสียงตะโกนว่า“นายกฯเศรษฐาพาไปเป็นเศรษฐี”ด้วย ก่อนเดินทางมารับประทานอาหารเช้าที่ร้านเอมโอช ซึ่งเป็นร้านอาหารเช้าชื่อดังของขอนแก่น จากนั้นนายกฯและคณะ เดินทางต่อไปยัง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อเยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนที่อยู่ ทั้งในพื้นที่ชลประทานและในพื้นที่นอกชลประทาน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ่ พื้นที่ทำกิน และการบริหารจัดการน้ำ
ครม.นัดแรกคลอดลดดีเซล-ไฟฟ้า
จากนั้น นายเศรษฐา ลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ การบริหารจัดการน้ำและปัญหาของพี่น้องเกษตรกร โดยนายกฯได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทานสำหรับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จากนั้นได้รับฟังปัญหาโดยตรงจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้สะท้อนปัญหาภัยแล้งจากผลกระทบของเอลนีโญ และเมื่อฝนตกก็ไม่มีแหล่งน้ำสำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในลำน้ำสาขา รวมไปถึงการต่อยอดชลประทานระบบท่อ ในส่วนของปัญหาของพี่น้องเกษตรกรซึ่งสะสมมานานโดยเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าว ยังมีปัญหาเรื่องพันธุ์ข้าว ที่ขาดแคลนและขาดการพัฒนามายาวนาน รวมถึงปัญหาของพี่น้องเกษตรกร ที่ประสบกับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ รายได้ของพี่น้องเกษตรกรรวมถึงเรื่องปัญหาหนี้สินที่รุมเร้ามานาน
เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วมอีสาน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนสำหรับการสะท้อนปัญหาต่างๆซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ไม่ท่วมไม่แล้งเพื่อพี่น้องเกษตรกร เราเชื่อว่าการลงทุนด้านการเกษตร การพัฒนาพื้นที่ชลประทาน เป็นเรื่องที่รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะให้ความสำคัญมากที่สุด ส่วนที่ยังเป็นห่วงขณะนี้เป็นเรื่องในระยะสั้นคือปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงกองทัพและกระทรวงมหาดไทย ที่จะมีการประสานงานกันเพื่อพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ขุดลอกแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าเราจะดูแลอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและรายได้ของพี่น้องเกษตรกร เป็นเรื่องสำคัญมากของรัฐบาล โดยรัฐบาลมีแนวนโยบายยกระดับรายได้สุทธิของเกษตรกร ด้วยการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ทำให้รายได้สุทธิของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องการลดค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแลงและเพิ่มผลิตผลต่อไร่ พร้อมทั้งเปิดตลาดการค้าใหม่ โดย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการค้าโลก จะไปเปิดตลาดใหม่ๆ และหาแนวทางในการแก้ไขสนธิสัญญาต่างๆ นอกจากนี้ ในเรื่องปัญหาหนี้สิน ที่พี่น้องเกษตรกรมีความทุกข์มากๆ ในการประชุม ครม. นัดแรก จะเอาเรื่องการพักหนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.เพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนจะได้มีกำลังใจในการหารายได้อย่างเต็มที่
ไม่มีเวลาฮันนีมูน-เดินหน้าเต็มตัว
“การประชุม ครม.นัดแรก จะมีมาตรการบรรเทาทุกข์เรื่องราคาน้ำมันดีเซลกับไฟฟ้า อย่างแน่นอน นอกจากนี้ จะพิจารณาเรื่องเหมืองแร่โปแตส ซึ่งเป็นสารชั้นต้นในการทำปุ๋ย ซึ่งเรามีอยู่หลายแห่ง หากสามารถทำให้ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันได้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมาก จะทำให้ราคาปุ๋ยถูกลง ปัญหาของพี่น้องประชาชนรัฐบาลชุดนี้ตระหนักเป็นอย่างดียืนยันว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด และต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน รัฐบาลนี้ไม่มีเวลาฮันนีมูนครับ เดินหน้าเต็มตัวครับ” นายกฯ กล่าว
ยังกั๊กที่ให้‘พิชิต-ไผ่’/โฆษกรบ.ชื่อ’ชัย’
เวลา 11.00น.นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อ นสพ.ชัย วัชรงค์ คณะทำงานด้านนโยบายการเกษตร เป็นโฆษกรัฐบาลนั้น นายเศรษฐา ถามย้อนกลับมากับผู้สื่อข่าวว่า“ตั้งแล้วหรือครับ ขอดูขั้นตอนอีกครั้ง ผมรู้สึกประหม่านิดหน่อย ไม่รู้ว่าอะไรพูดได้ พูดไม่ได้ ก็เป็นรายชื่อนั้นแต่ขอดูรายละเอียดก่อน”
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องรองโฆษกรัฐบาลนั้น ไม่แน่ใจว่าพรรคร่วมรัฐบาล จะมีโควต้าด้วยหรือไม่ แต่ก็ต้องว่าไปตามกฎ เราต้องให้เกียรติด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแต่งตั้งและชื่อของใครแทน นายพิชิต ชื่นบาน รวมถึง นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่วนใครจะดูฝ่ายกฎหมายให้รัฐบาลนั้น ยืนยันว่ามีคนดูเรื่องกฎหมายหลายคน รัฐบาลมีคนที่มีความสามารถเยอะ
จากนั้น นายกฯและคณะ เดินทางไปยัง อ.น้ำพอง เพื่อพบปะประชาชนพูดคุยปัญหาความเดือดร้อนและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ความเป็นอยู่และค่าครองชีพ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นช่วงเย็นนายกฯและคณะ จะเดินทางไปรับฟังความคืบหน้าโครงการมหกรรมพืชสวนโลก อ.เมือง จ.อุดรธานี
‘ภูมิธรรม’ปัดข่าว‘อุ๊งอิ๊ง’นั่งหน.พรรค
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงวาระการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดรักษาการในวันนี้ ว่า จะพิจารณาวาระหลัก 2เรื่อง คือ 1.หลักเกณฑ์และคุณสมบัติการคัดเลือกทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) และ กมธ. ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดสรรให้ตรงกับความรู้ความสามารถ ขณะนี้การตกลงของสภาฯยังไม่เรียบร้อย และ 2. การกำหนดวันเลือกตั้งกก.บห.ชุดใหม่ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องดำเนินการภายใน 60 วันนับ คาดว่าจะจัดขึ้นราวปลายเดือนก.ย.หรือต้นเดือนต.ค.นี้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อาจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท.นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เห็นกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพรรคพท. มีบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหลายคน โดยจะต้องรับฟังความเห็นจากคนในพรรค พท.เชื่อว่าจะมีผู้ถูกเสนอชื่อมากกว่านี้ ยินดีรับฟังความเห็น
ยันถกนโยบายรบ.2วันพอแล้ว
เมื่อถามถึงในการแถลงนโยบายในสัปดาห์หน้าของรัฐบาลว่า ในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มอบเล่มนโยบายให้รัฐมนตรีแต่ละคนไปพิจารณา ซึ่งพรรค พท. ได้วางกรอบหลักไว้ และได้การยอมรับจากพรรคร่วมรัฐบาล หากนโยบายของพรรคร่วมไม่ได้ขัดกับกรอบหลักก็สามารถที่จะนำมาปรับเพิ่มเติมได้ หากนายกฯได้อ่านแถลงนโยบายเสร็จสิ้นก็ถือว่าการแถลงนโยบายจบ ย้ำว่ายินดีรับฟังความเห็นจากฝ่ายค้านที่จะอภิปราย“กรอบนี้เป็นกรอบใหญ่ที่ครอบคลุมทุกประเด็นที่เราหาเสียงไว้ และพรรคร่วมต่างๆ ได้หารือร่วมกัน ไม่ขัดต่อกรอบที่ได้พูดคุยกันไว้ ส่วนรายละเอียดอาจจะใช้เวลาของสภาฯมากเกินไป จึงคิดว่ากำหนดไว้ในการอภิปราย 2 วันน่าจะเหมาะสม
ส่วนรายละเอียดอันไหนขาดความชัดเจนก็ไปสอบถามจากรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ทุกคนสามารถชี้แจงได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามถึงการแบ่งโควตา กมธ.ของสภาฯที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ต้องการนั่งเป็นประธานกมธ.ปปช.เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่สภาฯและวิปแต่ละฝ่ายที่ตกลงกันได้ และหารือกับรองประธานสภาฯที่รับผิดชอบ ย้ำว่าไม่มีหลักปฏิบัติที่เป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกรัฐบาล แต่อยู่ที่ประชุมของพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันอย่างไร ซึ่งบางครั้งก็พูดด้านเดียวว่าเคยปฏิบัติ แบบนี้ไม่เคยปฏิบัติแบบนี้ แสดงว่ามีความคิดเพื่อแฝงซ่อนเร้นซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น แต่เป็นการตกลงด้วยความพอใจของทุกฝ่าย ย้ำว่าเป็นเรื่องของรัฐสภาที่จะต้องตกลงกันให้ได้ ซึ่งฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
พท.เลือกหน.-กก.บห.ชุดใหม่16ต.ค.
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคพท.ให้สัมภาษณ์หลังประชุมรักษาการ กก.บห.พรรคเพื่อไทย เรื่องกำหนดวันประชุมวิสามัญใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกก.บห.ชุดใหม่ ว่า คือวันที่ 16ต.ค.เวลา 13:00น.โดยจะมีการเลือกตั้ง กก.บห.ใหม่ทั้งชุด แต่จะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับการเสนอในที่ประชุม เริ่มตั้งแต่หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและกรรมการในส่วนอื่นๆ อีกเรื่องหนึ่งที่มีการหารือในวันนี้คือ เรื่องการให้ความเห็นชอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ (กมธ.) แต่ละคณะ และกรรมการแต่ละคณะในสภา ซึ่งได้มีการกำหนดไว้แล้ว และจะนำเรียนไปยังสส. ให้ทราบว่า ใครจะได้อยู่ในตำแหน่งใด และมีคุณสมบัติอย่างไร เมื่อถามว่า ในการประชุมวิสามัญใหญ่นั้น จะมีการกำหนดจำนวนกรรมการบริหารพรรคไว้อย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดในเรื่องนี้ แล้วแต่ที่ประชุมในขณะนั้นจะเสนอมา เมื่อถามว่า มีการดำเนินการเจราจาอย่างไรบ้าง ในปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานกมธ. ที่ซ้ำกับพรรคก้าวไกล นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังหารือเรื่องนี้กันอยู่ ซึ่งมีปัญหาในส่วนของกมธ. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากพรรคก้าวไกลก็ยังอยากได้ แต่หากมีการพูดคุยกัน ก็คงลงเอยกันด้วยดี ส่วนจะหารือกันอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของวิป
ใครนั่งหัวหน้าพรรคแล้วแต่ที่ประชุม
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ทราบ ยืนยันว่า แล้วแต่ที่ประชุม พรรคมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ พร้อมที่จะเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และตำแหน่งอื่นๆ ในพรรค ซึ่งคงมีการพิจารณา และลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตามข้อบังคับของพรรค เมื่อถามว่า มีสเป็คหัวหน้าพรรคอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องมีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจบทบาทพรรครวมถึงหน้าที่ที่จะต้องทำ ทั้งในอดีต และในอนาคต เพราะฉะนั้น ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็จะมีความสำคัญ เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องเป็นสส. หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็นสส.ก็จะเป็นปัจจัยบวก เมื่อถามถึงตำแหน่งข้าราชการการเมืองต่างๆ จะมีการลงมติเพื่อรับรองตำแหน่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกเลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นวาระในการประชุมครั้งต่อไป หรือในวันที่ 13 ก.ย.นี้ แต่ตนเข้าใจว่าการแต่งตั้งคงจะต้องทยอยแต่งตั้ง
‘หมอชัย’ตอบรับด้วยวาจานั่งโฆษกรบ.
ด้าน นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ คณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวพร้อมยิ้มยอมรับถึงกระแสข่าวที่จะนั่งเป็นโฆษกรัฐบาล ว่า ตนตอบรับด้วยวาจาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอความชัดเจน เรื่องการแต่งตั้ง ส่วนมีความพร้อมในการเป็นโฆษกรัฐบาลหรือไม่ นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า “พร้อมครับ”และได้หารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังแล้ว มื่อถามว่า การจะได้ทำงานกับสื่อมวลชนรู้สึกอย่างไร นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า ต้องขออนุญาตให้น้องๆ แนะนำเด็กใหม่
ว่าที่โฆษกรบ.ดอดเข้าทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าการตั้งผู้ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมเสนอชื่อ น.สพ.ชัย วัชรงค์ คณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรของพรรคเพื่อไทย เป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการแต่งตั้ง ปรากฏว่า เมื่อเวลา 14.10 น.วันเดียวกันนี้ น.สพ.ชัย เดินทางเข้ามาพบ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นผู้บริหารระดับสูงของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) นำชมห้องทำงานของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 2 และถ่ายรูปติดบัตรสำหรับข้าราชการการเมือง จากนั้นได้ชมตึกนารีสโมสรที่เป็นศูนย์แถลงข่าวของรัฐบาล ก่อนเดินทางกลับ
พร้อมรับตำแหน่งเป็นทางการ
ขณะที่ น.สพ.ชัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำนโยบายพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ต้น เน้นหนักที่นโยบายด้านการเกษตร แต่นโยบายอื่นๆตนก็ได้ร่วมถกร่วมคิดมาตลอด ดังนั้นตนมีพื้นฐานความเข้าใจในเชิงลึกของที่มาที่ไปของนโยบายพรรค ทั้งปรัชญา รวมทั้งเป้าหมาย ก็ค่อนข้างจะเข้าใจเป็นอย่างดี ข้างนอกอาจจะไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งตนได้คลุกวงในมาตั้งแต่การเขียนนโยบายพรรค
“การเข้ามาเล่นการเมืองตนใช้เวลาตัดสินใจนานหลายปีแต่พอเข้ามาเล่นการเมืองแล้วก็คิดว่าถ้าได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในด้านที่เราถนัด และในด้านที่เรามีพื้นฐานดีอยู่แล้วก็ต้องพร้อมที่จะทำ”น.สพ.ชัย ย้ำ
‘อนุทิน’แท้งกิ้วพท.เพิ่มมูลค่า‘กัญชา’
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) นำนโยบายเรื่องกัญชาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจส่วนตัวมีความพอใจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องขอบพระคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะในช่วงที่เรามีการหารือกันทางพรรคภูมิใจไทย ได้ทำความเข้าใจและอธิบายว่ากัญชาไม่ได้นำมาเป็นสันทนาการ ไม่ได้นำมามอมเมา แต่เอามาเน้นประโยชน์ในด้านการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพของประชาชน วงมันมันมีอยู่แค่นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและทางพรรคเพื่อไทยก็เข้าใจและยังถามด้วยว่าทำไมก่อนหน้านี้ข่าวที่ออกมาถึงผิดเพี้ยนไปอีกทาง ขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่ผ่านและถ้ากฎหมายผ่านสิ่งที่กลัวกันก็จะไม่เกิดขึ้น ในเรื่องนี้และในเรื่องนี้ทางพรรคภูมิใจไทยก็จะเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภา เพราะกฎหมายเก่าถือว่าตกไปแล้วซึ่งในเร็วๆนี้จะเร่งดำเนินการ โดยจะเสนอร่าง พรบ.การควบคุมการใช้กัญชาเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้งซึ่งถือว่าต้องนับหนึ่งใหม่ แต่โครงสร้างพื้นฐานมันมีอยู่แล้ว ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุขคนใหม่ และทางนายกรัฐมนตรีก็คงจะได้พิจารณาเพิ่มเติมอะไรที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
“ผมก็หวังว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวก็จะได้รับการพิจารณารวดเร็วขึ้น เพราะมีพื้นฐานอยู่แล้วและในร่างนโยบายของรัฐบาลก็เห็นเนื้อความในด้านนี้ปรากฏอยู่” นายอนุทิน กล่าว
ปชป.วาง15ขุนพลถล่มนโยบายรบ.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคปชป.กล่าวถึงการอภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 11-12 กันยายนว่า พรรคปชป.ได้รับการจัดสรรเวลาจากฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง15 นาที แต่ใจจริงอยากได้ 3ชั่วโมง แต่ได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา เพราะเสียงสส.เราไม่มากนัก และไม่ขัดข้องหมองใจใดๆ โดยพรรคปชป.เน้นอภิปรายทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีสส. แจ้งความจำนงอภิปรายมา 15 คน และตนจะเป็นผู้อภิปรายคนแรกในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ถัดจากพรรคก้าวไกล นอกจากนั้นจะมีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์และสส.ใหม่ของพรรคอีกหลายคนที่ได้เตรียมการไว้ “จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล โดยจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ตามเนื้อผ้า ให้คำเสนอแนะและตั้งคำถามที่บางนโยบายยังขาดความชัดเจน ซึ่งเป็นการตั้งคำถามแทนประชาชนที่บางเรื่องคลุมเครือและบางนโยบายไม่ตรงปก เช่น กรณีมีการสัญญาไว้ในช่วงหาเสียง แต่ไม่มีในนโยบาย โดยจะให้ความเห็นตามเนื้อผ้าตรงไปตรงมาสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินและประชาชนผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ย้ำว่า จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นฝ่ายค้านของประชาชน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานกับพรรคก้าวไกล หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ เพราะเป็นภาคบังคับ และเป็นเรื่องปกติ บางเรื่องเห็นตรงกันแต่พรรคประชาธิปัตย์ยังคงจุดยืนเรื่องความแตกต่าง เช่นไม่เห็นด้วยที่จะแตะต้องมาตรา112 ที่เรายังยึดและประกาศมาตั้งแต่ต้น อะไรที่ต้องทำหน้าที่ร่วมกันเช่นตรวจสอบรัฐบาล เป็นหน้าที่ตรวจสอบแทน ประชาชนซึ่งเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลก็จะตระหนักในตรงนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นมีการแชร์ข้อมูลร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะการอภิปรายนโยบายไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกพรรครู้หน้าที่เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังติดปัญหา นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นภารกิจของก้าวไกลซึ่งยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่เพราะเป็นสิทธิ์ที่พรรคก้าวไกลจะพิจารณาก่อนจนกว่าจะมีข้อยุติ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นจึงไม่ขอต่อประเด็นนี้
อุบวันเลือก’หัวหน้า-กก.บห.ใหม่’
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ชุดใหม่ของพรรค ว่า เป็นเรื่องภายในพรรค ยืนยันไม่มีลับลมคมใน ขอจัดการกันภายในพรรค ซึ่งขณะที่แม้ยังไม่มีกก.บก.ชุดใหม่ แต่กก.บห.ชุดรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการบริหาร แต่ยืนยันว่า ไม่ได้อยากอยู่รักษาการไปนานๆ แต่ต้องขอให้มีเวลาบริหารจัดการภายในก่อน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการคุยกันภายในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่จะนานแค่ไหนกว่าจะได้ข้อสรุปนั้นยังไม่ทราบ เมื่อถึงเวลาจะเรียนให้ทราบ
ตั้งกก.สอบ’16งูเห่าแหกมติแล้ว
นายจุรินทร์ เปิดเผยอีกว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีสมาชิกร้องเรียนกรณี 16 ส.ส.ไปลงมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดกับมติพรรคแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล แม้ไม่ใช่เป็นความลับ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อบังคับพรรค หากมีผลออกมาเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการไปตามที่ได้ตรวจสอบ
‘วันนอร์’แนะเร่งเสนอร่างพรบ.งบฯ
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รวมถึงการใช้งบประมาณในระหว่างที่รัฐบาลยังไม่เสนอร่างกฎหมายงบประมาณเข้าสู่การพิจารณา ว่า ในกรณีเข้าสู่เดือน ต.ค. ซึ่งเป็นปีงบประมาณใหม่แล้ว แต่ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามกฎหมายกำหนดให้ใช้งบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน ทั้งในส่วนงบประจำหรืองบอื่นๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีหน้าที่ต้องเร่งเสนอร่างกฎหมายงบประมาณเข้าสภา และกำหนดวันพิจารณางบประมาณเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน นับแต่เสนอร่างกฎหมายให้สภาตามรัฐธรรมนูญ
“การเสนอกฎหมายงบประมาณ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว และคิดว่ารัฐบาลก็มีความเร่งรีบพอสมควร เพราะต้องการใช้งบประมาณไปสร้างผลงาน แต่ตอนนี้ยังไม่มีการประสานงานมายังทางสภา โดยคาดว่าในวันที่มีการแถลงนโนบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงได้พบกับนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงเรื่องนี้ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้น่าจะทำได้เร็ว เพราะรัฐบาลต้องการนำงบประมาณไปใช้” ประธานสภาผู้แทนฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี